xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ เล่นกับไฟ...

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



เหมือนอยู่ในสภาพเลือดเข้าตา ธาตุไฟรวนหนัก เพราะทำอะไรไม่ได้ดังใจ อำนาจที่คิดว่าตัวเองมีคับประเทศนั้น ไม่ได้เป็นดังว่า ดังนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำทำเนียบขาวจอมกร้าว ผู้ถ่มน้ำลายรดฟ้า ก็เปิดฉากเล่นบทใหม่ คราวนี้เล่นกับไฟอารมณ์ของคน

ทรัมป์ยุให้ประชาชนอเมริกันในรัฐที่มีมาตรการควบคุมปิดเมืองเข้มข้น โดยเฉพาะในรัฐที่ผู้ว่าฯ สังกัดพรรคเดโมแครต ออกมาประกาศอิสรภาพ และใช้ชีวิตอย่างไม่มีข้อห้ามหรือกฎระเบียบขวางกั้น สาวกทรัมป์ก็สนองตอบทันใจเช่นกัน

มีรถก็เอารถมาขับเป็นขบวนยาวหลายไมล์ในรัฐมิชิแกน ชุมนุมเรียกร้องหน้าที่ทำการรัฐ เรียกร้องให้ผู้ว่าหญิงเหล็ก “เกรทเชน วิทเมอร์” ประกาศปลดล็อกเมือง เพื่อให้อเมริกันใช้ชีวิตตามปกติ เพราะทุกวันนี้ตกงาน อยู่ในสภาพขาดรายได้

ไม่ใช่เฉพาะรัฐมิชิแกน ทรัมป์ยังป่าวร้องให้สาวกออกมาชุมนุมในรัฐเวอร์จิเนีย และมินนิโซตา ซึ่งผู้ว่าการรัฐก็สังกัดพรรคเดโมแครตเช่นกัน แต่ว่าไม่มีเหตุร้อนแรงเท่ากับในรัฐมิชิแกน ซึ่งเมืองหลวง “แลนซิ่ง” มีพลเมืองประมาณ 1.14 แสนคน

ผู้ออกมาชุมนุมอ้างว่าผู้ว่าฯ ต้องเลิกปิดล็อก เพราะต้องให้กิจการต่างๆ กลับสู่สภาพเดิม ให้มีการจ้างงาน คนมีรายได้ ทั้งๆ ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสยังเพิ่มไม่หยุดรวมทั้งคนเสียชีวิต ตามคำประกาศ “อเมริกาต้องมาก่อน” และยังไม่สร่างซา

รัฐมิชิแกนอยู่ในอันดับ 3 ที่มีการติดเชื้อมากที่สุด รองจากรัฐนิวยอร์ก ซึ่งมีตัวเลขผู้ติดเชื้อมากถึง 1.35 แสนคน เสียชีวิต 1.3 หมื่นคนวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามมาด้วยรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งอยู่ติดกัน คาดว่าคนติดเชื้อจะมากถึง 1 ล้านคนก่อนสิ้นเดือนนี้

ทรัมป์เหมือนนักมวยแผลแตกเต็มหน้า เลือดเข้าตาไม่หยุด ทั้งมึนงงกับสถานการณ์ที่ตัวเองเป็นผู้นำชาติมหาอำนาจควบคุมอะไรไม่ได้ ต้องต่อสู้กับเชื้อโรคที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ที่ผ่านมา ไม่ยอมรับความผิดพลาด ไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น

โชว์รูปแบบพฤติกรรม “เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น” โกหกเป็นไฟ ใช้ข้อมูลเท็จปั่นหัวชาวบ้านหวังสร้างความนิยมเพราะตัวเองเล็งเห็นแล้วว่าถ้าจัดการปัญหาไวรัสไม่ได้ โอกาสจะชนะการเลือกตั้งอีก 1 สมัย คงจะไม่ง่ายเหมือนที่เคยหวัง

การที่ทรัมป์ประกาศให้คนอเมริกัน “ปลดปล่อย” ตัวเองให้มีอิสรภาพจากการควบคุมนั้นเป็นเพราะทรัมป์อยากให้ธุรกิจเปิดตัว เดินหน้าต่อไป แต่ตัวเองไม่มีอำนาจเหนือผู้ว่าการรัฐ ซึ่งมีสิทธิและอำนาจออกกฎควบคุมการติดเชื้อระบาดได้

ท่าทีเช่นนี้ เป็นอันตรายมาก เพราะอเมริกาเป็นสังคมปืน และทรัมป์ก็จี้จุดอ่อนไหวของสังคมอเมริกัน ซึ่งมีสิทธิครอบครองอาวุธปืนเพื่อป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เห็นได้ว่าผู้ไปชุมนุมถือปืนไรเฟิลโชว์กลางเมือง

เป็นปืนจริงหรือปืนปลอม แต่ที่เห็นไม่น่าจะใช่ของปลอม นี่เป็นรูปแบบประชาธิปไตย คนมีสิทธิที่จะออกมาติดเชื้อโรค เสี่ยงตายได้ทั้งนั้น ถ้าการปิดเมืองจะทำให้อดตาย ต่างจากสังคมจีนซึ่งผู้นำมีอำนาจสูงสุด สั่งต้นชี้ตายปลายชี้เป็นก็ได้

การที่จีนสกัดการระบาดเด็ดขาดด้วยการปิดเมือง ห้ามคนออกนอกบ้าน เป็นเพราะกฎเข้ม และวินัยในการเชื่อฟังผู้นำ ทั้งกลัวตายเมื่อเห็นการระบาดทำให้คนตายเป็นเบือ แต่หยุดได้มีตัวเลขคนติดเชื้อต่ำกว่า 8.5 หมื่นราย ตายไม่ถึง 4 พันคน

ต่างจากยุโรป เช่น อิตาลี สเปน เยอรมนี อังกฤษ ซึ่งติดเชื้อแต่ละประเทศกว่า 1 แสนคน คนอิตาลีตาย 2 หมื่นกว่าคน และสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อเกือบ 8 แสนราย

เมื่อเห็นตัวเลขเขยิบสูงทุกวัน ย่อมทำให้ทรัมป์สติหลุดขั้ว หันมาเล่นงานองค์การอนามัยโลก ตัดเงินสนับสนุนก้อนใหญ่เกือบ 500 ล้านดอลลาร์ อ้างว่าทำงานไม่ได้เรื่อง ไม่ทันการณ์ มัวแต่อวยจีน ผู้นำหลายประเทศประณามว่าคิดสั้น

เมื่อทรัมป์หยุดจ่ายเงินสมทบ ก็มีบรรดามหาเศรษฐีควักกระเป๋าจ่ายแทนให้ ทำให้องค์การอนามัยโลกไม่ขาดแคลนเงินในการทำงานต่อสู้กับโคโรนาไวรัส

สหรัฐฯ ขาดแคลนทุกอย่างด้านเวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งช่วงนี้มีเงินก็หาซื้อได้ลำบาก ต้องรอคิวนาน หรือเพิ่มเงินซื้อด้วยการฉกจากผู้ผลิตซึ่งยอมมอบของให้แลกกับราคาสูงหลายเท่า

ยิ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่ม และยอดคนตายเก็บศพแทบไม่ทัน ความขาดแคลนก็ยิ่งสาหัส ความอดอยากเริ่มมีให้เห็นในกลุ่มคนขาดรายได้ เพราะในสังคมอเมริกัน การเจ็บป่วย การขาดรายได้เป็นเรื่องวิกฤต เพราะครอบครัวอเมริกันก็มีแต่หนี้สิน

ส่วนใหญ่คนทำงานอยู่ได้เพราะเงินเดือนต่อเดือน และชักหน้าไม่ถึงหลัง ขาดเงินออม ช่วงนี้คนต้องพึ่งสวัสดิการคนว่างงานมากกว่า 24 ล้านคน แม้แต่อาชีพเงินเดือนแพง เช่น ทนายความ สถาปนิก วิศวกรสาขาต่างๆ ผู้บริหารระดับสูง

ไม่ต้องพูดถึงกัปตันเครื่องบิน พนักงานต้อนรับ พนักงานโรงแรม และที่เกี่ยวโยงกับการท่องเที่ยว เศรษฐกิจอยู่ในสภาวะถดถอย เสี่ยงกับสภาวะตกต่ำด้วยซ้ำ

เมื่อทรัมป์เล่นกับไฟ ยุผ่านทวิตเตอร์ให้คนลุกฮือขึ้นต่อต้านอำนาจผู้ว่าการรัฐ ย่อมเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะกันด้วยกำลัง และสังคมคนมีปืนในยามที่มีการจลาจลปล้นชิงของในร้าน อย่างที่เคยเกิดขึ้นหลายครั้ง จึงถือว่าเป็นสภาวะอันตรายสุดขีด

จนมีคนคาดการณ์ว่าทรัมป์ต้องการให้เกิดจลาจลลามไปทั่ว เพื่อตัวเองจะได้หาเหตุเลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ถ้าตัวเองมองไม่เห็นโอกาสชนะ และถ้าหลุดจากเก้าอี้ ก็มีสิทธิโดนข้อหาคดีอาญาต่างๆ

รอดูว่าเมื่อทรัมป์เล่นกับไฟ ไฟจะไหม้มือ และลามจนไหม้ประเทศหรือไม่!
กำลังโหลดความคิดเห็น