อเมริกันแห่ชุมนุมต่อต้านล็อกดาวน์ ทรัมป์ถือหางทวีตเรียกร้องเปิดเมือง

เอเจนซีส์ - ชาวอเมริกันหลายร้อยคนชุมนุมต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ในเมืองต่างๆ ท่ามกลางความไม่พอใจมากขึ้นกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการกักตัว ซ้ำยังมีทรัมป์ให้ท้ายด้วยการทวิตรัวๆ “ปลดปล่อยรัฐมิชิแกน มินนิโซตา และ เวอร์จิเนีย” ซึ่งล้วนเป็นรัฐของผู้ว่าการสังกัดพรรคเดโมแครต

รายงานระบุว่า มีประชาชนราว 400 คน โดยมีบางคนสวมชุดทหารและปิดหน้า ชุมนุมภายใต้สายฝนเย็นฉ่ำในเมืองคอนคอร์ด รัฐนิวแฮมป์เชียร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (18 เม.ย.) เรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งให้ประชาชน 1.3 ล้านคน ในรัฐงดออกจากบ้านก่อนกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 4 เดือนหน้า โดยอ้างว่า ในรัฐมีผู้ได้รับการยืนยันว่า ติดเชื้อโควิดน้อยมาก ทั้งนี้ จนถึงเช้าวันศุกร์ (17 เม.ย.) มีผู้ติดเชื้อ 1,287 คน และผู้เสียชีวิต 37 คนในนิวแฮมป์เชียร์

ที่รัฐเทกซัส ประชาชนกว่า 250 คน รวมตัวในออสติน เมืองหลวงของรัฐ จัสติน กรีสส์ นักเคลื่อนไหวของกลุ่มยัง อเมริกันส์ ฟอร์ ลิเบอร์ตี้ ให้สัมภาษณ์ว่า ถึงเวลาแล้วที่จะเปิดเทกซัสให้ประชาชนกลับไปทำมาหากิน และว่า ควรปล่อยให้คนคิดเอง ไม่ใช่รัฐบาลใช้กำลังบังคับ เป็นที่น่าสังเกตว่า มีผู้ชุมนุมน้อยมากที่ปฏิบัติตามคำแนะนำในการเว้นระยะห่างทางสังคม

ผู้ประท้วงในแอนนาโปลิส เมืองหลวงของรัฐแมรีแลนด์ นั่งในรถและชูป้ายที่มีข้อความ เช่น “ความจนฆ่าคนได้เหมือนกัน” นอกจากนั้น ยังมีการประท้วงในอีกหลายเมืองทั่วอเมริกา เช่น โคลัมบัส โอไฮโอ และซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย รวมถึงในรัฐอินเดียนา เนวาดา และวิสคอนซิน

ผู้ประท้วงเหล่านี้ได้แรงเชียร์สำคัญจากทวิตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันเมื่อวันศุกร์ เรียกร้องให้ปลดปล่อยรัฐมิชิแกน มินนิโซตา และ เวอร์จิเนีย ซึ่งล้วนเป็นรัฐที่ผู้ว่าการสังกัดพรรคเดโมแครต

ทรัมป์ต้องการให้อเมริกากลับสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็ว โดยอ้างว่า การล็อกดาวน์ส่งผลกระทบรุนแรงต่อแรงงานและธุรกิจ เขายังแสดงความยินดีที่ธุรกิจบางอย่างในเทกซัสและเวอร์มอนต์จะเปิดดำเนินการอีกครั้งในวันจันทร์ (20 เม.ย.) ควบคู่กับการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเหมาะสม

นอกจากนั้น หลายรัฐที่รวมถึงโอไฮโอ มิชิแกน และ ฟลอริดา ยังประกาศเตรียมเดินเครื่องเศรษฐกิจบางส่วนอีกครั้งในวันที่ 1 เดือนหน้าหรือเร็วกว่านั้น แต่สำทับว่า จะยังคงเฝ้าระวังโรคเช่นเดิม

รอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาสังกัดพรรครีพับลิกัน เปิดหาดบางแห่งตั้งแต่เย็นวันศุกร์ แต่ย้ำว่า จะปิดโรงเรียนต่อจนสิ้นสุดปีการศึกษา

การประท้วงคำสั่งกักตัวอยู่บ้านครั้งใหญ่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่แล้ว (15 เม.ย.) ในเมืองแลนซิ่ง เมืองหลวงของรัฐมิชิแกน มีผู้ร่วมชุมนุมราว 3,000 คน

อย่างไรก็ตาม ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จากการสำรวจของพิวเมื่อเร็วๆ นี้ กังวลว่า จะมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการระบาดเร็วเกินไป

นอกจากนั้น โมเดลการวิจัยของมหาวิทยาลัยวอชิงตันที่เผยแพร่ออกมาเมื่อคืนวันศุกร์ยังระบุว่า การปฏิบัติตามคำสั่งล็อกดาวน์อย่างเคร่งครัดใน 42 จาก 50 รัฐ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แนวโน้มจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอเมริกาดีขึ้น

เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างๆ รวมทั้งทำเนียบขาวมักนำโมเดลการคาดการณ์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ที่มีการอัพเดตสม่ำเสมอ ไปใช้อ้างอิงบ่อยครั้ง โดยโมเดลนี้คาดว่า อเมริกาจะมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา 60,308 คน ภายในวันที่ 4 สิงหาคม ลดลง 12% จากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว โมเดลนี้ยังคาดว่า บางรัฐอาจเริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันได้อย่างเร็วที่สุดในวันที่ 4 พฤษภาคม

ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคน ระบุว่า ต้องมีการติดตามผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสโรค รวมถึงการตรวจหาผู้ที่เคยติดเชื้อและอาจมีภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันการระบาดรอบสองขณะที่คนกลับไปทำงาน แต่ผู้ว่าการและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐต่างๆ เผยว่า ขณะนี้ยังมีชุดทดสอบและอุปกรณ์ไม่เพียงพอ แม้รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ยืนยันเมื่อวันศุกร์ ว่า อเมริกามีศักยภาพในการทดสอบหาผู้ติดเชื้อในรัฐต่างๆ เพื่อเริ่มต้นเฟสแรกในการเดินเครื่องเศรษฐกิจก็ตาม