เอเอฟพี/ซีเอ็นเอ็น - 2 เมืองใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มเติมอีก 10 คนในวันพุธ (4 มี.ค.) ส่งผลให้ยอดรวมทั่วประเทศพุ่งเป็น 149 คน เสียชีวิต 10 ราย ขณะที่มันแพร่กระจายไปตามรัฐต่างๆ แล้วอย่างน้อย 13 แห่ง ด้านสภาคองเกรสบรรลุข้อตกลงจัดสรรงบประมาณมากกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์สำหรับต่อการกับโรคระบาดนี้
เจ้าหน้าที่ลอสแองเจลิส เคาน์ตี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังได้รับรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 คนในแถบเวสต์โคสต์ ส่วนนิวยอร์กรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม 4 คน ทั้งหมดล้วนเคยสัมผัสใกล้ชิดกับชายคนหนึ่งซึ่งผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก
จากข้อมูลล่าสุดส่งผลให้โควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนแล้ว 10 ศพในสหรัฐฯ และจนถึงตอนนี้มีผู้ติดเชื้อ 149 คน ขณะที่ไวรัสแพร่กระจายลุกลามไปหลายสิบรัฐ
ผู้ช่วยของสมาชิกสภาคองเกรสรายหนึ่งเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า พรรครีพับลิกัน และเดโมแครต บรรลุข้อตกลงจัดสรรงบประมาณสำหรับต่อสู้กับโควิด-19 เป็นเงิน 8,300 ล้านดอลลาร์ และคาดหมายว่าสภาผู้แทราษฎรจะลงมติเห็นชอบในวันพุธ (4 มี.ค.) ตามด้วยวุฒิสภาในวันพฤหัสบดี (5 มี.ค.)
เบื้องต้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ร้องของบประมาณเพียง 2,500 ล้านดอลลาร์ แต่ต่อมาเขาบอกว่ายินดีที่จะรับเงินตามจำนวนที่ทางคองเกรสจัดสรรให้
ดอกเตอร์บาร์บารา เฟอร์เร ผู้อำนวยการกรมสาธารณสุขแห่งลอสแองเจลิส เคาน์ตี เผยว่า เคสผู้ติดเชื้อ 3 ราย เป็นกลุ่มคนที่เดินทางไปทางเหนือของอิตาลีด้วยกัน ดินแดนซึ่งเป็นจุดล่อมแหลมของไวรัสซี่งคร่าชีวิตผู้คนแล้วมากกว่า 100 ศพในอิตาลี ส่วนอีก 2 คนเป็นบุคคลที่สัมผัสใกล้ชิดกับครอบครัวหนึ่งซึ่งติดเชื้อไวรัสก่อนหน้านี้ และรายสุดท้ายเป็นคนที่มีหน้าที่การงานเกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว
“มีคนหนึ่งอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนอีก 5 คนที่เหลือกักกันตนเองอยู่ที่บ้าน ภายใต้การสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดโดยกรมสาธารณสุข” เฟอร์เรกล่าว
เจ้าหน้าที่บอกว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ได้มีเป้าหมายแพร่กระจายความตื่นตระหนก แต่เพื่อสร้างความอุ่นใจว่าทางเคาน์ตีได้มีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส “มาตรการที่เราใช้ในวันนี้คือการเตรียมตัว ไม่ใช่ตื่นตระหนก” นายกเทศมนตรีเอริค การ์เซตติกล่าว
ทั้งนี้ พวกเจ้าหน้าที่คาดหมายว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้า และเรียกร้องครอบครัวทั้งหลายให้เตรียมพร้อมสำหรับมาตรการปิดโรงเรียนและยกเลิกกิจกรรมสาธารณะ
ข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (ซีดีซี) และรัฐบาลท้องถิ่น พบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วประเทศอยู่ที่ 149 ราย ในนั้นเสียชีวิต 10 คน ทั้งหมดอยู่ในรัฐวอชิงตัน และส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับผู้พักอาศัยที่บ้านพักคนชราแห่งหนึ่ง
ต่อไปนี้คือตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ แยกตามรายรัฐ
1. แอริโซนา 2 คน
2. แคลิฟอร์เนีบ 33 คน
3. ฟลอริดา 3 คน
4. จอร์เจีย 2 คน
5. อิลลินอยส์ 4 คน
6. แมสซาชูเซตต์ 2 คน
7. นิวแฮมป์เชียร์ 2 คน
8. นิวยอร์ก 6 คน
9. นอร์ทแคโรไลนา 1 คน
10. ออริกอน 3 คน
11. โรดไอแลนด์ 2 คน
12. วอชิงตัน 39 คน (ในนั้นเสียชีวิต 10 ราย)
13. วิสคอนซิน 1 คน