xs
xsm
sm
md
lg

ม.รังสิต ร่วมพัฒนาสารสกัด “ตรีผลามหาพิกัด” เพื่อร่วม “แจกสมุนไพร” ป้องกันภัย COVID-19/ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ณ บ้านพระอาทิตย์
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

ตามที่ สถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต และกรุงเทพแพทย์แผนบูรณาการสหคลินิก ได้รับเชิญจากสถาบันการแพทย์แผนไทย มูลนิธิโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเข้าร่วมโครงการรวมพลังเครือข่ายแพทย์แผนไทยสนับสนุนตำรับยาสมุนไพร ตามคัมภีร์ตักศิลา เพื่อดูแลสุขภาพและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019 : COVID -19) อันเป็นโครงการเพื่อรวบรวมองค์ความรู้จากครูภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเพื่อเตรียมการรับมือโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

โครงการดังกล่าว ได้รับการประสานงานอย่างเข้มแข็งจาก สถาบันการแพทย์แผนไทย มูลนิธิโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน กระทรวงสาธารณสุข, พวงมาลัยติกิจฉาสหคลินิก (บ้านหมอชอน สมุนไพรเพชรบุรี), มูลนิธิรักษ์ดิน รักษ์น้ำ (Earth Safe Foundation), สมาคมแพทย์อายุรเวทแผนไทยประยุกต์แห่งประเทศไทย (ในพระสังฆราชูปถัมภ์), สมาคมการประกอบการแพทย์แผนไทยประยุกต์, และเครือข่ายแพทย์แผนไทย สู้ภัย COVID-19 ตลอดจนคลินิกภาคเอกชนที่มีความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง ที่ได้พยายามผลักดันด้วยตำรับยาไทยให้ฝ่าฟันวิกฤติ COVID-19 ไปด้วยกันครั้งนี้

แต่เนื่องจากโครงการดังกล่าวนี้ยังไม่ได้มีงบประมาณภาครัฐให้การสนับสนุนใดๆ และในสถานการณ์ที่ประชาชนมีความเดือดร้อนและประสบปัญหาเศรษฐกิจรอบด้าน จึงย่อมไม่ใช่สถานการณ์ที่จะจัดจำหน่ายในทางธุรกิจเพื่อเป็นภาระของประชาชนมากขึ้นไปอีกเช่นกัน

กรุงเทพแพทย์แผนบูรณาการสหคลินิก ซึ่งเป็นคลินิกที่จัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการของ สถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต
เพื่อศึกษาและรวบรวมตลอดจนบูรณาการองค์ความรู้ของแพทย์อายุรเวทแผนไทยประยุกต์นั้นเห็นว่า ในสถานการณ์เช่นนี้มีความจำเป็นต้องมีการส่งสัญญาณ “วิชาการให้” เพื่อการเกื้อกูลและเอื้ออาทรต่อกันในสังคมไทยด้วยมรดกภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยอันทรงคุณค่า จึงริเริ่มนำร่องโครงการทดลอง “แจกสมุนไพรไทยต้านภัยCOVID-19” ให้ผู้ป่วยตามองค์ความรู้ในการประกอบโรคศิลปะของวิชาการแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ รวมทั้งแจกสมุนไพรไทยเพื่อการดูแลสุขภาพของประชาชนทั่วไปตามฤดูกาลนี้ตามกำลังเท่าที่จะทำได้ หรือจนกว่าประเทศไทยจะผ่านพ้นวิกฤติการระบาดโรคไวรัส COVID-19 ไปได้

ทั้งนี้ สถาบันการแพทย์แผนไทย มูลนิธิโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน กระทรวงสาธารณสุข และเครือข่ายแพทย์แผนไทย ได้มีการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนไทยแล้วได้ข้อสรุปจากหลักฐานพบว่า มีการบันทึกโรคระบาดในคัมภีร์ตักศิลาในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งได้กล่าวถึงการเกิดโรคระบาดหลายโรค และรวมถึงการเกิดไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดที่มีอาการคล้ายคลึงกับ COVID-19 ด้วย


โดยผลของการประชุมได้ปรากฏตำรับยาไทยที่อาจจะนำมาใช้ได้ เช่น ยาห้าราก (เบญจโลกวิเชียร) และ ยาจันทน์ลีลา และยังได้พบว่าพิกัดยาที่อาจจะนำมาใช้ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ตามฤดูกาล ได้แก่ “มหาพิกัดตรีผลา” แก้กองเสมหะ พิกัดยานี้ประกอบด้วย ตัวยามะขามป้อม 12 ส่วน สมอพิเภก 8 ส่วน สมอไทย 4 ส่วน ซึ่งมีงานวิจัยพบว่าช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้และหาตัวยาได้ไม่ยาก

นอกจากนั้นด้วยประสบการณ์ตรงของ ครูหมอชุบ แป้นคุ้มญาติ ครูหมอแพทย์แผนไทย จังหวัดอุดรธานี ผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ตำรับ “ยาขาว” ซึ่งปรากฏอยู่ในตำราศิลาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคลารามและได้มอบองค์ความรู้นี้ให้เป็นสมบัติของชาติในการต้านภัย COVID-19 ด้วยการวินิจฉัยในทางการแพทย์แผนไทยว่า COVID-19 เป็น “ไข้เหนือระคนกับไข้จับสั่น“ ตามพระคัมภีร์ตักศิลา โดยให้ใช้สรรพคุณใบมะขามผสมเหล้าขาวแล้วห่มผ้าให้ร้อนจนเหงื่อออกในเวลากลางวัน วันละ 1 ครั้งติดต่อกัน 3 วัน เพื่อใช้เป็นยาสมุนไพรสำหรับการป้องกัน และสำหรับผู้ที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงในช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ก็ควรใช้น้ำนมราชสีห์คั่วกับเหล้าขาว และให้ใช้ “ยาขาว“ ร่วมด้วยกับคนกลุ่มเหล่านี้ด้วย เพียงแต่ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนี้รัฐได้กำหนดห้ามจำหน่ายสุราทุกชนิดในช่วงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้การปรุงตำรับยาสมุนไพรดังกล่าวอาจจะพบอุปสรรคในสถานการณ์ปัจจุบัน

สำหรับตำรับยาขาวได้มีการเขียนเอาไว้ในตำราศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมัลคลาราม หรือวัดโพธิ์ว่า :

“ขนาน ๑ เอา กะเช้าผีมด หัวคล้า รากทองพันชั่ง รากชา รากง้วนหมู รากส้มเส็ด รากข้าวไหม้ รากจิงจ้อ รากสวาด รากสะแก รากมะนาว รากหญ้านาง รากผักข้าว รากผักสาบ รากผักหวานบ้าน เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บททำแท่ง ไว้ละลายน้ำซาวข้าวกินแก้ไข้รากสาด ออกดำ แดง ขาว และแก้ไข้ประกายดาษ ไข้หงษ์ระทด และแก้ไข้ไฟเดือนห้า ไข้ละอองไฟฟ้า และแก้ไข้มหาเมฆ มหานิล ซึ่งกล่าวมาแล้วนั้น และยาขนานนี้แก้ได้ทุกประการ ตามอาจารย์ท่านกล่าวไว้ ให้แพทย์ทั้งหลายรู้ว่าเปนมหาวิเศษนัก ฯ”


ทั้งนี้ ผลของการลงคะแนนผ่าน Google Form ของผู้เชี่ยวชาญการแพทย์แผนไทย ตามรายงานการประชุมพัฒนาองค์ความรู้การขึ้นทะเบียนยาแผนโบราณครั้งที่ 2/2563 วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งจัดประชุมโดยสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขปรากฏว่า “ยาขาว” เป็นตำรับที่ประชุมเห็นพ้องว่า น่าจะรักษา COVID-19 ได้มากที่สุด ในขณะที่ตำรับที่ประชุมเห็นพ้องต้องว่า “มหาพิกัดตรีผลาแก้เสมหะ” และ “ปราบชมพูทวีป”น่าจะป้องกัน COVID-19 ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม “ยาขาว” ขนานดังกล่าวนี้ แม้จะช่วยแก้โรคระบาดได้หลายชนิด รวมถึงโรคเกี่ยวข้องกับไข้หวัดและโรคระบาดในระบบทางเดินหายใจด้วย ซึ่งหากมีอาการหรือเป็นไข้แต่เนิ่นๆยาสมุนไพรขนานดังกล่าวจะเห็นผลอย่างชัดเจนได้ภายในไม่เกิน 1-2 วันนับแต่เริ่มมีอาการ แต่ยาดังกล่าวออกฤทธิ์เป็นยาเย็นดังนั้น “หากยังไม่เป็นไข้” นั้นจะต้องมีความระมัดระวังด้วย เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เกิดอาการคอแห้ง มีเสมหะอยู่ที่คอ ได้ด้วย ดังนั้นหากยังไม่มีไข้แล้วรับประทานยาขาวแล้วมีอาการเย็นเกินจนมีอาการเสมหะติดที่คอ แล้วตัวเย็นอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่า 36 องศาเซลเซียส ก็ควรจะลดหรือหยุดการใช้ หรือใช้ร่วมกับสมุนไพรฤทธิ์ร้อนเสริม เช่น น้ำขิง พริกไทย น้ำมะนาว หรือผสมมะกรูดร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม “พระคัมภีร์ตักศิลา” ซึ่งได้กำหนดเรื่องโรคระบาดระบุเอาไว้ถึง “ข้อห้ามเมื่อมีไข้เหนือและไข้พิศม์” จะไม่สามารถใช้ยารสร้อนเผ็ด หรือรสเปรี้ยวได้ ซึ่งเขียนเอาไว้ว่าความตอนหนึ่งว่า :


“ครั้งนั้นพระดาบศมีเมตตากรุณาแก่สัตว์ทั้งหลาย ซึ่งอ้อนวอนด้วยจะใคร่ให้รู้แจ้งประจักษ์เพศ ไข้เหนือไข้พิศม์นั้น มีลักษณต่างๆคืออันใดบ้าง และพระผู้เปนเจ้าจึ่งห้ามว่าไข้จำพวกนี้ย่อมห้าม มิให้วางยาร้อน เผดยาเปรี้ยว อย่าให้ประคบนวด อย่าให้ปล่อยปลิง อย่าให้กอกเอาโลหิตออก อย่าให้ถูกน้ำมัน เหล้าก็อย่าให้ถูก น้ำร้อนก็อย่าให้อาบ อย่าให้กิน ส้มมีควันผิวกะทิน้ำมันห้ามมิให้กิน ถ้าใครไม่รู้ทำผิดดังกล่าวนี้ ก็ถึงมรณภาพความตายดังนี้แล ฯ”

ดังนั้น ก่อนมีไข้ กับมีไข้แล้วการวางยาอาจไม่เหมือนกันในเรื่องยารสร้อนหรือรสเย็น แต่อีกปัจจัยหนึ่งก็คือการ “ขับของเสียออกจากร่างกาย” หรือให้แสดงอาการให้เห็นว่าเป็นโรคชนิดใด ไม่ว่าจะเป็นยากระทุ้งพิษไข้ผ่านยาเบญจโลกวิเชียร หรือยาห้าราก ที่มีรสเย็นจืด เพื่อให้แสดงออกชนิดผื่นบนผิวหนังอันจะนำไปสู่การวินิจฉัยและรักษาโรคให้ได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอนต่อๆไป หรือแนวทางการขับทางเหงื่อตามสูตรใบมะขามเหล้าขาว หรือ น้ำนมราชสีห์เหล้าขาวแล้วห่มผ้าให้ร้อนจนเหงื่อโทรมท่วมกายตามแนวทางของครูหมอชุบ แป้นคุ้มญาติ รวมถึงตำรับยาไทยที่ใช้ในการขับถ่ายของเสียผ่านอุจจาระเพื่อลดจุลชีพในร่างกาย หรือเพื่อทำให้ระบบภูมิคุ้มกันลดภาระลงจากของเสียในระบบทางเดินอาหารอันเป็นการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันโดยองค์รวมให้ดีขึ้นตามแนวทางของศูนย์ล้างพิษตับ โรงเรียนผู้นำโดยมูลนิธิพลตรีจำลอง ศรีเมือง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ในการประกอบโรคศิลปะของแต่ละสำนักนั่นเอง

ดังตัวอย่างเช่น พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงวงษาธิราชสนิท พระราชบุตรลำดับที่ 49 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรัชกาลที่ 2 เป็นต้นราชสกุลสนิทวงศ์ และเป็นแพทย์หลวงตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 และทรงกำกับกรมหมอหลวงตั้งแต่รัชกาลที่ 3-4 ได้บันทึกวิธีการรักษาไข้มาเลเลียโดยใช้ควินินแบบไทยความว่า

“ วิธีรักษายาไทยนั้น เมื่อแรกจับเทพจร ยังกำเริบอยู่ กำลังตัวยังไม่อ่อนลง ถ้าเปนดังนี้อย่าเพ่อกินยา ให้ตัดไข้ขาดทีเดียวก่อนเลย ด้วยว่าไข้มักเปนอีก เถิงยาจะมีฤทธิมากตัดขาดเร็วได้ ในเจ็ดวันเก้าวันสิบวันยี่สิบวันไข้นั้นมักมาจับอีก เปนไปดังนี้เพราะไม่ได้ถ่ายให้เทพจรอ่อนลงก่อนกินยาตัดให้ขาดนั้น


ผู้ใดเปนโรคไข้สั่น ก็ให้ถ่ายด้วยดีเกลือไทยก็ได้ ใส่ปนกับดีเกลือสักหน่อยหนึ่งให้รากออกสามหนสี่หน ถ่ายให้ลงห้าหนหกหน ให้อดของแสลงมีเนื้อสัตว์ น้ำมัน เข้าเหนียว กะปิ สุรา เปนต้น ให้รักษาดังนี้สักสองวันสามวันก่อน ภายหลังจึงให้กินยาเทศชื่อคีนิน ที่ไทยเรียกว่ายาขาว เอาคีนินนั้นหุนหนึ่งแบ่งเปนหกส่วน เมื่อไข้ส่างออกแล้ว ให้กินส่วนหนึ่ง แลในสองชั่วโมงกินทีหนึ่งๆ กินทุกทีจนถึงเพลานอนหลับกลางคืน แลเมื่อตื่นขึ้นแต่เช้ากินเหมือนดังว่ามาแล้ว จนถึงเพลาที่เคยจับ ถ้าไข้มาจับอีกก็ให้หยุดยาคีนินนั้นจนกว่าไข้จะส่างออกอีก แล้วก็รับคินินอีกเหมือนหนหลัง รักษาดังนี้ไข้คงหายขาดทีเดียว ไม่ใคร่จะกลับมาจับอีก”


ทั้งนี้ ภายหลังจากประสบการณ์การใช้ “ยาขาว” รักษาผู้ป่วยโดยตรงใน กรุงเทพแพทย์แผนบูรณาการสหคลินิก พบว่าตำรับยาดังกล่าวนี้ให้ผลดีกับกลุ่มโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ด้วย แม้กระทั่งได้ผลดีกับผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ในช่วงเวลาที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จึงเห็นสมควรที่จะ “แจกสมุนไพร” ขนานดังกล่าวนี้ให้ตามเกณฑ์เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ และเพื่อจัดเก็บข้อมูลในทางคลินิกในวิกฤติการณ์นี้ด้วย จำนวนไม่เกิน 15 ซองต่อคน จำนวนเบื้องต้น 15,000 ซอง สำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บคอ มีเสมหะ ไอ มีไข้ ปากขม ไม่รู้รส ฯลฯ

สำหรับตำรับ “ยาขาว” ข้างต้นนี้ ไม่เพียงแต่กรุงเทพแพทย์แผนบูรณาการสหคลินิกจะเป็นผู้แจกเท่านั้น แต่เครือข่ายแพทย์แผนไทยอีกหลายคลินิกที่จะร่วมแจกในโครงการนี้ด้วย ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สถาบันการแพทย์แผนไทย, เอ็มดับบลิว เวลล์เนส สหคลินิก, แพทย์อายุรเวทคลินิก การแพทย์แผนไทยประยุกต์, ทรงกลดคลินิก การแพทย์แผนไทยประยุกต์, สุวรรณคลินิก การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์, บุษราคัมคลินิก, สวาทคลินิกแพทย์แผนไทยประยุกต์, ฟาร์อีส คลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์, คลินิกการแพทย์แผนไทยสิริโภคา สำหรับคลินิกที่เข้าร่วมโครงการในการแจกจังหวัดอื่นๆ ได้แก่ พวงมาลัยติกิจฉาสหคลินิก จังหวัดเพชบุรี, หมอพิเชษฐ์ คลินิกแพทย์แผนไทยประยุกต์ จังหวัดกระบี่, อินทนิกาคลินิก การแพทย์แผนไทย จังหวัดนครราชสีมา, บุญพัฒน์คลินิกการแพทย์แผนไทย จังหวัดสระบุรี โดยจะมีการเก็บข้อมูลกรณีศึกษาเพื่อพัฒนาตำรับยาของการแพทย์แผนไทยต่อไป

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่รัฐบาลไม่ให้มีการจำหน่ายสุรา จึงไม่มีเหล้าขาวมาปรุงยาใบมะขามหรือน้ำนมราชสีห์มาเพื่อขับของเสียได้ ก็ได้ปรากฏว่า แพทย์แผนไทย จิตรา ปลอดอักษร (หมอปาน) แพทย์แผนไทยประจำหลักสูตรล้างพิษตับ โรงเรียนผู้นำ โดยมูลนิธิจำลอง ศรีเมือง ในฐานะเป็นที่คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาของสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ได้มอบยาชำระเมือกมันจำนวน 50,000 เม็ด เพื่อให้กรุงเทพแพทย์แผนบูรณาการสหคลินิกแจกสมุนไพรช่วยเหลือให้ประชาชนดูแลตัวเองในช่วงโรคระบาดนี้ โดยตำรับสมุนไพรดังกล่าวนี้เป็นยาถ่ายขับของเสียที่ได้นำมาใช้กับผู้เข้าฝึกอบรมในหลักสูตรล้างพิษตับจำนวนหลายหมื่นคนมาแล้วเช่นเดียวกัน

เฉพาะยา 2 ขนานข้างต้น ไม่เพียงแต่ กรุงเทพแพทย์แผนบูรณาการสหคลินิก สีลมซอย 9 (โทร.ติดต่อได้ที่ 02-115-6619 และ 097-181-7151 หรือ ID Line: @bimpolyclinic) ที่ได้นำร่องแจกสมุนไพรให้ผู้ป่วยและประชาชนที่ต้องการส่งเสริมสุขภาพมาก่อนหน้านี้ แต่ยังมี เอ็มดับบลิว เวลล์เนส สหคลินิก ถนนรัชดาภิเษก (โทร.ติดต่อได้ที่ 02-276-5093 ถึง 4, 096-081-2533 หรือ ID Line: @mw-wellness) อีกแห่งหนึ่งด้วยที่แจกตำรับสมุนไพร 2 ขนานในลักษณะเดียวกัน

และเนื่องจากเป็นที่ยุติในที่ประชุมผู้เชี่ยวชาญการแพทย์แผนไทยที่จัดการประชุมโดยสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ต่างเห็นพ้องต้องว่าตำรับยาที่น่าจะช่วยป้องกัน COVID-19 จำนวนคะแนนมากที่สุดคือ “มหาพิกัดตรีผลา” สำหรับแก้กองเสมหะ ได้แก่ มะขามป้อม 12 ส่วน สมอพิเภก 8 ส่วน สมอไทย 4 วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ตำรับเครื่องดื่มสมุนไพรตรีผลามหาพิกัดแก้ในกองเสมหะขึ้นเพื่อส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ปรับธาตุ บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ แก้เสมหะสมุฏฐาน และเป็นยาระบายอ่อนๆ โดยมอบให้ กรุงเทพแพทย์แผนบูรณาการสหคลินิก เป็นผู้แจกสมุนไพรสกัดเข้มข้นดังกล่าวนี้ เพื่อชงดื่มน้ำซองละ 5,000 มิลลิกรัม จำนวนทั้งสิ้น 15,000 ซอง (ชุดละ 7 ซอง) เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนที่เข้าโครงการการเก็บข้อมูลครั้งนี้ด้วย

#แจกสมุนไพรไทยต้านภัย Covid-19 #เราจะฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

ด้วยความปรารถนาดี
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และ แพทย์อายุรเวทแผนไทยประยุกต์แวสะมิง แวหมะ
สถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต และกรุงเทพแพทย์แผนบูรณาการสหคลินิก (BIM Polyclinic)


กำลังโหลดความคิดเห็น