“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
“..ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคน เป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ขึ้นปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนได้..”
พระบรมราโชวาท ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2512
“ในหลวงรัชกาลที่ 9” พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่พสกนิกร โดยเฉพาะ“ผู้นำชาติ” ให้นำไปปฏิบัติให้เป็นจริง ในการนำ “คนดี” เข้ามาบริหารชาติ และกีดกัน “คนชั่ว” มิให้มีอำนาจ..
ทว่า..เรื่อง “..ส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ขึ้นปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ไห้ก่อความเดือดร้อนได้..” นั้น ยังไม่ปรากฏเป็นจริงในชาติไทยเลย..!
“นายกฯ เลือกตั้ง” ที่ซื้อเสียงและโกงสารพัด มักเป็น “นายกฯ” และ“ครม.” ที่เห็นแก่ตัวเองกับพวกพ้อง ใช้อำนาจโกงชาติในโครงการใหญ่น้อย ด้วยข้ออ้าง“เพื่อช่วยคนจน” โดยประชาชนจะได้ประโยชน์แค่เศษเสี้ยว แต่ “นักการเมืองเลือกตั้ง” กับพวกพ้อง จะได้ประโยชน์มหาศาลมาตลอด
ที่สำคัญ เมื่อรัฐบาลเลือกตั้งโกงชาติ ถูกสื่อฯเปิดโปงกับโดนผู้คนชุมนุมขับไล่ ตามมาด้วยการถูก “กลุ่มทหาร” ฉวยโอกาสทำรัฐประหาร ดัง “บิ๊กตู่” ยกกองทัพออกมาโค่น “บิ๊กปู” ลง โดย หน.ครปห.“บิ๊กตู่” ควบนายกฯ ประกาศว่า จะปราบการโกงชาติ จะลดความเหลื่อมล้ำในชาติ จะปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง ฯลฯ
ทว่า หลังมีอำนาจ “นายกฯ บิ๊กตู่” กลับทำตรงข้ามกับ “คำพูด” จาก “ขาวเป็นดำ” ดื้อๆ เลย..เฮ้อ..?
จนวันนี้ยังไม่มีใครรู้ว่า..ทำไม “นายกฯ บิ๊กตู่” จึงไม่ทำตามคำพูด? ทำไม “นายกฯ บิ๊กตู่” จึงไม่แก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆให้ชาติ? ทำไม “นายกฯ บิ๊กตู่” จึงไม่เอา “คนเก่งคนดี” เข้ามาทำงานให้ชาติอย่างเต็มที่ แต่กลับเอา “คนไม่โปร่งใส” จำนวนมิใช่น้อย เข้ามาทำงานทั้งในรัฐสภาและรัฐบาล..!
จนทำให้รัฐบาล “บิ๊กตู่” ไร้คุณภาพ ไร้ความสามารถ ไร้ผลงานแก้ต้นเหตุปัญหาให้ชาติ ไม่ได้ปราบการโกงชาติอย่างจริงจัง! แถมยังทำให้สังคมไทย “รวยกระจุกจนกระจาย” เพิ่มขึ้น จนติดอันดับต้นๆของโลกแล้ว!
ที่สำคัญ “นายกฯ บิ๊กตู่” ไม่ได้ปฏิรูปการเมืองชาติ แต่กลับไปจัดการเลือกตั้งเพื่อสืบทอดอำนาจ จนทำให้การเมืองหลังเลือกตั้ง “ถอยหลังลงคลองน้ำเน่า” รัฐบาลเลือกตั้งของ “นายกฯ บิ๊กตู่” จึงอยู่ในสภาพไร้ทั้งเสถียรภาพและคุณภาพ ที่จะแก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆให้ชาติได้เท่าที่ควร
ยามนี้..ผู้คนจึงขาดความเชื่อมั่น ในตัว “นายกฯ เลือกตั้งบิ๊กตู่”ไปแล้วมิใช่น้อย ทั้งนี้เพราะห้วงที่ “นายกฯ บิ๊กตู่” มีอำนาจเผด็จการชนิดเต็มร้อย สามารถแก้ต้นเหตุปัญหาชาติได้แทบทุกเรื่อง แต่ “นายกฯ บิ๊กตู่” กลับปล่อยให้ “นาทีทอง” ที่จะทำความดีให้ชาติ ผ่านไปอย่างน่าเสียดาย
“อำนาจล้นฟ้า” กับ “เวลาอันมีค่า” ถูก “นายกฯ บิ๊กตู่” ใช้อย่างไม่คุ้มค่า ไปกับการแก้ปัญหาทั่วไปให้ชาติและประชาชนเท่านั้น จนเป็นรัฐประหาร “เสียของ” เพราะ“เยี่ยวไม่สุด”.. เป็นรัฐประหาร “ไม่คุ้มค่าต่อชาติ”นั่ นเอง!
รัฐบาลเลือกตั้งผสมร้อยพ่อพันแม่ของ “นายกฯ บิ๊กตู่” จึงไร้เอกภาพ เกิดการชิงดีชิงเด่นกันอุตลุด กลายเป็นรัฐบาลแก้ปัญหาเอาตัวรอดไปวันๆเท่านั้น
เป็นโชคร้ายของชาติไทยอีก! เพราะในยุค “นายกฯ บิ๊กตู่”เรื่อง “ความวัวยังไม่(ได้แก้ไข)ทันหาย” ก็ดันเกิด “ความโควิด-19 ”โผล่มาแทรกอีก..บรื๋อ..น่ากลัวจัง..!!
มหาภัย “โควิด-19”ระบาดไปแล้วกว่า 200 ประเทศและเขตการปกครอง ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสนี้ 8 แสนกว่าราย มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 4 หมื่นราย ส่วนในชาติไทยมีผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” 1,700 กว่าราย มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 12 ราย (1 เมษายน 2563)
เพื่อสู้กับ “โควิด-19” “นายกฯ บิ๊กตู่” รวบอำนาจด้วย “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” โดยให้ปลัด 7 กระทรวงขึ้นตรงต่อ “นายกฯ บิ๊กตู่” คนเดียว ส่วนรองนายกฯ ควบ รมว.เป็นแค่ “ผู้ช่วยกำกับ” เท่านั้น
เรียกว่า..การสยบ “โควิด-19” ครั้งนี้ “นายกฯ บิ๊กตู่” เป็นผู้บัญชาการ “รัฐข้าราชการ” เต็มร้อย แน่นอน..งานนี้ไม่มี “เจ๊า” มีแต่ “ได้” หรือ “เสีย” ที่ “นายกฯ บิ๊กตู่” ต้อง “รับผิด” กับ “รับชอบ” คนเดียวเต็มๆ!
บทเรียนในการควบคุม “โควิด-19” นั้น รัฐบาล “จีน” ประสบความสำเร็จด้วยวิธี “ปิดเมืองอู่ฮั่น” เพื่อ “ปิดล้อมโควิดฯ” ให้แพทย์และพยาบาลปฏิบัติการ “สยบโควิดฯ” อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลกับการระบาดเพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลจีนให้การสนับสนุนทุกรูปแบบอย่างเต็มที่
ด้วยเวลาที่ผ่านไปเพียง 1 เดือนเศษ “โควิด-19” ก็ถูกบุคลากรทางการแพทย์ของจีน ควบคุมเอาไว้ได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ จนชาติจีนเป็นที่ยอมรับของ “WHO” และแพทย์ทั่วโลก
แม้จะมีโมเดลอู่ฮั่นของจีนให้เห็นอยู่ทนโท่.. ทว่า.. “นายกฯบิ๊กตู่” ยังคงเลือกใช้วิธี “หน่วงเวลาสู้โควิดฯ” ด้วยปฏิบัติการแบบลักปิดลักเปิด เพราะเชื่อในบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลไทย ที่มีคุณภาพ-มีความอดทน-มีความรับผิดชอบสูง ฯลฯ ว่ายังมีศักยภาพพอจะรับมือกับการระบาดของ “โควิด-19” ได้นั่นเอง
แต่ “นายกฯ บิ๊กตู่” อย่าได้ประมาทเป็นอันขาดเชียวนะ เพราะการควบคุมการระบาดของ “โควิดฯ” ในขณะที่รัฐยังให้ผู้คนเพ่นพ่านไปมาได้นั้น ย่อมเปิดจุดอ่อนให้ “โควิดฯ” ฉวยโอกาส ใช้ “มนุษย์” เป็น“พาหนะ” นำ “โควิดฯ” เข้าสู่ “มนุษย์” ได้โดยไม่รู้ตัวตลอดเวลา..จริงไหม?
ในหลายชาติใช้กฎหมาย ให้ประชาชนต้องทำตามสิ่งที่รัฐบาลกำหนด ให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการระบาดของ “โควิดฯ” ให้ได้ผลมากที่สุด! ทว่า “นายกฯบิ๊กตู่” ยังเชื่อในวิธีการเรียกร้อง ให้ประชาชนเกิดจิตสำนึกต่อส่วนรวม โดยการขอให้ปฏิบัติตามที่แพทย์และรัฐบาลต้องการ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า การป้องกันและสยบโรคระบาด “โควิด-19” ด้วยวิธีใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อส่วนรวม กับวิธีเรียกร้องให้เกิดจิตสำนึกที่ดีต่อส่วนรวมนั้น วิธีการใดจะได้ผลดีที่สุด?
อย่าลืมนะว่า..เรื่องที่ชี้เป็นชี้ตายต่อชาติและประชาชน การหวังให้ผู้คนทั้งชาติมีจิตสำนึกที่ดีพร้อมกันนั้น ย่อมมิใช่เรื่องที่จะทำได้ทุกครั้ง ดังนั้น ทุกชาติจึงต้องมีกฎหมาย ไว้สำหรับกำกับผู้คนในสังคมให้กระทำโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อจะได้ฝ่าอุปสรรคไปสู่เป้าหมายที่ต้องการร่วมกันไงล่ะ
บทพิสูจน์ที่เป็นจริงของ “อิตาลี” และ “อเมริกา” ซึ่งมีผู้คนติดเชื้อ “โควิด-19” จำนวนมหาศาล และตายไปแล้วมากมายในเวลาอันรวดเร็ว จนแซงสถิติประเทศจีนไปเรียบร้อยแล้ว บ่งบอกให้รู้ว่า..ชาติไทยควรจะเดินไปทางไหนมิใช่หรือ?
ห้วงวิกฤติของชาติขณะนี้ ประชาชนต้องช่วยกันตรวจสอบรัฐบาล “บิ๊กตู่” อีกทั้งยังต้องช่วยกันเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ ในสิ่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล “บิ๊กตู่” เพื่อเสริมส่งให้รัฐบาล “บิ๊กตู่” สยบ “โควิดฯ”ให้ได้โดยเร็วที่สุดไงล่ะ
ถ้า “นายกฯ บิ๊กตู่” ฉลาดพอ-มีฝีมือพอ ฯลฯ ก็คงจะนำชาวไทยไปสู่หนทางที่ถูกต้อง จนพ้นจากภัยร้าย “โควิดฯ” ได้ รวมทั้งฝ่าฟันปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทั้งในห้วงระหว่างและหลังการระบาดของ “โควิดฯ” ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีอีกด้วย..
แต่ถ้า “นายกฯบิ๊กตู่” ยังทำงานเหมือนเดิมดังในอดีต ยังนำประชาชนภายใต้การบริหารชาติแบบกล้าๆกลัวๆไม่กล้าตัดสินใจเด็ดขาด จนเกิดกรณี “หน้ากากฯอนามัย” ขาดแคลน ต้องหาซื้อใน “ตลาดมืด” ด้วยราคาที่แพงหูฉี่ อีกทั้ง “อุปกรณ์ทางการแพทย์” ที่จำเป็นก็ไม่เพียงพอ ทำให้แพทย์และพยาบาล ต้องออกมาขอรับบริจาคจากประชาชนด้วยตนเอง
รัฐบาล “บิ๊กตู่” บริหารชาติห้วงชี้เป็นชี้ตาย จนส่งผลให้ “นักรบแนวหน้า” ทั้งแพทย์และพยาบาล ขาดทั้ง “หน้ากากอนามัย” และ“อุปกรณ์ทางการแพทย์” ภาวะไร้ “อุปกรณ์จำเป็น” ป้องกันชีวิตเช่นนี้ ถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรงที่ต้องแก้ไขให้ได้โดยด่วนเลยนะเว้ยเฮ้ย..!
อืม..แม้จะไม่วางใจเท่าที่ควร.. แต่ในเมื่อ “นายกฯ” ยังเป็นคนที่ชื่อ “บิ๊กตู่”..ก็ยังต้องหนุนกันต่อไป(ว่ะ)..?