“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
“มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่จะทำสิ่งเดิมซ้ำๆ แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง”
นั่นเป็นคำพูดเรียบง่ายของ“อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า..เพราะ“ไอน์สไตน์” กล้าแหวกจากกรอบเดิมอันซ้ำซาก หันมาคิดใหม่-ค้นคว้าใหม่-ทดลองสิ่งใหม่ๆ จนค้นพบพัฒนาการใหม่ทางวิทยาศาสตร์ เป็นประโยชน์มหาศาลแก่โลกและมนุษยชาติมาจนทุกวันนี้ไงล่ะ..
ทว่า.. ยังมี “ผู้นำชาติกลุ่มหนึ่ง” ที่ยังคิดและทำแต่เรื่องเดิมๆอยู่ตลอด โดยใช้ “ปากพูด” เสมือนเป็นดั่งสัญญาประชาคม ซึ่งตรงกับสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ เรียกร้องต้องการ..
แต่ “ผู้นำชาติกลุ่มนั้น” ก็ไม่ได้ทำดัง “ปากพูด” เรื่องที่ประชาชนต้องการจึงเป็นเรื่องลมๆแล้งๆ ด้วย “ผู้นำชาติ” พูดโกหกหลอกลวงประชาชน เพียงเพื่อหวังจะได้อำนาจไว้ในกำมือเท่านั้น
แหม..ก็ “ผู้นำชาติบางคน” ในกลุ่มนั้น ได้เผยธาตุแท้ที่เป็นคน “ได้แต่พูด” โดยไม่คิดจะ“ทำจริงจัง” เพื่อแก้ต้นเหตุปัญหาของชาติ จนพวกเขากลายเป็น “ผู้นำชาติ” ที่“ทำผิดคำพูด”แบบดื้อๆไปเลย..เฮ้อ..
เอ๊ะ!..พฤติกรรม“ผู้นำชาติ”ดังกล่าวข้างต้น ช่างเหมือนกับ“นายกฯบางคน” ที่ประกาศว่า จะปราบการโกงชาติ! จะลดความเหลื่อมล้ำให้ชาติ! จะปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง ฯลฯ แต่“นายกฯคนนั้น”กลับไม่ทำตามคำพูดอย่างจริงจัง แถมบางเรื่องยังทำตรงข้ามกับ“คำพูด”เฉยเลย(ว่ะ)..!
5 ปีกว่าผ่านมาจนเกือบ 6 ปีแล้ว ที่“นายกฯบิ๊กตู่”ปล่อยให้“ความวัวยังไม่ทัน(ได้แก้ไข)หาย” ก็ดันมี“ความโควิด-19..เข้ามาแทรก!”..เวรกรรมไทยแลนด์..
“โควิดฯ”เปิดตัวทำศึกสงครามกับ“มนุษย์” ช่วงปลายปี 2562 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเดือนมีนาคม 2563 โดยใช้“เมืองอู่ฮั่น”มณฑล“หูเป่ย”ของประเทศ“จีน” เป็นจุดแรกในการแพร่เชื้อ ก่อนจะระบาดระเบิดเถิดเทิง กระจายไปยังชาติต่างๆทั่วโลก ร่วม 200 ประเทศ!
ชาวโลกติดเชื้อ“โควิดฯ” กว่า 4 แสนคน! ถูก“โควิดฯ” เข่นฆ่าตายไปแล้วเกือบ 2 หมื่นคน! จนบัดนี้“โควิดฯ”ยังเดินหน้าทำร้ายทำลาย “มนุษย์โลก”อย่างต่อเนื่อง..
ภัยร้าย “โควิดฯ” จะอาศัยช่องทาง จากความประมาทไม่ระมัดระวังตัวของมนุษย์ ที่ยังคงใช้ชีวิตสบายๆ แบบเดิมๆ โดยไม่ได้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใดๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ “โควิดฯ”ฉวยโอกาส เข้าไปในร่างกาย เพื่อทำร้ายทำลายมนุษย์
สงครามระหว่างมนุษย์กับมนุษย์นั้น เป็นศึกที่เห็น “ตัวตน” กันและกันชัดเจน! อีกทั้งสามารถนั่งเจรจากันได้ตลอดเวลาอีกด้วย! แถมผู้ด้อยกว่าก็ขอเจรจากับผู้เหนือกว่าได้ด้วย..เพื่อยุติสงคราม! หากมีผู้ชนะ สงครามก็ยุติลงได้ในทันที..จริงไหมล่ะ?
ทว่า..ศึก “โควิด-19” กับ “มนุษย์โลก”นั้น เป็นสงครามที่ “มนุษย์” สู้กับ “ศัตรู” ที่ไม่เห็นตัวตนด้วยตาเปล่า “โควิดฯ” จึงเข้าทำร้ายทำลายร่างกายมนุษย์ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในยามมนุษย์ไม่ระวังตัว!ิ ขอเจรจาใดๆ กับ “โควิดฯ”-ไม่ได้เสียด้วยสิ!
นั่นทำให้ “มนุษย์โลก”ไม่มีทางเลือกในสงครามครั้งนี้ นอกจาก “มนุษย์” จะต้องค้นพบ“ยารักษาโควิดฯ” หรือค้นพบ “วัคซีนสยบโควิดฯ” เท่านั้น
ทว่า..ในห้วงที่“มนุษย์” ยังไม่มี “ยา” และ “วัคซีน” นั้น “มนุษย์ทุกคน” จะเอาตัวรอดจาก“โควิดฯ”ได้ ก็ด้วยการระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ต้องเลิกใช้ชีวิตแบบเดิมๆ และต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ ด้วยการคาดแมสก์อยู่เสมอ ล้างมือด้วยเจลหรือสบู่บ่อยๆ ไม่เข้าไปในที่ชุมนุมชน ไอจามไม่ให้กระทบต่อผู้อื่น ต้องรักษาสุขภาพร่างกายเป็นพิเศษ ต้องนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแกร่ง ป้องกันมิให้เจ็บไข้ได้ป่วยง่ายๆนั่นเอง
การป้องกันตนเองจาก “โควิดฯ” อย่างเคร่งครัด เป็นวิธีที่ประชาชนสามารถลดภาระให้กับ “รัฐบาล” และ “บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล”ได้อย่างดียิ่ง
ส่วนรัฐบาล “บิ๊กตู่” จะต้องทุ่มงบประมาณ อีกทั้งให้ทุกหน่วยงานของรัฐ สนับสนุนอย่างเต็มที่ทุกวิถีทาง แก่ “บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล” ที่กำลังเผชิญหน้าสู้กับ “โควิดฯ” อยู่ใน “แนวหน้าทุกแนวรบ”
ที่สำคัญ..รัฐบาล “บิ๊กตู่” จะบริหารชาติ แก้ภัยร้ายจาก “โควิดฯ”ด้วยวิธีการซ้ำซากแบบเดิมๆ ตามระบบราชการที่อืดอาดดั่ง “เรือเกลือ”ไม่ได้อีกแล้ว รวมทั้งจะคิดแบบ “บวก+บวก”เกินไป มองการระบาดของมฤตยู “โควิดฯ” ด้วยสายตาที่“มองโลกสวย” เกินจริง ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาล “บิ๊กตู่” ช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนในวงกว้างช้าไม่ทันการณ์ อีกทั้งยังอาจส่งผลลบต่อการสยบ “โควิดฯ” ด้วย ฯลฯ
ดังนั้น “บิ๊กตู่” ต้องกล้าใช้มาตรการใหม่ๆ ที่หลุดจากกรอบเดิมในบางเรื่อง เพื่อจะได้ต่อสู้กับ“ไวรัสสายพันธุ์ใหม่โควิด-19” ที่ WHO และ บุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลก ถือเป็น“โรคอุบัติใหม่” ที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ด้วยวงการแพทย์ยังไม่รู้จักพฤติกรรมอันร้ายกาจของ “โควิดฯ” ที่กำลังอาละวาด เข่นฆ่าชาวโลกอยู่ในขณะนี้เท่าที่ควร
“บิ๊กตู่” จึงต้องเปลี่ยนจาก“ตั้งรับโควิดฯ” เป็น“ออกรุกโควิดฯ” ให้ได้โดยเร็วที่สุด..จริงไหม?
นั่นคือ รัฐบาล“บิ๊กตู่”ต้องระดม “ผู้รู้” ในทุกแขนง มาสร้างสรรค์มาตรการ ที่ต้องทั้งเด็ดขาด ครอบคลุม รวดเร็ว ช่วยเหลือผู้คนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง และช่วยเหลือธุรกิจหลายหลาก ทั้งใหญ่และเล็ก ทั้งภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ฯลฯ ที่ถูกผลกระทบจากภัย “โควิดฯ”
อืม..แม้การต่อสู้กับ“โควิดฯ” จะช้าไปหลายเรื่อง! ด้วย “บิ๊กตู่” ยังคิดและทำแบบเดิมๆ จึงยังยึกๆยักๆไม่เด็ดขาด จนถูก “ผู้รู้” ที่มิได้ชเลียร์ “บิ๊กตู่” และสถานการณ์ “โควิดฯ” ที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ กดดันผ่านผู้คน-ผ่านสื่อหลัก-ผ่านโลกโซเชียลฯ จนการประชุม ครม.ในวันที่ 24 มีนาคม 2563 ห้วง 14.00 น. “บิ๊กตู่” จึงออกมาประกาศจะใช้ “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ” ในวันที่ 26 มีนาคม 2563
อืม.. งานนี้ “บิ๊กตู่” บอก “ฉุกเฉิน”! แต่ยังใจดีทำให้“ไม่ฉุกเฉิน” เท่าที่ควร โดย “บิ๊กตู่” ให้เวลากับประชาชน ได้เตรียมตัวเตรียมใจรับมาตรการที่เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อร่วมแรงร่วมใจต่อสู้สยบ “โควิดฯ” ในชาติไทยลงให้ได้นั่นเอง
งานนี้..แม้มาตรการเข้มของ “บิ๊กตู่” จะมาช้า! แต่ก็ยังดีกว่ า“บิ๊กตู่”ไม่มีมาตรการเข้มโผล่มาเลย..จริงไหมล่ะ?
ส่วนรายละเอียดในมาตรการต่างๆเบื้องต้น ที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” เข็นออกมาช่วยประชาชน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจที่ตกต่ำเรี่ยดิน ในห้วง “โควิดฯ”ระบาดอย่างหนัก รวมทั้งการรักษาสังคมให้สงบสุข ที่รัฐบาล“บิ๊กตู่”ได้ออกมาแล้ว และกำลังจะออกมาอีกเป็นลำดับต่อไปนั้น
รัฐบาล “บิ๊กตู่” ต้องเปิดใจกว้าง ให้ “ผู้รู้ทั้งหลาย”ได้วิเคราะห์เจาะลึกกันอย่างตรงไปตรงมาว่า
มาตรการจุดใดดี-จุดอ่อนใดต้องแก้ไข-จุดแข็งใดต้องเสริม-จุดใดต้องระวังเป็นพิเศษ ฯลฯ ที่สำคัญจุดใดที่ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อน และมาตรการใดของรัฐบาล “บิ๊กตู่” แก้ไขความเดือดร้อนของผู้คนได้ตรงจุดและไม่ตรงจุด ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม..การใช้ “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ”ของรัฐบาล “บิ๊กตู่” หลายมาตรการที่ออกมาช่วยเหลือเยียวยาผู้เดือดร้อน ถือว่าใช้ได้พอสมควร เช่น รองนายกฯ“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ที่ดูแล “ก.คลัง” ได้ออก 8 มาตรการช่วยเหลือลูกจ้างทั้งในและนอกระบบ และอีก 7 มาตรการดูแลผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ “โควิดฯ” เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและลดภาระค่าใช้จ่าย หนึ่งในนั้นคือ รัฐจ่ายให้เดือนละ 5,000 บาท แก่แรงงานนอกระบบประกันสังคม กว่า 3 ล้านคน เป็นเวลา 3 เดือน ฯลฯ
รายละเอียดอื่นๆ หาอ่านได้ในทุกสื่อทั้งของรัฐและเอกชน จากนี้รัฐบาล “บิ๊กตู่” จะมีมาตรการออกตามมาเป็นลำดับ ซึ่งประชาชนต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด..และช่วยกันลุ้นว่า มาตรการเหล่านั้นจะเข้มแข็งเด็ดขาด จะมีฤทธิ์เดชฉมังสามารถเอาชนะ“โควิดฯ”ได้หรือไม่? ได้เพียงใด?.. นี่คือเรื่องหนักอกหนักใจของประชาชนส่วนใหญ่ในขณะนี้..
ถึง “ใคร ”จะไม่ชอบและไม่เชื่อมั่นในฝีมือ “นายกฯ คนนี้”! แต่ยามนี้ “บิ๊กตู่” ยังเป็นนายกฯ ของชาติไทยนี่หว่า! คนไทยจึงต้องช่วยกันผลักดันให้“นายกฯ บิ๊กตู่” สยบมฤตยู “โควิดฯ”ในชาติไทยลงให้ได้ก่อน..จริงไหม?
เรื่องอื่นวางลงก่อน..วันนี้ภารกิจพิชิต “โควิดฯ” ต้องมาเป็นลำดับแรกโว้ย..!