xs
xsm
sm
md
lg

“โควิด” ชี้ชะตา “ตู่” อยู่สั้น-อยู่ยาว?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

“มนุษย์”แทบทั้งโลก กำลังมีภารกิจหลัก นั่นคือ ต้องทำทุกวิถีทาง สยบ“โควิด-19”ให้ได้..!

“โควิด-19” เริ่มคร่าชีวิตผู้คนใน“เมืองอู่ฮั่น”ของชาติจีน จนล้มตายเป็นเบือกว่า 2 พันคน ก่อนจะระบาดกระจายอย่างรวดเร็วไปกว่า 150 ประเทศทั่วโลก

มหันตภัย“โควิด-19” ปลิดชีวิตผู้คนไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในทวีปยุโรปและอเมริกา ซึ่งถือเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้า ด้วยวิวัฒนาการล้ำยุคเหนือทวีปอื่น ทั้งในด้านมิติทางเศรษฐกิจ-เทคโนโลยีวิทยาการทันสมัยนานัปการ ฯลฯ

ที่สำคัญ..ชาติในยุโรปและอเมริกานั้น เป็นผู้นำทางวิชาการด้านต่างๆ และยังเป็นผู้นำในการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์สารพัด และวิทยาศาสตร์ทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ชีวภาพและวิทยาศาสตร์การแพทย์ ฯลฯ

ทว่า..ห้วงที่ยุโรปและอเมริกา ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติไวรัสมฤตยู“โควิด-19” ซึ่งบุกเข้าโจมตีอย่างหนักหน่วงต่อเนื่อง! วิถีชีวิตและวัฒนธรรมหลายประการ กลายเป็น“จุดอ่อน” เปิดช่องโหว่ให้“โควิด-19” ฉวยโอกาสเข้าไปทำร้ายทำลายชีวิต ชาวอเมริกันและยุโรปจนล้มตายไปมากมาย

ในขณะที่“วิธีคิด”ของผู้คนในทวีปเอเชีย ต้องใส่“แมสก์”เพื่อป้องกันตนเอง อีกทั้งป้องกันมิให้“ไวรัสระบาด” ไปทำร้ายสุขภาพของผู้อื่น

แต่“วิธีคิด”ของชาวยุโรปและอเมริกัน กลับยึดหลักการทางด้านสุขภาพที่ว่า ผู้ใส่“แมสก์”คือผู้ป่วย ถ้าร่างกายไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วย ก็ไม่จำเป็นต้องใส่“แมสก์”! อีกทั้งจะไม่ใส่“แมสก์”ไปเดินเพ่นพ่านนอกบ้าน! รวมทั้งไม่ใส่“แมสก์”ไปสังสรรค์เฮฮาปาร์ตี้กันด้วย ฯลฯ

อีกทั้ง พฤติกรรมการทักทายกัน ของชาวยุโรปและอเมริกัน ชอบสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ด้วยการโอบกอด-เอาจมูกชนกัน-หอมแก้มกันไปมา ฯลฯ ก็เป็น“ช่องโหว่”ที่ทำให้“โควิด-19” ฉวยโอกาสแทรกตัวเข้าไปทำร้ายทำลายร่างกายได้อย่างสะดวกดาย..

นั่นทำให้“โควิด-19”ติดไวกระจายตัวในวงกว้าง และแพร่เชื้อใส่ชาวอเมริกันและชาวยุโรปอย่างรวดเร็ว ทำลายชีวิตผู้คนไปมากมาย จนอเมริกาบางรัฐและหลายชาติในยุโรป ต้องประกาศปิดบางเมือง และอีกหลายชาติ ประกาศปิดตายประเทศชั่วคราวไปแล้ว

ขณะที่หลายประเทศในทวีปเอเชีย ยังควบคุม“โควิด-19”ให้อยู่ในขอบเขตได้ ป้องกันการเสียชีวิตผู้คนได้พอสมควร โดยเฉพาะใน“เมืองอู่ฮั่น”ประเทศจีน ซึ่งเป็น“ถิ่นก่อเกิด”มหันตภัย“โควิด-19” ที่มีผู้คนติดเชื้อไวรัสร้ายนี้มากถึงกว่า 7 หมื่นคน รักษาเยียวยาจนผู้ติดเชื้อหายป่วยได้หลายหมื่นคน แม้จะมีผู้คนล้มตายมากถึง 2 พันกว่าคนก็ตาม ฯลฯ

วันนี้..รัฐบาลจีนและผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางการแพทย์และพยาบาล ได้ร่วมแรงร่วมใจรวมพลังตะลุมบอน“โควิด-19” จนมีแนวโน้มว่า “โควิด-19”กำลังจะถูก“จีน”สยบลงได้ในไม่ช้านี้แล้ว..ว้าว..!

โดยดูได้จากสถิติรายวัน ผู้ติดเชื้อน้อยลง ตัวเลขผู้เสียชีวิตแทบจะเป็นศูนย์ อีกทั้งทางการจีนได้ประกาศปิดโรงพยาบาลชั่วคราวบางแห่ง ที่มีไว้เพื่อรักษา“ชาวจีนติดเชื้อโควิด-19”ไปแล้ว รวมทั้งประธานาธิบดี“สี จิ้นผิง” ยังเดินทางไปเยือนเมืองอู่ฮั่น ที่เป็นศูนย์รวมมหันตภัย“โควิด-19”อีกด้วย

นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังได้ส่ง“บุคลากรทางการแพทย์” และอุปกรณ์ทางการแพทย์สารพัด ไปช่วยเหลือ“ผู้ติดเชื้อโควิด-19”ในยุโรปและอาหรับบางประเทศอีกด้วย

อืม..สงครามที่ห้ำหั่นกันอย่างต่อเนื่อง ระหว่าง“โควิด-19”กับ“ชาติและประชาชนจีน” ที่เริ่มระบาดในห้วงเดือนธันวาคม 2562 ต่อเนื่องมาจนถึงเดือนมีนาคม 2563 นั้น..

ได้เกิด“ข่าวดี”ทั้งสำหรับชาวจีนและชาวโลก นั่นคือ มีสัญญานที่บ่งชี้ให้รู้แล้วว่า “จีน”มีแนวโน้มจะสยบ“โควิด-19”ได้เป็นชาติแรก ขอย้ำว่า..การเยี่ยมเยือน“เมืองอู่ฮั่น”ที่เป็นศูนย์กลางมหันตภัย“โควิด-19”ของประธานาธิบดี“สี จิ้นผิง”นั้น เป็นสัญลักษณ์แห่ง“ชัยชนะ”ของ“ชาวโลก” ที่สยบ“โควิด-19”ได้ในเบื้องต้นเท่านั้น

ส่วนการค้นพบ“วัคซีน”และ“ยา” เพื่อกำราบ“โควิด-19”..ความสำเร็จก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม..!

สำหรับชาติไทยที่มี“บุคลากรทางการแพทย์กับพยาบาล”ที่ดีมีคุณภาพเยี่ยม ยังคงต้องนำพาประชาชนฝ่าฟัน ให้ผ่านพ้นวิกฤติมหันตภัย“โควิด-19”ให้จงได้ต่อไป ส่วนจะสยบ“โควิด-19”ได้“ช้า”หรือ“เร็ว”นั้น..หนึ่งในปัจจัยสำคัญก็คือ “รัฐบาลบิ๊กตู่”นั่นเอง

โดย“นายกฯบิ๊กตู่”ต้องรู้อย่างกระจ่างชัดว่า “บุคลากรทางการแพทย์กับพยาบาล” และ“กองหนุนทั้งหลาย”นั้น “พวกเขา”เหล่านั้น เป็น“คน”มิใช่“ผู้วิเศษ” ดังนั้น “พวกเขา”เหล่านั้นจึงเป็น“คนทั่วๆไป” ซึ่ง“มีขีดความสามารถและมีพลังอันจำกัด”! “พวกเขา”เหล่านั้นจึงรู้จักเหน็ดเหนื่อย! จึงรู้จักล้มลงยามหมดสิ้นเรี่ยวแรง! จึงรู้จักหัวเราะอย่างมีความสุขยามช่วยผู้ป่วยรอดชีวิต! จึงรู้จักร้องไห้ยามช่วยชีวิตผู้ป่วยไม่ได้!ฯลฯ

ที่สำคัญ..“พวกเขา”เหล่านั้นรู้ว่า..จะแบกรับภาระได้หนักหน่วงเพียงใด? จะทำให้งานที่รับผิดชอบลุล่วงด้วยดีมีคุณภาพเช่นไร? จะรู้ว่า..หากแบกรับภาระงานเกินตัว หรือหนักเกินเหตุ ภาระที่แบกไว้นอกจากจะรับไม่ไหวแล้ว ยังอาจทำให้คุณภาพงานเสียหายอีกด้วย โดยเฉพาะภาระงานที่รับผิดชอบนั้น เกี่ยวพันโดยตรงกับ“ชีวิตคน” ว่าจะ“รอด”หรือ“ตาย”!

จะสยบ“โควิด-19”ได้เร็ว-ก็โดย “บิ๊กตู่”ต้องสนับสนุนทุกรูปแบบ ให้แก่“บุคลากรทางการแพทย์-พยาบาล-อสม.”รวมถึง“กองหนุนทั้งหลาย” ให้ได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ โดย“บิ๊กตู่”ต้องให้ทุกกระทรวงทบวงกรม สนับสนุนทั้งด้านงบประมาณ ตลอดจนเครื่องมือทางการแพทย์กับพยาบาลทุกชนิด ฯลฯ

“บิ๊กตู่”ต้องประสานให้เกิดการร่วมแรงร่วมใจในชาติให้ได้โดยไว เพื่อผนึกกำลังมุ่งสยบ“โควิด-19”ให้ได้ โดยเกิดความเสียหายน้อยที่สุด..

แน่นอน..“บิ๊กตู่”มิใช่“แพทย์”หรือ“ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวรัส” แต่ชาติไทยมี“บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล” ที่มีความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก พิสูจน์ได้จากการระบาดอย่างหนักหน่วงของ“โควิด-19” ที่ผ่านมาหลายเดือน มีผู้เสียชีวิตในชาติไทยเพียง 1 คนเท่านั้น

จนผลงานของ“บุคลากรทางการแพทย์ไทย” เป็นที่ยอมรับจากชาติต่างๆทั่วโลก..

นับจากนี้..“บิ๊กตู่”ต้องบริหารจัดการให้มีข้อบกพร่องผิดพลาดน้อยที่สุด! รัฐบาลต้องทำทุกหนทางเพื่อสยบ“โควิด-19”เป็นหลัก! อย่าทำการโดยหวังจะได้ผลประโยชน์ ทั้งในเรื่องเงินทองกับผลการเมือง เพื่อตนเองกับพวกพ้อง อีกทั้งต้องไม่ทำเพื่อพรรค และนักการเมืองที่หนุน“บิ๊กตู่” ฯลฯ

ที่สำคัญยิ่งคือ ต้องไม่ปล่อยให้คนในรัฐบาล“คอร์รัปชั่นโกงชาติ” ด้วยข้ออ้างว่า สู้กับ“โควิด-19”เด็ดขาด..!

ดังกรณี“นักการเมือง-ข้าราชการ-พ่อค้ากลุ่มหนึ่ง” รวมทั้ง“ใครบางคน”ในรัฐบาล“บิ๊กตู่” สมคบกันทำผิดกฎหมาย ด้วยการส่งออก“หน้ากากอนามัย (แมสก์)”ไปต่างประเทศอย่างมโหฬาร จน“แมสก์”ในประเทศขาดแคลนอย่างหนัก

ถึงขนาด“บุคลากรทางการแพทย์”หลายโรงพยาบาล ไม่มี“แมสก์”อันเป็นสิ่งจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ จนต้องออกมาขอรับบริจาค“แมสก์”จากประชาชน ในขณะที่ประชาชนก็หาซื้อ“แมสก์”ยากเย็นอย่างยิ่ง จนต้องไปหาซื้อในตลาดมืด มาสวมใส่กันด้วยราคาที่แพงลิบลิ่ว!

การหาผลประโยชน์อย่างสามานย์ บนความทุกข์ยากของประชาชน รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์กับพยาบาล ที่จำเป็นต้องใช้“แมสก์”ปกป้องภัยร้ายจาก“โควิด-19” ซึ่งกำลังระบาดคร่าชีวิตผู้คนอยู่ในยามนี้ ถือเป็นการกระทำที่เลวทรามต่ำช้าอย่างยิ่ง ซึ่ง“บิ๊กตู่”ต้องนำกลุ่มคนชั่วเหล่านี้ มาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด

ผลเสียหายข้างต้นจากฝีมือ“คนกลุ่มหนึ่ง” ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในรัฐบาล“บิ๊กตู่” ทำให้“แมสก์”ขาดแคลนไปทั่วไทย เป็นการสร้างภาระเพิ่มขึ้น ให้กับ“บุคลากรทางการแพทย์กับพยาบาล”และ“ประชาชน”..จริงไหม“บิ๊กตู่”?

เรื่องบริหารจัดการ“โควิด-19” จะส่งผล..ให้รัฐบาล“บิ๊กตู่”อยู่สั้นหรืออยู่ยาวนะว้อย..!

ในยาม“ไวรัสร้าย”ทำสงครามกับ“คนไทย”เช่นนี้ ต้องยึดหลัก “บุคลากรทางการแพทย์กับพยาบาลต้องมาก่อน”..นะ“บิ๊กตู่”!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น