“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ไม่ว่า “เด็ก” หรือ “ผู้ใหญ่” ล้วน “คิดดีทำดี-คิดชั่วทำชั่ว” กันได้ทั้งนั้น
ทว่า..“เด็ก” ยังเรียนหนังสือและยังไม่ได้บริหารชาติ..! แต่ “ผู้ใหญ่” เป็นทั้งผู้บริหารหน่วยงานรัฐ-สส.-สว.-นายกฯ-คณะรัฐมนตรี และบางคนเป็น“พ่อค้านักธุรกิจใหญ่” โดย “กลุ่มผู้ใหญ่” เหล่านี้มักสมคบกันกอบโกยผลประโยชน์ ด้วยการคอร์รัปชั่นโกงชาติมาโดยตลอด
จน “เด็กรักชาติ” ทนไม่ไหว ต้องหยุดเรียนมาเปิดมหกรรม “ถอนหงอกผู้ใหญ่” ด้วยการแฉโพยการทำชั่วต่อชาติ อีกทั้งแสดงพลังมาแล้วหลายครา ชุมนุมขับไล่ “กลุ่มผู้ใหญ่” ที่ใช้อำนาจรัฐโกงชาติไม่รู้จักพอ..
แม้บางครั้ง “กลุ่มผู้ใหญ่”โกงชาติ ทั้งมาจากเลือกตั้งและรัฐประหาร จะใช้อำนาจอธรรมอย่างโหดร้ายป่าเถื่อน ปราบปรามเข่นฆ่า “กลุ่มเด็กรักชาติ” ที่ชุมนุมด้วยสองมือเปล่าที่ไล่รัฐบาลโกงชาติ ทว่า “กลุ่มเด็กรักชาติ” ก็ยังคงยืนหยัด ขับไล่ “รัฐบาลทรราช” อย่างกล้าหาญโดยไม่เกรงกลัว..
ดังเหตุการณ์“14 ตุลาคม 2516” ที่“รัฐบาลทรราชทหาร”โกงชาติอย่างโจ๋งครึ่ม จนหมดความชอบธรรมในการบริหารชาติอีกต่อไป ครั้งนั้น..นักเรียนนักศึกษามิได้ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว เพราะ “ผู้ใหญ่รักชาติ”ได้ออกมาสนับสนุน การต่อสู้ของ “เด็กรักชาติ”กั นทั่วประเทศ..
ทำให้ “รัฐบาลทรราชทหาร” ยุค “14 ตุลาคม 2516” ต้องล้มครืนลงอย่างไม่เป็นท่า โดยหน่วยงานรัฐที่สนับสนุน “รัฐบาลทรราชทหาร” แบบสุดตัว ชนิดไม่แยกแยะถูกผิดและดีชั่ว ฯลฯ ถูกประชาชนประณามหยามเหยียดรังเกียจไปเลย..
ดัง “กรมประชาสัมพันธ์” ที่ออกข่าวโกหก ให้ร้ายป้ายสีนักศึกษาและประชาชน ถูกประณามเป็น “กรมกร๊วก” ส่วน “ทหารบางกลุ่ม” ที่สนับสนุน “รัฐบาลเผด็จการทหาร”โดยไม่ลืมหูลืมตา จนใช้อาวุธสงครามเข่นฆ่าประชาชน ที่มีเพียงสองมือเปล่า ถูกสังคมประณามจน “แต่งชุดทหาร” ออกมาเดินตามท้องถนนไม่ได้อยู่พักใหญ่
แหม..ก็ “ข้าราชการ” เหล่านั้น ล้วน “กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน”ทั้งนั้น ทว่า..กลับมาให้ร้ายป้ายสีและเข่นฆ่าผู้คนอย่างป่าเถื่อน ทั้งๆที่ประชาชนเป็น “คนจ่ายเงินเดือนตัวจริง” จึงเข้าสูตรเนรคุณ “กินบนเรือนขี้บนหลังคา”ไงล่ะ..
อย่างไรก็ตาม..ทุกชาติบ้านเมืองล้วนมี “กฎหมาย” ดังนั้น ไม่ว่า “เด็กคนใด” หรือ “ผู้ใหญ่หน้าไหน” ทำผิดกฎหมาย ต้องถูกลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมทุกคน ตามหลักการที่ระบุไว้ว่า “ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน” และ “คุกไม่ได้มีไว้ขังคนจนเท่านั้น” นะเว้ยเฮ้ย..
แต่ที่ผ่านมาโดยส่วนใหญ่ “ผู้ใหญ่” ที่มีอำนาจรัฐอยู่ในกำมือ มักหลงอำนาจและใช้กฎหมายไม่ยุติธรรม หรือใช้กฎหมายแบบสองมาตรฐาน เพราะมักใช้กฎหมายช่วยเหลือพวกพ้อง และใช้กฎหมายกลั่นแกล้งลงโทษ ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลอยู่เสมอ..
“เด็กทำผิด”เพราะไม่รู้หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั้น-เกิดขึ้นได้เสมอ! แต่ “ผู้ใหญ่” ที่เป็น “ผู้มีอำนาจ” ในชาติ เช่น เป็น “ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่” เป็น “ส.ส.-ส.ว.-นายกฯและคณะรัฐมนตรี” ฯลฯ ล้วนรู้ว่า..อะไรควรทำ-ไม่ควรทำ! อะไรถูก-อะไรผิด! อะไรดี-อะไรชั่ว..จริงไหม?
ทว่า..น่าขยะแขยง! ที่ “กลุ่มผู้ใหญ่”ในรัฐบาลส่วนใหญ่ ทั้งจากการเลือกตั้งและรัฐประหารมัก “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว” จึงใช้อำนาจทำชั่ว ทั้งเล่นพรรคเล่นพวก รังแกคนดี เอาคนชั่วขึ้นเป็นใหญ่ เพื่อโกงชาติในสารพัดโครงการ ฯลฯ
เรียกว่า..แทนที่ “กลุ่มผู้ใหญ่” เหล่านั้น จะใช้อำนาจเร่งทำความดีอย่างจริงจัง เพื่อทำให้ชาวไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และชาติเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน สร้างสังคมไทยให้เปี่ยมศานติสุข ฯลฯ
บรรดา “ผู้มีอำนาจ” มาจากเลือกตั้งและรัฐประหาร กลับทำให้ชาติและประชาชน จมปลักอยู่ใน “วงจรอุบาทว์” ซ้ำซากมาจนทุกวันนี้ นั่นคือ
หนึ่ง-มีการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม สอง-ได้รัฐบาลเลือกตั้งที่โกงชาติ สาม-ประชาชนต้องชุมนุมขับไล่รัฐบาลโกงชาติ สี่-รัฐบาลเลือกตั้งโกงชาติมักแก้ปัญหาด้วยการ “ยุบสภา” หรือ ถูก “คณะทหาร”ทำรัฐประหารโค่นล้มลง..
ห้า-มีรัฐบาลรัฐประหารบริหารชาติ ด้วยข้ออ้าง “รัฐบาลจะทำเพื่อชาติ” แต่ไม่เคยปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้งเลย หก-รัฐบาลรัฐประหารมักจัดให้มีการเลือกตั้ง ที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมครั้งใหม่..เฮ้อ..ก็หวังจะสืบทอดอำนาจไงล่ะ..
การเมืองไทย 80 กว่าปี จึงมี “รัฐบาลประชาธิปไตยจอมปลอม” กับ “รัฐบาลเผด็จการทหาร” ที่ผลัดกันบริหารชาติแบบ “สมบัติชาติผลัดกันโกง” มาตลอด
เชื่อเถอะ..ตราบใดที่ยังไม่ปฏิรูปการเมืองชาติ! การเลือกตั้งสกปรกจะได้รัฐบาลสามานย์ เข้ามาใช้อำนาจรัฐเพื่อ “ถอนทุนบวกกำไร” ด้วยการโกงชาติตลอดไปแน่นอน..
“ประเทศกูจึงมี”! “นักการเมือง” เลือกตั้งและรัฐประหาร ข้าราชการระดับสูงและกลุ่มทุนใหญ่ไม่กี่ตระกูล ร่ำรวยกันอย่างมากมายมาโดยตลอด ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ของชาติไทย ทั้งนักธุรกิจเอสเอ็มอีกับผู้มีรายได้น้อยอาชีพต่างๆ รวมทั้งเกษตรกรชาวสวนชาวไร่ชาวนา..มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ลงทุกวัน..
โดยเฉพาะผู้คนที่ “หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน” กับ “หาเช้ากินค่ำ” ต้องทำงานหนักขึ้น..หนักยิ่งขึ้น..แต่กลับยากจนลง..ยิ่งยากจนลง..
จากอดีตอันยาวนานจนถึงวันนี้ ผู้คนอาชีพ “หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน” ซึ่งทุกรัฐบาลยกย่องให้เป็น“กระดูกสันหลังของชาติ” ได้ทำให้ “เจ้าของโรงสี” และ“พ่อค้าส่งออกข้าว” ร่ำรวยเงินทองนับหมื่นล้านแสนล้านนั้น วันนี้ “กระดูกสันหลังของชาติ” มิใช่น้อย กลับไม่มีที่ดินอันเป็นปัจจัยการผลิตของตนเอง เพราะ “ข้าวเปลือก”ราคาต่ำจนขาดทุน ชาวนาจึงมีหนี้สินล้นพ้นตัวอยู่ในขณะนี้..
ทว่า “ชาวนา” ก็ยังต้องกัดฟันเช่าที่ดิน จาก “นายทุน” มาสืบทอดอาชีพ “หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน” ต่อไป..
ผู้คนที่ทำมาหากิน“หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน” กั บ“หาเช้าให้พอกินค่ำ” ต้องเลี้ยงดูครอบครัวอย่างทรหดอดทน แถมยังต้องใช้เงินส่งเสียให้ลูกหลาน ได้มีโอกาสร่ำเรียนหนังสือให้จบ เพื่อลูกหลานจะได้มีอนาคตที่ดีกว่าพวกตน ซึ่งดิ้นรนเอาตัวรอดอยู่ในสังคม“คนกินคน” ที่ไร้ความเอื้ออาทร..
อืม..บรรดา “นักการเมืองสามานย์” ที่ทำให้สังคมไทยทวีความเหลื่อมล้ำ ในมิติต่างๆที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ช่องว่างคนรวยกับคนจน ถ่างกว้างมากขึ้นมิหยุดหย่อน จนปัญหา “รวยกระจุกจนกระจาย”ยุค “บิ๊กตู่” พุ่งติดอันดับต้นๆของโลกไปแล้ว..
รัฐบาลรัฐประหารที่ไม่ปฏิรูปชาติ แถมไม่แก้ต้นเหตุปัญหาชาติอย่างจริงจัง! ทำให้บรรดา “ผู้ใหญ่” ที่สืบทอดอำนาจ อย่างรัฐบาลเผด็จการทหาร “บิ๊กตู่” ถูก “เด็ก” ที่ยังเป็น “นักเรียน-นักศึกษา” ออกมาชุมนุม “แฟลชม็อบ” ขับไล่กันอุตลุดไปหมด..
ทั้งนี้ต้องเข้าใจตรงกันนะว่า “ผู้ใหญ่” ที่เป็น “ส.ส.-ส.ว.-นายกฯ และ ครม.” กับ“ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่” ในกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ล้วนกินเงินเดือนจากภาษีของประชาชนทั้งสิ้น
“ผู้ใหญ่” เหล่านั้น ควรทำดีด้วยการทำงานให้ชาติและประชาชนเป็นหลัก เพื่อเป็นแบบอย่างอันดีงาม ให้ “เด็ก” กับ “ผู้ใหญ่”ในชาติบ้านเมือง เกิดความเคารพนับถือด้วยความเต็มใจและจริงใจ..จริงไหม?
ดังนั้น ยังไม่สายเรื่องจะแก้ต้นเหตุต่างๆให้ชาติ แต่ “บิ๊กตู่” ต้อง “ทำจริงๆ -ทำทันที” อย่ามัวแต่“พูด” ที่สำคัญ..หยุดทำเพื่อตนเองกับพวกพ้องได้แล้ว! ฯลฯ
“บิ๊กธร” มิใช่คนที่ทำให้ “นักเรียน-นักศึกษา” เสี่ยงชีวิตออกมาชุมนุมอย่างมากมาย ท่ามกลางอันตรายจาก “ไวรัสโควิด-19” ในยามนี้
ตัวจริงที่ “เรียกแขก” ทำให้ “นักศึกษา” กับ “ประชาชน”ไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆอยู่ในวันนี้ คือ “นายกฯ บิ๊กตู่” นั่นแหละ ที่อยู่ในอำนาจนานเกือบ 6 ปี แต่สร้างผลงานได้แค่แก้ปัญหาทั่วๆไปเท่านั้น ไม่ได้แก้ต้นเหตุปัญหามิติสำคัญต่างๆให้ชาติเลย แถมบริหารชาติหลายเรื่องแบบไม่เที่ยงธรรมอีกด้วย
“เด็ก”ต้องออกมาชุมนุมกันครั้งนี้ ถือเป็น “กระจก” ส่องให้ “บิ๊กตู่” ควรรู้ตัวได้แล้วว่า “นายกฯ บิ๊กตู่”บริหารชาติไม่ดีเท่าที่ควร
งานนี้..“ข้อสอบเด็ก” ชี้เปรี้ยงให้รู้แล้วว่า “นายกฯ บิ๊กตู่” คือ “ตัวปัญหาของชาติ”!
“บิ๊กตู่” ต้องยุติมหกรรม “เด็กถอนหงอกผู้ใหญ่” ด้วยวิธี “ทำมากกว่าพูด” ทันทีเลยนะเว้ยเฮ้ย..!!!