xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เลือดไม่แท้โดดหนี “เสี่ยทิม” กับก้าวต่อไปที่“ก้าวไกล” พรรค รบ.ชอปกระจาย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทิม - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่หัวหน้าของ “อดีตอนาคตใหม่”
ป้อมพระสุเมรุ

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เก็บฉากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ค่ายสีส้ม” พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกคำสั่ง ศาลรัฐธรรมนูญ ลงดาบ “ยุบพรรค” จากกรณีเงินกู้ 191.2 ล้านบาท ที่ถูกมองว่าเป็น “รายได้” ที่ฝ่าฝืนมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560

นอกจากพรรคจะถูกยุบ ปิดตำนานไว้แค่ 1 ปี 4 เดือน 18 วัน ยังเป็นผลให้ 15 กรรมการบริหารพรรค ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี

และในจำนวนนี้มี 11 คนที่เป็น “แกนนำแถวหน้า” ต้องพ้นจาก ส.ส. ตาม “เสี่ยเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรค ที่ปลิดปลิวจากกรณีถือหุ้นสื่อขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส.ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

ที่ต้องจับตาคือก้าวต่อไปของ “อดีตอนาคตใหม่” แน่นอนว่าในส่วนของ “อดีต ส.ส.” นำโดย “ธนาธร” - ปิยบุตร แสงกนกกุล-พรรณิการ์ วาณิช คงได้แค่เป็น “กองเชียร์” เพื่อน ส.ส.ที่เหลืออยู่นอกสังเวียนเท่านั้น

กับเกม “การเมืองนอกสภา” ที่ประเดิมไปแล้วกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ของ “สาวช่อ-พรรณิการ์” ที่เปิดประเด็นเรื่องการทุจริต 1MDB ที่กล่าวหาว่า “รัฐบาลประยุทธ์” เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

อีกส่วนก็คือ “ส.ส.อดีตอนาคตใหม่” ที่สิริรวมหลังพรรคถูกยุบ เหลือกัน 65 ชีวิต

กล่าวคือ จำนวนเต็ม 81 ที่นั่ง เหลือ 80 ที่นั่ง เมื่อพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งซ่อมที่ สามพราน นครปฐม เนื่องจาก ส.ส.ของตัวเองที่ชนะการเลือกตั้ง ล้มป่วยจนไม่สามารถทำหน้าที่ได้

จากนั้น ก็เกิดกรณี “งูเห่าสีส้ม” สูญเสียแนวร่วมไปอีก 4 คน ที่โหวตสวนมติพรรค จนถูกขับออกจากพรรค ทำให้เหลือ 76 ที่นั่ง

และ 76 ที่นั่ง ก็ต้องเหลือ 65 ที่นั่ง เมื่อ 11 อดีตกรรมการบริหารพรรคที่เป็น ส.ส.ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง หลังพรรคถูกยุบ

ไม่ทันไร 65 ที่นั่ง ที่เคยมั่นใจว่าเป็น “เลือดแท้” ก็ชิ่งหนี “ค่ายสีส้ม” ตั้งแต่ยังไม่ทันได้ตั้งหลัก

เมื่อปรากฏว่า 9 ส.ส. ประกอบด้วย โชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี ส.ส.กทม., ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม., ฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น, เอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่, กฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่, อนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี, กิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา, วิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ สำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ที่ปุ๊บปั๊บไม่ทันไร ก็แห่ไปสมัครเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย หลังพรรคถูกยุบได้เพียง 3 วัน

ด้วยอาจจะไม่อยากแนะนำสังกัดว่า “พรรคที่เพิ่งถูกยุบไป” เหมือน ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ หลายคนที่พยายามประชดประชันทุกครั้งที่ลุกขึ้นพูดในที่ประชุมสภา

ทั้งยังมีกระแสข่าวเนืองๆว่า “ค่ายสีส้ม” ยังเลือดไหลไม่หยุด มีอีกไม่ต่ำกว่า 20 ส.ส.ที่กำลังอยู่ในช่วงประสานหา “ค่ายใหม่” สำทับกับ 3 คลิปทีเด็ด ที่ทาง “ค่ายสีส้ม” ปล่อยออกมารัวๆ ตลบหลัง “อดีตเพื่อนร่วมชายคา” ว่ามีความพยายามทาบทามให้ย้ายสังกัด

โดยมี “กล้วย” ล่อให้หวั่นไหว

ประเมินด้วยสายตาแล้ว น่าจะมี ส.ส.ไม่ถึง 40 ชีวิต ที่พร้อมจะเดินทางไปพร้อมกับ “เสี่ยทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ได้รับ “ตราตั้ง” ต่อจาก “เสี่ยเอก” ให้เป็นผู้นำคนใหม่ ในนามพรรคใหม่

อย่างไรก็ดีในจำนวน “เลือดแท้” ที่นำโดย “เสี่ยทิม” ก็ยังมีไม่น้อยที่ “ไม่ค่อยซูฮก” ในตัว “ผู้นำคนใหม่” และพยายามแสวงหา “ทางเลือก” ทางอื่น แต่ยืนหยัดอยู่ในซีกรัฐบาล

ด้าน “เสี่ยทิม” ที่มีเงาของ “ธนาธร-ปิยบุตร” ทาบทับอยู่ ก็กำลังหา “รังใหม่” กันขาขวิด โดยมีแนวโน้มเหลือแค่ 2 พรรคการเมืองที่แนวทางใกล้เคียงกันและอยู่ในสาระบบ คือ พรรคสามัญชน และพรรคก้าวไกล

โดยค่อนข้างเอียงไปทางพรรคหลังมากกว่า เนื่องบางส่วนเห็นว่า พรรคแรก “สุดโต่ง” เกินไป

ไม่ว่าจะมี ส.ส.ติดสอยห้อยตาม “เสี่ยทิม” ไปที่พรรคใหม่กี่คน แต่ต้องยอมรับว่า ชะตากรรมของ “อนาคตใหม่” ส่งผลทำให้ “คณิตศาสตร์” ทางการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

จนทำให้ “รัฐบาลพลังประชารัฐ” พ้นสภาวะ “ปริ่มน้ำ” มีเสียง ส.ส.มากกว่าฝ่ายค้านแล้วไม่ต่ำกว่า 30-40 เสียง

และอาจจะมีช่องว่างมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ด้วยเมื่อฝ่ายรัฐบาลเปิดประตูรับแบบ “ไม่อั้น” เนื่องจากส่งผลต่อ “อำนาจต่อรอง” ภายในรัฐบาลเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเก้าอี้รัฐมนตรี ที่อิงกับจำนวน ส.ส.เป็นหลัก

จะเห็นได้ว่า “ค่ายบุรีรัมย์” พรรคภูมิใจไทย ที่ดูจะพึงพอใจกับเก้าอี้รัฐมนตรีที่มีอยู่ ก็ยังดิ้นรนหา ส.ส.เพิ่มให้มากที่สุด แง่หนึ่งเพื่อค้ำยัน “เก้าอี้เกรดเอ” ไว้กับตัวเอง ส่วนจะมีข้อแถมได้เพิ่มสัก 1-2 เก้าอี้หรือไม่นั้น ก็คงจะไม่ปฏิเสธ

อีกพรรคที่มาเงียบๆ พรรคพลังท้องถิ่นไท ที่มี “เสี่ยชัช” ชัชวาล คงอุดม หัวหน้าพรรคหลังท้องถิ่นไท ที่มี 3 ที่นั่ง ส.ส. แล้วยังรวบรวม “สมัครพรรคเล็ก” ในซีกรัฐบาลได้รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ที่นั่ง

ว่ากันว่า 1 ที่นั่ง รัฐมนตรีว่าการ พร้อมเสิร์ฟให้ “พรรคเสี่ยชัช” แล้ว

แต่ “เสี่ยชัช” ก็ยังคุยเขื่องสะเทือนตลาดนัดการเมืองด้วยว่า มี ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ ไม่น้อยกว่า 10 คนแสดงท่าทีสนใจมาเข้าสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไท จนเห็นแววเก้าอี้รัฐมนตรีตัวที่ 2 อยู่รำไรๆ

ที่เดือดร้อนที่สุด เห็นจะไม่พ้น “ค่ายโคราช” พรรคชาติพัฒนา ที่มี 3 ที่นั่ง ส.ส. แต่ได้แต้มจิตพิสัยจาก “ลุงกำนัน” ที่ช่วยจนได้เก้าอี้รัฐมนตรีมาเชยชม 1 เก้าอี้ ที่ รมต.สำนักนายกฯ ของ เทวัญ ลิปตพัลลภ

แต่เมื่อตัวเลข ส.ส.เปลี่ยน สถานการณ์ก็เปลี่ยน 3 ที่นั่งของพรรคชาติพัฒนา ไม่น่าเพียงพอที่จะอุ้ม “เสี่ยเทวัญ” ให้อยู่เป็นรัฐมนตรีได้

ก็เลยมีข่าวว่า สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เจ้าของพรรคตัวจริง กระโดดเข้าตลาดนัดการเมืองกับเขาด้วย โดยหวังจะชอป ส.ส.ให้ได้ซัก 3 - 4 คน เพื่อมาค้ำเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคตัวเอง

หรือขนาด “ค่ายลุงตู่” พรรคพลังประชารัฐ ที่ดูว่าไม่น่าใช่ปลายทางที่ดีของ “อดีตอนาคตใหม่” ก็ยัง “ผู้แทนบางคน” พยายามหาที่ยืนให้ตัวเอง ดังที่มี “คลิปหลุด 23 ล้าน” ที่เชื่อกันว่าเป็นคนในพรรคพลังประชารัฐ ที่อัพเกรดตัวเอง ฝันถึงขนาดจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีกับเขาด้วย

แต่ก็โดน “บิ๊กพลังประชารัฐ” สั่งเบรกล้อปัด ด้วย “ระดับนำ” วางงานหา ส.ส.ไร้สังกัดไปฝากเลี้ยงไว้กับบรรดาพรรคเล็กเป็นที่เรียบร้อย และไม่ต้องการให้มีใครเปิดมุ้งใหม่ในพรรคเพื่อต่อรองเหมือนที่ผ่านมา

ที่ดูนิ่งสุดคงเป็น “ค่ายสีฟ้า” พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่หือไม่อืออะไรกับชาวบ้าน ยังคงพอใจกับเสียง ส.ส.เท่าเดิม โดยหวังว่า “สัญญาลูกผู้ชาย” ที่ให้กันไว้ จะสามารถยึดเหนี่ยว 7 เก้าอี้รัฐมนตรีไว้อยู่กับพรรคได้

หลังฝุ่นควันตลาดนัด ส.ส.สงบลง ที่ประจวบกับฤดูกาลปรับ ครม. คงได้รู้ว่าพรรคไหนจะปัง พรรคไหนจะแป้กกันแน่.


กำลังโหลดความคิดเห็น