**ในที่สุดก็มาถึงจนได้สำหรับพรรคอนาคตใหม่ กับการชี้ชะตาว่าจะรอด หรือไม่รอด ในคดีเงินกู้ จะถูกยุบพรรคหรือไม่ ซึ่งตามกำหนดศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัย ในวันนี้ (21 กุมภาพันธ์) แม้ว่านาทีนี้ ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาแบบไหน เป็นบวกหรือลบมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับระดับแกนนำของพรรคตั้งแต่ หัวหน้าพรรค คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค รวมไปถึงบรรดากกรรมการบริหารพรรคกว่า 10 คน คงนั่งไม่ติดแน่นอน
เพราะอย่างที่รู้กันว่า คดีเงินกู้จากหัวหน้าพรรคคือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวนกว่า 191 ล้าน มันมีเดิมพันสูงเป็นการชี้ชะตาถึงอนาคตทางการเมือง รวมไปถึงยังเป็นการชี้ชะตาว่าจะติดคุกด้วยหรือไม่ เพราะหากผลออกมาว่า การกู้เงินของพรรคการเมืองทำไม่ได้ หรือผิดกฎหมายแล้วละก็ผลที่จะตามมานั้นหนักหน่วงแน่นอน
ดังนั้น เมื่อรู้ว่า“เดิมพัน”มันสูงแบบนี้ก็คงไม่ต้องแปลกที่ได้เห็นอาการดิ้นรนทุกทางเพื่อเอาตัวให้รอด หรือให้พ้นจากความผิดให้ได้ ทั้งความพยามในด้านแท็กติกทางกฎหมาย ในการยื้อคดีออกไปให้นานที่สุด เช่น การยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีการไต่สวนพยานเพิ่มเติม การขอขยายเวลาในการยื่นเอกสารชี้แจง รวมไปถึงการขู่ดำเนินคดีกับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)กราวรูด เนื่องจากเห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ อะไรประมาณนี้
นอกเหนือจากนี้ พวกเขาโดยเฉพาะแกนนำพรรค ระดับแกนนำสำคัญ เช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่มักออกมาวิพากษ์วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญในแบบถี่ยิบเรื่อยๆ โดยระบุในทำนองว่า เป็นการรวบรัดในการพิจารณาคดีโดยไม่เปิดให้มีการชี้แจงอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีการกล่าวหาว่า มีความพยายามยื้อไม่ให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ที่เพิ่งได้รับการโหวตจากวุฒิสภา จำนวน 4 คน ขึ้นทูลเกล้าฯ พร้อมตั้งข้องสงสัยว่าเป็นการยื้อเพื่อให้ตุลาการชุดเก่าเป็นผู้วินิจฉัยคดีเงินกู้พรรคอนาคตใหม่
**ขณะเดียวกัน ภายในพรรคก็มีการรณรงค์เพื่อคัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่กันอย่างกว้างขวาง โดยมีผู้สนับสนุนของพรรคที่มีที่มาหลากหลายอาชีพ ต่างออกมาลงชื่อกันเป็นหางว่าว โดยคนพวกนี้อ้างถึงความไม่ยุติธรรม อ้างถึงอำนาจของประชาชนที่เป็นผู้เลือกพรรคนี้เข้ามาเป็นตัวแทน เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แล้วแต่จะอ้างเหตุผลกันมาสารพัด
แต่นาทีนี้ถือว่าทุกอย่างต้องเดินต่อไปตามที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว คงไม่มีอะไรต้องมาอธิบาย หรือสาธยายกันอีกแล้ว เพราะเมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้นัดอ่านคำวินิจฉัย ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ซึ่งนับจากนี้ก็ถือว่าเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง หรือนับเป็นนาทีแล้วเท่านั้น
ต้องลุ้นว่า ผลจะออกมาแบบไหน บวกหรือลบ หรือว่าลบมาก หรือลบน้อยเท่านั้นเอง หรืออย่างที่บรรดากูรูทางกฎหมายได้ระบุเอาไว้ล่วงหน้าว่าผลน่าจะออกมาเพียงสองสามทางหลักๆ เท่านั้น นั่นคือ ไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ แต่กรรมการบริหารบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง อีกทางหนึ่งยุบพรรค และกรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง รวมไปถึงไม่ยุบ นั่นคือ ยกคำร้อง เป็นต้น ซึ่งทุกทางเป็นไปได้ทั้งสิ้น
**อย่างไรก็ดี หากให้พิจารณากันแบบให้น้ำหนักในแบบส่วนตัวก็ต้องบอกว่า สำหรับบรรดากรรมการบริหารพรรค น่าจะต้อง “ลุ้นหนัก”กว่าใคร เพราะงานนี้ถือว่า สาหัส โอกาสรอดนั้นเมื่อพิจารณาจากหลายฝ่ายมาประกอบแล้ว บอกได้คำเดียวว่า น่าจะยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้น
** แต่ถึงอย่างไรอีกไม่กี่ชั่วโมง ก็รู้ผลแล้ว !!
เพราะอย่างที่รู้กันว่า คดีเงินกู้จากหัวหน้าพรรคคือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวนกว่า 191 ล้าน มันมีเดิมพันสูงเป็นการชี้ชะตาถึงอนาคตทางการเมือง รวมไปถึงยังเป็นการชี้ชะตาว่าจะติดคุกด้วยหรือไม่ เพราะหากผลออกมาว่า การกู้เงินของพรรคการเมืองทำไม่ได้ หรือผิดกฎหมายแล้วละก็ผลที่จะตามมานั้นหนักหน่วงแน่นอน
ดังนั้น เมื่อรู้ว่า“เดิมพัน”มันสูงแบบนี้ก็คงไม่ต้องแปลกที่ได้เห็นอาการดิ้นรนทุกทางเพื่อเอาตัวให้รอด หรือให้พ้นจากความผิดให้ได้ ทั้งความพยามในด้านแท็กติกทางกฎหมาย ในการยื้อคดีออกไปให้นานที่สุด เช่น การยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีการไต่สวนพยานเพิ่มเติม การขอขยายเวลาในการยื่นเอกสารชี้แจง รวมไปถึงการขู่ดำเนินคดีกับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)กราวรูด เนื่องจากเห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ อะไรประมาณนี้
นอกเหนือจากนี้ พวกเขาโดยเฉพาะแกนนำพรรค ระดับแกนนำสำคัญ เช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่มักออกมาวิพากษ์วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญในแบบถี่ยิบเรื่อยๆ โดยระบุในทำนองว่า เป็นการรวบรัดในการพิจารณาคดีโดยไม่เปิดให้มีการชี้แจงอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีการกล่าวหาว่า มีความพยายามยื้อไม่ให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ที่เพิ่งได้รับการโหวตจากวุฒิสภา จำนวน 4 คน ขึ้นทูลเกล้าฯ พร้อมตั้งข้องสงสัยว่าเป็นการยื้อเพื่อให้ตุลาการชุดเก่าเป็นผู้วินิจฉัยคดีเงินกู้พรรคอนาคตใหม่
**ขณะเดียวกัน ภายในพรรคก็มีการรณรงค์เพื่อคัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่กันอย่างกว้างขวาง โดยมีผู้สนับสนุนของพรรคที่มีที่มาหลากหลายอาชีพ ต่างออกมาลงชื่อกันเป็นหางว่าว โดยคนพวกนี้อ้างถึงความไม่ยุติธรรม อ้างถึงอำนาจของประชาชนที่เป็นผู้เลือกพรรคนี้เข้ามาเป็นตัวแทน เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แล้วแต่จะอ้างเหตุผลกันมาสารพัด
แต่นาทีนี้ถือว่าทุกอย่างต้องเดินต่อไปตามที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว คงไม่มีอะไรต้องมาอธิบาย หรือสาธยายกันอีกแล้ว เพราะเมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้นัดอ่านคำวินิจฉัย ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ซึ่งนับจากนี้ก็ถือว่าเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง หรือนับเป็นนาทีแล้วเท่านั้น
ต้องลุ้นว่า ผลจะออกมาแบบไหน บวกหรือลบ หรือว่าลบมาก หรือลบน้อยเท่านั้นเอง หรืออย่างที่บรรดากูรูทางกฎหมายได้ระบุเอาไว้ล่วงหน้าว่าผลน่าจะออกมาเพียงสองสามทางหลักๆ เท่านั้น นั่นคือ ไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ แต่กรรมการบริหารบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง อีกทางหนึ่งยุบพรรค และกรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง รวมไปถึงไม่ยุบ นั่นคือ ยกคำร้อง เป็นต้น ซึ่งทุกทางเป็นไปได้ทั้งสิ้น
**อย่างไรก็ดี หากให้พิจารณากันแบบให้น้ำหนักในแบบส่วนตัวก็ต้องบอกว่า สำหรับบรรดากรรมการบริหารพรรค น่าจะต้อง “ลุ้นหนัก”กว่าใคร เพราะงานนี้ถือว่า สาหัส โอกาสรอดนั้นเมื่อพิจารณาจากหลายฝ่ายมาประกอบแล้ว บอกได้คำเดียวว่า น่าจะยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้น
** แต่ถึงอย่างไรอีกไม่กี่ชั่วโมง ก็รู้ผลแล้ว !!