xs
xsm
sm
md
lg

อนาคตใหม่ดิ้นสุดชีวิต ยื้อคดียุบพรรค!?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ในทางแท็กติกทางกฎหมายหลายคนอาจมองแบบนั้นก็ได้หลังจากล่าสุด เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ทางพรรคอนาคตใหม่ได้มอบหมายให้ทนายความไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อคัดค้านและขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้มีการไต่สวนพยาน จำนวน 17 ปาก ในคดีพรรคอนาคตใหม่กู้เงิน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคจำนวน 191 ล้านบาทอย่างเปิดเผย
น่าสังเกตก็คือ การมายื่นคำร้องในครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนถึงกำหนดที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายทะเบียนพรรคการเมือง และพยานจำนวน 17 ปาก ส่งคำชี้แจงเพียงหนึ่งวัน คือ ภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ โดยไม่จำเป็นต้องมีการไต่สวน เนื่องจากเห็นว่ามีข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว สามารถวินิจฉัยคดีได้ แต่อย่างไรก็ดี ศาลฯระบุเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาคดีจึงอนุญาตให้มีการส่งคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรในวันดังกล่าวก่อนที่จะมีการวินิจฉัยคดี วันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้อ้างถึงสาเหตุที่พรรคต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดกระบวนการพิจารณาในศาลฯ และทำการไต่สวนอย่างเปิดเผย โดยได้ยื่นบัญชีพยานบุคคล 17 ราย แบ่งเป็นพยานนำ 4 ราย ซึ่งเป็นพยานที่พรรคสามารถนำมายังศาลรัฐธรรมนูญได้เอง ได้แก่ หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิกพรรค และฝ่ายกฎหมายของพรรค
ส่วนที่เหลืออีก 13 ราย เป็นพยานหมาย ซึ่งพรรคไม่สามารถนำมาเป็นพยานต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ด้วยตัวเอง เช่น อดีตกรรมการการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ กกต. ที่มีส่วนร่วมในการไต่สวนและมีความเห็นให้ยกคำร้อง โดยพยานหมายในกลุ่มนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญในการเรียกมาเป็นพยานเพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงต่อไป
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า จากเอกสารข่าวของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ออกมาเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่กำหนดให้พรรคอนาคตใหม่ จัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริง หรือความเห็นเป็นหนังสือยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ จำนวน 17 รายนั้น ศาลรัฐธรรมนูญอาจเข้าใจว่าทั้ง 17 ราย ล้วนเป็นพยานนำ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่พรรคจะสามารถยื่นบันทึกถ้อยคำได้ทันตามกำหนดเวลาของศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุผลและพรรคไม่มีอำนาจจะไปขอบันทึกการให้ถ้อยคำของเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และประการที่ 2 การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีเอกสารข่าว เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ทำให้พรรคมีเวลาจัดทำบันทึกเพียง 3 วันเท่านั้น เนื่องจากติดวันหยุดราชการถึง 3 วัน ได้แก่ วันที่ 8-9-10 กุมภาพันธ์ ดังนั้นการที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดเช่นนั้น ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่แท้ ที่พรรคจะดำเนินการได้ทัน
แน่นอนว่า นี่คือสิทธิทางกฎหมาย หรืออาจเรียกว่าเป็นแท็กติกทางกฎหมายก็ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะอนุญาตให้ตามคำร้องดังกล่าว หรือไม่ และการยื่นคำร้องมาก่อนถึงกำหนดเพียงไม่กี่ชั่วโมง มันก็สามารถมองได้หลายแง่มุม
**นั่นคือ หนึ่งเป็นความพยายามในการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้มีการไต่สวนพยานเกิดขึ้น เนื่องจากมีปัญหาในการทำบันทึกถ้อยคำของพยานที่ว่าจริงๆ หรือ สอง นี่คือรายการยื้อคดีออกไปให้นานที่สุด นั่นคือหากศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตตามคำร้อง ก็ต้องมีการใช้เวลาในการไต่สวนพยานแบบเปิดเผยอีกพักใหญ่
อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าจับตาก็คือในช่วงเวลานี้บรรดาแกนนำพรรคอนาคตใหม่บางคน เช่น นายปิยบุตร แสงกนกกุล พยายามออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะกดดัน หรือมองว่าเป็นการดิสเครดิตศาลรัฐธรรมนูญมากขึ้น ในทำนองเหมือนกับว่าเป็นการ “ปิดกั้น”ไม่ยอมให้มีการชี้แจง หรือมีการไต่สวนพยานอย่างเปิดเผย
รวมไปถึงมีความพยามชี้ให้เห็นว่า การที่ศาลฯ กำหนดวันวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ก่อนที่พรรคฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเพียงไม่กี่วัน นั่นคือ กำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล วันที่ 24 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป
อีกทั้งยังระบุในทำนองว่าเป็นความพยายามของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางส่วน ที่ต้องการวินิจฉัยคดีทิ้งทวนก่อนที่ตัวเองจะหมดวาระ ซึ่งในข้อเท็จจริงก็จะมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 5 คน กำลังจะพ้นวาระ
แม้ว่าในที่สุดแล้วผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญจะอนุญาตให้มีการไต่สวนพยานโดยเปิดเผยตามที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นเรื่องเข้ามาก่อนถึงวันครบกำหนดเพียงแค่หนึ่งวันหรือไม่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ศาลฯได้ระบุไว้อย่างชัดเจนแล้วว่ามีข้อเท็จจริงครบถ้วนสำหรับการวินิจฉัยคดีแล้วก็ตาม แต่เมื่อมีช่องทางให้ดิ้นรน ก็ถือว่าต้องดิ้นกันจนนาทีสุดท้าย
** เพราะต้องเข้าใจว่าคดีเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสที่สุด และที่สำคัญยังเป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคเปิดเผยออกมาเองว่าให้พรรคกู้เงิน ดังนั้นเหลือเพียงแค่คำวินิจฉัยว่า ทำผิดกฎหมายหรือไม่เท่านั้นเอง !!
กำลังโหลดความคิดเห็น