ผู้จัดการรายวัน360-"อนุทิน"ยื่นคำขาด ห้ามผู้โดยสาร "เรือเวสเตอร์ดัม" บินเข้าไทย หลังพบคนติดเชื้อโควิด-19 ลั่นสายการบินใดไม่ทำตาม ส่งบิลเรียกเก็บเงินระหว่างถูกกักโรค ส่วนคนไทยกลับได้ แต่ต้องถูกกักตัว 14 วัน เผยเหตุการณ์ระทึก รองนายกฯ ขับเครื่องบินไปแม่สอด เจอฟ้าปิด หมอกควันคลุม ล้อไม่กาง จนต้องบินลงดอนเมืองประชุมทางโทรศัพท์ติดตามสถานการณ์โรคระบาดแทน สธ.เผยพบผู้ป่วยเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงชาวจีนที่เฝ้าระวัง รวมเป็น 35 ราย ระบุอัตราการรักษาหายของไทยสูงถึง 40% มากสุดในโลก พร้อมขยายเกณฑ์สอบสวนโรคผู้ที่เดินทางมาจากญี่ปุ่น-สิงคโปร์ ล่าสุดในจีนมีผู้ติดเชื้อทะลุ 7 หมื่นราย ตาย 1,770 ราย หายดีและกลับบ้านแล้ว 10,844 ราย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงกรณีผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมที่เทียบท่าสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา และเดินทางด้วยเครื่องบินมายังไทย เพื่อเข้าประเทศและเปลี่ยนเครื่อง จนทำให้เกิดข้อกังวลถึงการติดเชื้อโควิด-19 หลังจากที่มาเลเซียพบผู้โดยสารเรือลำดังกล่าวที่เดินทางมามีการติดเชื้อชัดเจน ว่า หลังจากมาเลเซียประกาศพบผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมติดเชื้อ ก็ชัดเจนว่า เรือลำนี้มีเชื้อ ดังนั้น เราต้องเอาความปลอดภัยของคนไทยไว้ก่อน ก็จะแจ้งรายชื่อผู้โดยสารและลุกเรือทุกคนของเรือเวสเตอร์ดัมให้แก่สายการบินทุกสายที่มาจากกัมพูชา ทั้งพนมเปญและเสียมเรียบ ซึ่งมีไม่กี่สายการบิน เช่น การบินไทย แอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ส และสายการบินของกัมพูชา โดยขอให้ไม่ออกบอร์ดดิงพาสแก่ผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมต่างชาติ จนกว่าจะพ้นระยะการฟักตัวของโรค 14 วัน ซึ่งจะนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.2563 แต่หากเป็นคนไทย ซึ่งเป็นผู้โดยสาร 2 คน และลูกเรือ 19 คน ถือว่ามีสิทธิกลับได้ แต่หากเดินทางกลับเข้ามา ก็จะต้องเชิญตัวไปกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน
"เรามีสิทธิในฐานะกระทรวงสาธารณสุขที่ดูแลเรื่องนี้ ที่จะขอสายการบินอย่าเอาผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมเข้ามา เพราะหากมีเชื้อจะต้องดักผู้โดยสารทั้งลำ ซึ่งเราไม่มีกำลังความสามารถพอ เราอุตส่าห์ไม่ให้เรือมาเทียบท่าแล้ว และปรากฏว่าเรือลำนี้มีเชื้อ แล้วเราจะบอกว่าให้ผู้โดยสารเรือลำนี้เดินทางเข้ามาได้ก็ไม่ใช่ แต่หากสายการบินยังพาผู้โดยสารมา ก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆทั้งค่าอาหาร ที่พัก และยังต้องถูกกักโรคอีก แล้วเกิดมีการติดเชื้อจริงๆ สายการบินก็ต้องรับผิดชอบ เราไม่ได้รักษาฟรี รวมถึงค่าโรงแรม อาหาร ที่พักและการถูกกักกันโรคอีก"นายอนุทินกล่าว
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า เรือเวสเตอร์ดัมเทียบท่าที่กัมพูชาวันที่ 13 ก.พ.2563 มีคนไทย 21 คน เป็นผู้โดยสาร 2 คน ลูกเรือ 19 คน ส่วนใหญ่ลูกเรือขออยู่บนเรือต่อ เพราะทำงานบนนั้น ดังนั้น เรื่องนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.คนไทยที่กลับมา หากมีไข้จะนำเข้าห้องแยกโรค ถ้าไม่มีไข้ก็จะต้องกักกันโรคไม่น้อยกว่า 14 วัน ซึ่งจะมีทั้งการกักตัวโดยเฝ้าระวังที่บ้าน และโรงพยาบาล ส่วนตอนแรกที่คนไทย 2 คนที่เป็นผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมกลับเข้ามา เป็นการกักโรคที่บ้าน เพราะตอนนั้นยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ป่วยบนเรือ แต่ตอนนี้มีรายงานผู้ป่วยบนเรือแล้ว หลังจากนี้ หากคนไทยที่กลับมาก็จะต้องถูกกักในสถานที่เราจัดให้ ซึ่งที่ต้องกักโรคนั้น เพราะบนเรือถือเป็นพื้นที่ปิด และมีความเสี่ยงสูง ต่างจากกรณีผู้เดินทางจากสิงคโปร์และญี่ปุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ นายอนุทินได้เดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวมาลงที่สนามบินนานาชาติแม่สอด เพื่อประชุมหน่วยงานสาธารณสุข และติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด เพราะมีข่าวในโลกออนไลน์ว่าในเขตชายแดน อ.แม่สอด เป็นพื้นที่เสี่ยงการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 สร้างความวิตกให้ประชาชนเป็นอย่างมาก จนนายอนุทินต้องเดินทางมาด้วยตนเอง แต่พอถึงเวลาที่เครื่องบินจะลงจอด กลับเกิดเหตุระทึกขึ้น เมื่อล้อเครื่องบินไม่ยอมกางออก เนื่องจากเซ็นเซอร์เครื่องบินตรวจจับพบค่าฝุ่นละอองสูง รวมทั้งสภาพท้องฟ้าปิด เต็มไปด้วยหมอกควันและฝุ่นละอองทั่วทั้งอำเภอ ทำให้เครื่องของนายอนุทิน ต้องบินกลับไปลงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จนต้องมีการประชุมทางโทรศัพท์แทน
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงสรุปสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย เป็นหญิงชาวจีน อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในครอบครัวชาวจีน 9 คนที่เข้ามาพร้อมกันแล้วมีผู้ป่วยติดเชื้อ ซึ่งสรุปว่าครอบครัวนี้ติดเชื้อทุกคน ส่งผลให้ขณะนี้ไทยมีผู้ติดเชื้อสะสม 35 ราย รักษาหายแล้ว 15 ราย เหลือนอนรักษาในโรงพยาบาล 20 ราย ซึ่งอัตราการรักษาผู้ป่วยหายของไทยถือว่าสูงที่สุดในโลก คือ มากกว่า 40% ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ป่วย 2 รายที่มีอาการหนัก โดยทั่วไปอาการยังดีอยู่ ยังคงใช้เครื่องช่วยหยุงการทำงานของปอดและหัวใจ (เอคโม) และเครื่องช่วยหายใจ
สำหรับการติดตามสถานการณ์ประเทศต่างๆ ทั่วโลก พบว่า ประเทศที่มีผู้ป่วยมากกว่าไทย คือ ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ที่มีการประกาศว่ามีผู้ป่วยที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเกี่ยวกับคนจีนหรือไม่ แสดงว่าอยู่ในการแพร่ระบาดระยะที่ 3 คือ ระบาดภายในประเทศ ดังนั้น จะมีการตั้งด่านคัดกรองผู้เดินทางมาจาก 2 ประเทศนี้ด้วย หากเดินทางมาแล้วมีไข้ จะถือเป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค และจับเข้าห้องแยกโรคทันทีเพื่อรับการรักษาและตรวจวินิจฉัย หากไม่มีไข้ก็จะเช็กประวัติ ตรวจสอบที่อยู่ และติดตามเป็นเวลา 14 วัน หากมีอาการไข้ ทางเดินหายใจภายใน 14 วัน ให้รีบมาตรวจวินิจฉัยทันที
"วันนี้มีการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้บริหาร สธ.ทั่วประเทศ ทำความเข้าใจโดยเฉพาะเขตสุขภาพที่มีความเสี่ยง คือ มีสนามบิน และท่าเทียบเรือ ซึ่งขณะนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนมาตรการวินิจฉัยโรค จากเดิมที่เราคัดกรองผู้ป่วยที่มาจากจีน รวมทั้งจีนฮ่องกง ไต้หวัน มาเก๊า ตอนนี้ก็จะดูเพิ่มอีก 2 ประเทศ คือ สิงคโปร์และญี่ปุ่น รวมทั้งให้ทำแผนปฏิบัติการถึงระดับตำบล หมู่บ้าน อำเภอ ใครมีประวัติไปต่างประเทศในพื้นที่เสี่ยงช่วงนี้ หากมีอาการผิดปกติให้รีบมาตรวจ และขยายในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ใน รพ.ที่มีการดูแลผู้ป่วยโรคนี้ด้วย" นพ.สุขุมกล่าว
นพ.สุขุมกล่าวว่า สำหรับคนไทยที่กลับจากอู่ฮั่น 137 คนที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ไม่มีไข้ หรือเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่ ส่วนผู้ป่วย 1 ราย มีอาการปกติ ไม่มีไข้ ไอ น้ำมูก เตรียมอนุญาตให้กลับบ้านวันที่ 19 ก.พ.2563 ส่วนเรื่องการตรวจยืนยันเชื้อ มีนโยบายให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พัฒนาทุก รพ.ทุกจังหวัด สามารถตรวจยืนยันได้ใน 1-2 เดือนนี้อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่งและมีมาตรฐานเช่นเดียวกัน และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้พัฒนาชุดทดสอบแบบง่ายรู้ผลใน 5 นาทีแล้วเสร็จ แต่ยังต้องเทียบความน่าเชื่อถือ ความเที่ยงความตรง และทดสอบเทียบกับแล็บมาตรฐานในการตรวจหาสารพันธุกรรม ซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ก็จะเอาชุดทดสอบมาใช้ ส่วนกระแสที่ว่า รพ.ไม่ตรวจยืนยันเพราะเป็นภาระค่าใช้จ่ายก็ไม่จริง เพราะค่าใช้จ่ายในการตรวจเป็นงบของกรมควบคุมโรค อย่างไรก็ตาม ขอร้องบุคลากรสาธารณสุขให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศเสี่ยงทุกประเทศในช่วงนี้
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก สธ.กล่าวว่า กรณีข่าวพบผู้ป่วยติดเชิ้อเพิ่มที่ จ.ศรีสะเกษ ขอชี้แจงว่า ขณะนี้การเก็บตัวอย่างตรวจเชื้อจากแล็บ 2 แห่งนั้น แห่งหนึ่งให้ผลเป็นบวก อีกแห่งเป็นลบ จึงยังไม่ถือว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังต้องรอการตรวจยืนยันผลอีกครั้งหนึ่ง แต่จากการสอบสวนโรคพบว่า มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับชาวจีน
ด้านสำนักข่าวซินหัว รายงานว่า คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้รับการรักษาจนหายดีและออกจากโรงพยาบาลได้ 1,425 ราย เมื่อนับเฉพาะวันอาทิตย์ที่ 16 ก.พ.2563 ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้วรวมทั้งสิ้น 10,844 ราย
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 1,770 ราย และผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันผลรวมอยู่ที่ 70,548 ราย กระจายตัวอยู่ในภูมิภาคระดับมณฑล 31 แห่งของจีน เมื่อนับถึงสิ้นวันที่ 16 ก.พ.2563 ขณะที่ CGTN สื่อทางการจีน รายงานล่าสุดว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีน รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 70,635 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อนอกจีนมีทั้งสิ้น 688 ราย เสียชีวิตในจีน 1,772 ราย (รวมฺฮ่องกง 1 และ ไต้หวัน 1) เสียชีวิตนอกประเทศจีน 3 ราย (ฟิลิปปินส์ 1 , ญี่ปุ่น 1 และฝรั่งเศส 1)
กระทรวงการต่างประเทศไทย ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล ออกประกาศทางเว็บไซต์ให้บุคคลที่เดินทางมาจากประเทศไทย สิงคโปร์ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง และมาเก๊า ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.2563 เป็นต้นไป ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน เป็นเวลา 14 วัน หลังจากเดินทางมาถึงอิสราเอล ถึงแม้ว่าจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ โดยไม่ให้เดินทางไปที่สาธารณะ อาทิ ที่ทํางาน ห้างร้าน โรงเรียนและโรงพยาบาล ทั้งนี้ ไม่รวมถึงผู้โดยสาร ต่อเครื่องบินผ่านประเทศ จึงขอแจ้งเตือนคนไทยงดการเดินทางไปอิสราเอลจนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงกรณีผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมที่เทียบท่าสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา และเดินทางด้วยเครื่องบินมายังไทย เพื่อเข้าประเทศและเปลี่ยนเครื่อง จนทำให้เกิดข้อกังวลถึงการติดเชื้อโควิด-19 หลังจากที่มาเลเซียพบผู้โดยสารเรือลำดังกล่าวที่เดินทางมามีการติดเชื้อชัดเจน ว่า หลังจากมาเลเซียประกาศพบผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมติดเชื้อ ก็ชัดเจนว่า เรือลำนี้มีเชื้อ ดังนั้น เราต้องเอาความปลอดภัยของคนไทยไว้ก่อน ก็จะแจ้งรายชื่อผู้โดยสารและลุกเรือทุกคนของเรือเวสเตอร์ดัมให้แก่สายการบินทุกสายที่มาจากกัมพูชา ทั้งพนมเปญและเสียมเรียบ ซึ่งมีไม่กี่สายการบิน เช่น การบินไทย แอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ส และสายการบินของกัมพูชา โดยขอให้ไม่ออกบอร์ดดิงพาสแก่ผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมต่างชาติ จนกว่าจะพ้นระยะการฟักตัวของโรค 14 วัน ซึ่งจะนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.2563 แต่หากเป็นคนไทย ซึ่งเป็นผู้โดยสาร 2 คน และลูกเรือ 19 คน ถือว่ามีสิทธิกลับได้ แต่หากเดินทางกลับเข้ามา ก็จะต้องเชิญตัวไปกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน
"เรามีสิทธิในฐานะกระทรวงสาธารณสุขที่ดูแลเรื่องนี้ ที่จะขอสายการบินอย่าเอาผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมเข้ามา เพราะหากมีเชื้อจะต้องดักผู้โดยสารทั้งลำ ซึ่งเราไม่มีกำลังความสามารถพอ เราอุตส่าห์ไม่ให้เรือมาเทียบท่าแล้ว และปรากฏว่าเรือลำนี้มีเชื้อ แล้วเราจะบอกว่าให้ผู้โดยสารเรือลำนี้เดินทางเข้ามาได้ก็ไม่ใช่ แต่หากสายการบินยังพาผู้โดยสารมา ก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆทั้งค่าอาหาร ที่พัก และยังต้องถูกกักโรคอีก แล้วเกิดมีการติดเชื้อจริงๆ สายการบินก็ต้องรับผิดชอบ เราไม่ได้รักษาฟรี รวมถึงค่าโรงแรม อาหาร ที่พักและการถูกกักกันโรคอีก"นายอนุทินกล่าว
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า เรือเวสเตอร์ดัมเทียบท่าที่กัมพูชาวันที่ 13 ก.พ.2563 มีคนไทย 21 คน เป็นผู้โดยสาร 2 คน ลูกเรือ 19 คน ส่วนใหญ่ลูกเรือขออยู่บนเรือต่อ เพราะทำงานบนนั้น ดังนั้น เรื่องนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.คนไทยที่กลับมา หากมีไข้จะนำเข้าห้องแยกโรค ถ้าไม่มีไข้ก็จะต้องกักกันโรคไม่น้อยกว่า 14 วัน ซึ่งจะมีทั้งการกักตัวโดยเฝ้าระวังที่บ้าน และโรงพยาบาล ส่วนตอนแรกที่คนไทย 2 คนที่เป็นผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมกลับเข้ามา เป็นการกักโรคที่บ้าน เพราะตอนนั้นยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ป่วยบนเรือ แต่ตอนนี้มีรายงานผู้ป่วยบนเรือแล้ว หลังจากนี้ หากคนไทยที่กลับมาก็จะต้องถูกกักในสถานที่เราจัดให้ ซึ่งที่ต้องกักโรคนั้น เพราะบนเรือถือเป็นพื้นที่ปิด และมีความเสี่ยงสูง ต่างจากกรณีผู้เดินทางจากสิงคโปร์และญี่ปุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ นายอนุทินได้เดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวมาลงที่สนามบินนานาชาติแม่สอด เพื่อประชุมหน่วยงานสาธารณสุข และติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด เพราะมีข่าวในโลกออนไลน์ว่าในเขตชายแดน อ.แม่สอด เป็นพื้นที่เสี่ยงการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 สร้างความวิตกให้ประชาชนเป็นอย่างมาก จนนายอนุทินต้องเดินทางมาด้วยตนเอง แต่พอถึงเวลาที่เครื่องบินจะลงจอด กลับเกิดเหตุระทึกขึ้น เมื่อล้อเครื่องบินไม่ยอมกางออก เนื่องจากเซ็นเซอร์เครื่องบินตรวจจับพบค่าฝุ่นละอองสูง รวมทั้งสภาพท้องฟ้าปิด เต็มไปด้วยหมอกควันและฝุ่นละอองทั่วทั้งอำเภอ ทำให้เครื่องของนายอนุทิน ต้องบินกลับไปลงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จนต้องมีการประชุมทางโทรศัพท์แทน
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงสรุปสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย เป็นหญิงชาวจีน อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในครอบครัวชาวจีน 9 คนที่เข้ามาพร้อมกันแล้วมีผู้ป่วยติดเชื้อ ซึ่งสรุปว่าครอบครัวนี้ติดเชื้อทุกคน ส่งผลให้ขณะนี้ไทยมีผู้ติดเชื้อสะสม 35 ราย รักษาหายแล้ว 15 ราย เหลือนอนรักษาในโรงพยาบาล 20 ราย ซึ่งอัตราการรักษาผู้ป่วยหายของไทยถือว่าสูงที่สุดในโลก คือ มากกว่า 40% ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ป่วย 2 รายที่มีอาการหนัก โดยทั่วไปอาการยังดีอยู่ ยังคงใช้เครื่องช่วยหยุงการทำงานของปอดและหัวใจ (เอคโม) และเครื่องช่วยหายใจ
สำหรับการติดตามสถานการณ์ประเทศต่างๆ ทั่วโลก พบว่า ประเทศที่มีผู้ป่วยมากกว่าไทย คือ ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ที่มีการประกาศว่ามีผู้ป่วยที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเกี่ยวกับคนจีนหรือไม่ แสดงว่าอยู่ในการแพร่ระบาดระยะที่ 3 คือ ระบาดภายในประเทศ ดังนั้น จะมีการตั้งด่านคัดกรองผู้เดินทางมาจาก 2 ประเทศนี้ด้วย หากเดินทางมาแล้วมีไข้ จะถือเป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค และจับเข้าห้องแยกโรคทันทีเพื่อรับการรักษาและตรวจวินิจฉัย หากไม่มีไข้ก็จะเช็กประวัติ ตรวจสอบที่อยู่ และติดตามเป็นเวลา 14 วัน หากมีอาการไข้ ทางเดินหายใจภายใน 14 วัน ให้รีบมาตรวจวินิจฉัยทันที
"วันนี้มีการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้บริหาร สธ.ทั่วประเทศ ทำความเข้าใจโดยเฉพาะเขตสุขภาพที่มีความเสี่ยง คือ มีสนามบิน และท่าเทียบเรือ ซึ่งขณะนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนมาตรการวินิจฉัยโรค จากเดิมที่เราคัดกรองผู้ป่วยที่มาจากจีน รวมทั้งจีนฮ่องกง ไต้หวัน มาเก๊า ตอนนี้ก็จะดูเพิ่มอีก 2 ประเทศ คือ สิงคโปร์และญี่ปุ่น รวมทั้งให้ทำแผนปฏิบัติการถึงระดับตำบล หมู่บ้าน อำเภอ ใครมีประวัติไปต่างประเทศในพื้นที่เสี่ยงช่วงนี้ หากมีอาการผิดปกติให้รีบมาตรวจ และขยายในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ใน รพ.ที่มีการดูแลผู้ป่วยโรคนี้ด้วย" นพ.สุขุมกล่าว
นพ.สุขุมกล่าวว่า สำหรับคนไทยที่กลับจากอู่ฮั่น 137 คนที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ไม่มีไข้ หรือเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่ ส่วนผู้ป่วย 1 ราย มีอาการปกติ ไม่มีไข้ ไอ น้ำมูก เตรียมอนุญาตให้กลับบ้านวันที่ 19 ก.พ.2563 ส่วนเรื่องการตรวจยืนยันเชื้อ มีนโยบายให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พัฒนาทุก รพ.ทุกจังหวัด สามารถตรวจยืนยันได้ใน 1-2 เดือนนี้อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่งและมีมาตรฐานเช่นเดียวกัน และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้พัฒนาชุดทดสอบแบบง่ายรู้ผลใน 5 นาทีแล้วเสร็จ แต่ยังต้องเทียบความน่าเชื่อถือ ความเที่ยงความตรง และทดสอบเทียบกับแล็บมาตรฐานในการตรวจหาสารพันธุกรรม ซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ก็จะเอาชุดทดสอบมาใช้ ส่วนกระแสที่ว่า รพ.ไม่ตรวจยืนยันเพราะเป็นภาระค่าใช้จ่ายก็ไม่จริง เพราะค่าใช้จ่ายในการตรวจเป็นงบของกรมควบคุมโรค อย่างไรก็ตาม ขอร้องบุคลากรสาธารณสุขให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศเสี่ยงทุกประเทศในช่วงนี้
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก สธ.กล่าวว่า กรณีข่าวพบผู้ป่วยติดเชิ้อเพิ่มที่ จ.ศรีสะเกษ ขอชี้แจงว่า ขณะนี้การเก็บตัวอย่างตรวจเชื้อจากแล็บ 2 แห่งนั้น แห่งหนึ่งให้ผลเป็นบวก อีกแห่งเป็นลบ จึงยังไม่ถือว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังต้องรอการตรวจยืนยันผลอีกครั้งหนึ่ง แต่จากการสอบสวนโรคพบว่า มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับชาวจีน
ด้านสำนักข่าวซินหัว รายงานว่า คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้รับการรักษาจนหายดีและออกจากโรงพยาบาลได้ 1,425 ราย เมื่อนับเฉพาะวันอาทิตย์ที่ 16 ก.พ.2563 ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้วรวมทั้งสิ้น 10,844 ราย
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 1,770 ราย และผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันผลรวมอยู่ที่ 70,548 ราย กระจายตัวอยู่ในภูมิภาคระดับมณฑล 31 แห่งของจีน เมื่อนับถึงสิ้นวันที่ 16 ก.พ.2563 ขณะที่ CGTN สื่อทางการจีน รายงานล่าสุดว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีน รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 70,635 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อนอกจีนมีทั้งสิ้น 688 ราย เสียชีวิตในจีน 1,772 ราย (รวมฺฮ่องกง 1 และ ไต้หวัน 1) เสียชีวิตนอกประเทศจีน 3 ราย (ฟิลิปปินส์ 1 , ญี่ปุ่น 1 และฝรั่งเศส 1)
กระทรวงการต่างประเทศไทย ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล ออกประกาศทางเว็บไซต์ให้บุคคลที่เดินทางมาจากประเทศไทย สิงคโปร์ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง และมาเก๊า ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.2563 เป็นต้นไป ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน เป็นเวลา 14 วัน หลังจากเดินทางมาถึงอิสราเอล ถึงแม้ว่าจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ โดยไม่ให้เดินทางไปที่สาธารณะ อาทิ ที่ทํางาน ห้างร้าน โรงเรียนและโรงพยาบาล ทั้งนี้ ไม่รวมถึงผู้โดยสาร ต่อเครื่องบินผ่านประเทศ จึงขอแจ้งเตือนคนไทยงดการเดินทางไปอิสราเอลจนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง