xs
xsm
sm
md
lg

ห้ามผู้โดยสารต่างชาติ "เรือเวสเตอร์ดัม" เข้าไทยก่อนพ้นระยะฟักตัว "โควิด-19" ส่วนคนไทยกลับได้ แต่ต้องกักโรค 14 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.ขอสายการบินห้ามผู้โดยสารต่างชาติ "เรือเวสเตอร์ดัม" จากกัมพูชาเดินทางมาไทย ก่อนพ้นระยะฟักตัวของโรค 14 วัน เตือนหากพามาต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ระหว่างถูกกักโรค 14 วัน ยิ่งมีไข้ ป่วยติดเชื้อ ก็ต้องรับผิดชอบค่ารักษา ส่วนคนไทยกลับมาได้ แต่ต้องถูกกักโรค 14 วัน  

วันนี้ (17 ก.พ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมที่เทียบท่าสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา และเดินทางด้วยเครื่องบินมายังประเทศไทย เพื่อเข้าประเทศและเปลี่ยนเครื่อง ทำให้เกิดข้อกังวลถึงการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หลังจากที่มาเลเซียพบผู้โดยสารเรือลำดังกล่าวที่เดินทางมามีการติดเชื้อชัดเจน ว่า หลังจากมาเลเซียประกาศพบผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมที่เดินทางเข้ามาติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ก็ชัดเจนว่า เรือลำนี้มีเชื้อ ดังนั้น เราต้องเอาความปลอดภัยของคนไทยไว้ก่อน ก็จะแจ้งรายชื่อผู้โดยสารและลุกเรือทุกคนของเรือเวสเตอร์ดัมให้แก่สายการบินทุกสายที่มาจากกัมพูชา ทั้งพนมเปญและเสียมเรียบ ซึ่งมีไม่กี่สายการบิน เช่น การบินไทย แอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ส และสายการบินของกัมพูชา โดยขอให้ไม่ออกบอร์ดดิงพาสแก่ผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมต่างชาติ จนกว่าจะพ้นระยะการฟักตัวของโรค 14 วัน ซึ่งจะนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. 2563 แต่หากเป็นคนไทย ซึ่งเป็นผู้โดยสาร 2 คน และลูกเรือ 19 คน ถือว่ามีสิทธิกลับได้ แต่หากเดินทางกลับเข้ามา ก็จะต้องเชิญตัวไปกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน

"เรามีสิทธิในฐานะกระทรวงสาธารณสุขที่ดูแลเรื่องนี้ ที่จะขอสายการบินอย่าเอาผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมเข้ามา เพราะหากมีเชื้อจะต้องดักผู้โดยสารทั้งลำ ซึ่งเราไม่มีกำลังความสามารถพอ เราอุตส่าห์ไม่ให้เรือมาเทียบท่าแล้ว และปรากฏว่าเรือลำนี้มีเชื้อ แล้วเราจะบอกว่าให้ผู้โดยสารเรือลำนี้เดินทางเข้ามาได้ก็ไม่ใช่ แต่หากสายการบินยังพาผู้โดยสารมา ก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆทั้งค่าอาหาร ที่พัก และยังต้องถูกกักโรคอีก แล้วเกิดมีการติดเชื้อจริงๆ สายการบินก็ต้องรับผิดชอบ เราไม่ได้รักษาฟรี รวมถึงค่าโรงแรม อาหาร ที่พักและการถูกกักกันโรคอีก" นายอนุทินกล่าว

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า เรือเวสเตอร์ดัมเทียบท่าที่กัมพูชาวันที่ 13 ก.พ. มีคนไทย 21 คน เป็นผู้โดยสาร 2 คน ลูกเรือ 19 คน ส่วนใหญ่ลูกเรือขออยู่บนเรือต่อ เพราะทำงานบนนั้น ดังนั้น เรื่องนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.คนไทยที่กลับมา หากมีไข้จะนำเข้าห้องแยกโรค ถ้าไม่มีไข้ก็จะต้องกักกันโรคไม่น้อยกว่า 14 วัน ซึ่งจะมีทั้งการกักตัวโดยเฝ้าระวังที่บ้าน (Home Quarantine) และโรงพยาบาล (Hospital Quarantine) ส่วนตอนแรกที่คนไทย 2 คนที่เป็นผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมกลับเข้ามา เป็นการกักโรคที่บ้าน เพราะตอนนั้นยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ป่วยบนเรือ แต่ตอนนี้มีรายงานผู้ป่วยบนเรือแล้ว หลังจากนี้หากคนไทยที่กลับมาก็จะต้องถูกกักในสถานที่เราจัดให้ ซึ่งที่ต้องกักโรคนั้นเพราะบนเรือถือเป็นพื้นที่ปิด และมีความเสี่ยงสูง ต่างจากกรณีผู้เดินทางจากสิงคโปร์และญี่ปุ่น

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า 2.ผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัมที่เป็นคนต่างชาติ เนื่องจากเรือเทียบท่าวันที่ 13 ก.พ. และมีการทยอยเดินทางไปต่อเครื่องที่ต่างๆ ซึ่งมาเลเซียพบคนมีไข้และตรวจพบติดเชื้อโดยประกาศวันที่ 15 ก.พ. ดังนั้น คนต่างชาติที่มาไทยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ก่อนวันที่ 15 ก.พ.ที่จะประกาศเชื้อ คนส่วนใหญ่จะมาต่อเครื่องและเดินทางออกไปเลย โดยมีการคัดกรองหน้าประตูเครื่อง เพราะหากมีไข้จะได้แยกตัวได้ทันที หากไม่มีไข้ก็ต้องทำตามคำแนะนำระหว่างรอเปลี่ยนเครื่อง และคัดกรองไข้ซ้ำก่อนขึ้นเครื่อง แต่หากส่วนหนึ่งที่จะเข้าเมืองและได้รับอนุญาตเข้าเมือง ก็ต้องทำตามคำแนะนำและจะถูกกักโรค 14 วันเช่นกัน

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สำหรับหลังวันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นไปที่มีการยกระดับ จะดำเนินการ 3 อย่าง คือ 1) ไม่สนับสนุนให้มีการเดินทางมา ซึ่งเป็นความร่วมมือของหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตไทยในกัมพูชา สายการบินต่างๆ สนามบิน ตม. และสาธารณสุข  2) ถ้าหากมาต่อเครื่องเหมือนก่อนหน้านี้ สายการบินก็ต้องทำการคัดกรองขาออก (Exit Screening) และมีการคัดกรองขาเข้าที่หน้าประตู (Entry Screening) ที่มีการไปยกป้ายชูว่ามีชื่อใครบ้าง เพื่อแยกออกมา ให้ล้างมือบ่อยๆ อย่าไปเดินสัมผัสผู้คนและรอขึ้นเครื่อง และสายการบินรับต่อก็ต้องทำการ Exit Screening 3) ส่วนกรณีหากมีเหตุจำเป็น เช่น หัวใจวาย มีอาการป่วย มีเหตุจำเป็นมากๆ ก็ต้องดูแล โดยกลุ่มที่ไม่มีไข้ทางเดินหายใจ ก็จะต้องดูแลกักโรค 14 วัน ถ้าหากมีไข้ก็จะจับแยกโรค






กำลังโหลดความคิดเห็น