เอเจนซีส์ – เจ้าหน้าที่เร่งตามหาผู้โดยสารหลายร้อยคนของเรือสำราญ “เวสเตอร์ดัม” ที่แยกย้ายออกเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ภายหลังได้รับอนุญาตให้เข้าจอดที่กัมพูชา แล้วต่อมามาเลเซียตรวจพบยืนยันว่าผู้โดยสารคนหนึ่งติดเชื้อไวรัส “โควิด-19” ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง สหรัฐฯส่งเครื่องบินไปอพยพพลเมืองของตนกว่า 300 คนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผู้โดยสารและลูกเรือที่ถูกกักกันโรคอยู่บนเรือสำราญ “ไดมอนด์ ปรินเซส” ที่จอดอยู่ในญี่ปุ่น โดยในจำนวนนี้ตรวจพบว่าป่วยด้วยไวรัส 14 ราย สำหรับสถานการณ์การระบาดในจีนนั้น พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจนยอดรวมเป็นกว่า 1,700 คน ทว่าแนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำท่าชะลอตัว
ตามรายงานของทางการสาธารณสุขของจีนในวันจันทร์ (17 ก.พ.) พบผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 2,048 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากวันก่อน 105 ราย ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตในจีนมีทั้งสิ้น 1,770 ราย ส่วนผู้ป่วยรวมเป็น 70,548 ราย ขณะเดียวกันก็มีผู้ที่ได้รับการรักษาจนหายดีจำนวน 10,844 คน
ทางการจีนบอกว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ล่าสุดนี้ เพิ่มขึ้นจากตัวเลขของวันอาทิตย์ (16) เล็กน้อย แต่ก็น้อยกว่าตัวเลขในวันเสาร์ (15) หลายร้อยราย
เวลาเดียวกัน ในพื้นที่นอกมณฑลหูเป่ย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่วันจันทร์ (17) เพียง 115 คน จากระดับเกือบ 450 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยที่ตัวเลขนี้ลดลงต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 13 แล้ว แนวโน้มที่จำนวนคนไข้ใหม่กำลังทรงตัวเช่นนี้ ทางการจีนบอกว่าเป็นหลักฐานว่ามาตรการต่างๆ ที่ใช้อยู่ได้ผล ถึงแม้พวกนักระบาดวิทยา รวมทั้ง เทดรอส อาดานอม เกรเบรเยซัส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (ฮู) เตือนว่า ยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ทิศทางของการระบาด
นอกจากนั้น ทางการจีนยังคงใช้มาตรการเข้มงวดเกี่ยวกับการชุมนุมของประชาชน โดยที่มีรายงานว่า อาจจะต้องมีการเลื่อนการประชุมเต็มคณะประจำปีของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (รัฐสภาจีน) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในเดือนมีนาคม
สำหรับการระบาดอย่างรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นนอกจีนแผ่นดินใหญ่ในเวลานี้ คือบนเรือสำราญไดมอนด์ ปรินเซสส์ ซึ่งจอดอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ปรากฏว่าในวันจันทร์พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 99 คน รวมแล้วเป็น 454 คน ถึงแม้มีการกักตัวผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดราว 3,700 คนนาน 14 วันแล้วก็ตาม
ขณะที่ญี่ปุ่นถูกวิจารณ์มากขึ้นเรื่องการจัดการวิกฤตนี้ ประเทศต่างๆ ได้แก่ แคนาดา ออสเตรเลีย อิตาลี และฮ่องกง เตรียมเดินรอยตามอเมริกา ในการอพยพพลเมืองของตนจากเรือลำนี้กลับประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ (16) ผู้โดยสารที่เป็นพลเมืองอเมริกันกว่า 300 คนถูกนำขึ้นรถโค้ชผ่านด่านตรวจหนังสือเดินทางชั่วคราวเพื่อขึ้นเครื่องบิน 3 ลำมุ่งหน้าสู่ฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ในแคลิฟอร์เนียและเทกซัส โดยเที่ยวบินแรกลงจอดที่ฐานทัพอากาศทราวิสในแคลิฟอร์เนียก่อนเที่ยงคืนวันเดียวกัน
รายงานระบุว่า มีผู้โดยสาร 14 คนที่เพิ่งตรวจพบติดเชื้อและเจ้าหน้าที่ได้นำผู้โดยสารเหล่านั้นไปยัง “พื้นที่กักกันพิเศษ” บนเครื่อง คาดกันว่า ผู้โดยสารทั้งหมดจะถูกกักตัวเพื่อดูอาการ 14 วันเมื่อถึงอเมริกา
แอนโทนี ฟอว์ซี เจ้าหน้าที่อาวุโสของสถาบันสุขภาพแห่งชาติของอเมริกา เผยว่า ยังมีผู้โดยสารอเมริกันบนเรือไดมอนด์ปรินเซสส์อีก 40 คนติดเชื้อและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลญี่ปุ่น
ความกังวลที่ว่า เรือสำราญดูเหมือนกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อและแพร่เชื้อไวรัส ยังเพิ่มทวีขึ้นในกรณีของเรือสำราญ “เวสเตอร์ดัม” ซึ่งได้รับอนุญาตให้จอดเทียบท่าทีเมืองพระสีหนุ (สีหนุวิลล์) ทางภาคใต้ของกัมพูชา เมื่อวันพฤหัสบดี (13) ที่แล้ว โดยที่การตรวจสุขภาพของแพทย์บนเรือและของกัมพูชาระบุว่า ผู้อยู่บนเรือกว่า 2,200คนนั้นไม่พบมีผู้ติดเชื้อ จากนั้นก็มีผู้โดยสารหลายร้อยคนได้รับอนุญาตให้ขึ้นจากเรือเพื่อเดินทางต่อ และยังมีบางส่วนพำนักอยู่ที่โรงแรมในกรุงพนมเปญ ขณะที่ ผู้โดยสารอย่างน้อย 236 คน และลูกเรือ 747 คนยังอยู่บนเรือ
อย่างไรก็ตาม ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้โดยสารหญิงอเมริกันวัย 83 ปี ที่เดินทางต่อไปมาเลเซีย ได้ถูกทางการสาธารณสุขที่นั่นตรวจพบว่า มีไข้และผลการวินิจฉัยในเวลาต่อมาระบุว่า ติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
เจ้าหน้าที่มาเลเซียยังเผยว่า มีผู้โดยสาร 137 คนจาก 145 คนของเรือเวสตอร์ดัมได้เดินทางโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำไปยังประเทศต่างๆ ตั้งแต่วันอาทิตย์หลังไม่แสดงอาการป่วย
คาร์นิวัล คอร์ป บริษัทเรือสำราญสัญชาติอเมริกัน-เนเธอร์แลนด์ซึ่งเป็นเจ้าของเรือเวสเตอร์ดัม เผยว่า กำลังร่วมมือกับรัฐบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประเทศต่างๆ ติดตามผู้โดยสารของเรือเวสเตอร์ดัม โดยยืนยันว่า นอกจากหญิงอเมริกันที่พบติดเชื้อที่มาเลเซียแล้ว ยังไม่มีผู้โดยสารและลูกเรือคนใดมีอาการป่วย
อย่างไรก็ดี กรณีนี้ทำให้เกิดคำถามว่า บริษัทและประเทศต่างๆ ควรดำเนินการติดตามและกักกันผู้ที่อาจสัมผัสไวรัสโควิด-19 อย่างไร เนื่องจากหญิงอเมริกันคนดังกล่าวไม่แสดงอาการหลังผ่านระยะฟักตัว 14 วันไปแล้ว