สธ.ส่งลิสต์รายชื่อผู้โดยสาร-ลูกเรือ "เวสเตอร์ดัม" ที่มาเทียบท่าสีหนุวิลล์ ให้ ตม. ด่านควบคุมโรค เฝ้าระวังคัดกรองเข้มหากเดินทางเข้าไทยทุกด่าน พร้อมคัดกรองทุกสายการบินที่มาจากกรุงพนมเปญแบบอู่ฮั่น แจงประเทศที่มีผู้ป่วยมาก มีการเฝ้าระวังเข้มอยู่แล้ว จะประกาศยกระดับหรือไม่ ก็ไม่แตกต่าง ส่วนสถานการณ์โรคโควิด-19 ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ รักษาหายเพิ่มอีก 1 ราย ส่วนรายอาการปอดบวมรุนแรง หลังใช้เครื่องเอคโมช่วยพยุงการทำงานปอดหัวใจ อาการเริ่มดีขึ้น เร่งทยอยหาจำนวนคนจีนตกค้างในแม่สอด
วันนี้ (14 ก.พ.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคไวรัสโคโรนา19 หรือโรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ ยอดผู้ป่วยสะสมมีทั้งสิ้น 33 ราย โดยรักษาหายเพิ่มอีก 1 ราย เป็น 13 ราย เหลือรักษาใน รพ. 20 ราย ซึ่งอาการผู้ป่วยโดยทั่วไปดีขึ้น ส่วนผู้ป่วยอาการหนัก 2 รายตั้งแต่แรกรับที่สถาบันบำราศนราดูร คือ มีอาการปอดบวมรุนแรง และอีกรายมีโรควัณโรคร่วม โดยในรายที่มีอาการปอดบวมรุนแรง ได้รักษาตามมาตรฐาน แต่ผลการรักษายังไม่ค่อยดีเท่าไร จึงได้รับความร่วมมือจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ผู้เชี่ยวชาญช่วยใส่เครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอดและหัวใจหรือเครื่องเอคโม (ECMO) และใช้เครื่องช่วยหายใจ ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. อาการโดยทั่วไปก็ดีขึ้น การแลกเปลี่ยนออกซิเจนในเลือดก็ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เตรียมเครื่องดังกล่าวที่ รพ.ราชวิถี เพื่อรองรับการดูแลผู้ป่วยที่อาจมีอาการหนักด้วย สำหรับภาพรวมสถานการณ์ในประเทศไทยค่อนข้างดี อัตราการเจ็บป่วยอยู่จากเดิมเป็นอับดับ 4 ก็ลงมาเป็นอันดับ 6 ของโลก
นพ.สุขุม กล่าวว่า สำหรับกรณีเรือเวสเตอร์ดัม ที่เทียบท่าสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ขณะนี้เราได้รับรายชื่อลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด และประสานกับสำนังกานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และด่านควบคุมโรค ทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศในการคัดกรองผู้ที่มีรายชื่อเหล่านี้ และได้ทำเกินกว่านี้ คือ สายการบินอะไรก็ตามที่มาจากกรุงพนมเปญ ถ้ามาสู่ประเทศไทยจะคัดกรองเหมือนกับมาจากอู่ฮั่น หากมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สงสัยก็จะเอาเข้าระบบตามปกติ และที่ชายแดนจะคัดกรอง 100% ส่วนคนไทยที่กลับมาจากอู่ฮั่น โดยอยู่ในช่วงกักโรคที่สัตหีบ วันนี้ถือเป็นวันที่ 10 ของการเฝ้าระวัง มีผู้ป่วยยืนยันแค่รายเดียว ก็อาการดีปกติ ไม่มีไข้ ไอ น้ำมูก ส่วน 137 คนก็สบายดีไม่มีไข้ ไม่มีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเพิ่มเติม
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รายชื่อผู้โดยสารและลูกเรือแล้ว แยกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนไทย ที่เป็นนักท่องเที่ยว 2 ราย และลูกเรือ 19 ราย รวม 21 ราย สถานทูตกัมพูชาและกรมการกงสุล ได้ประสานงานแผนการเดินทางอยู่ ส่วนอีกกลุ่มรายชื่อส่งให้ ตม.และด่านควบคุมโรคแล้ว ไม่ว่าจะมาด่านบก อากาศ หรือเรือ ก็จะคัดกรอง แต่ย้ำว่าไม่ใช่การตีตราหรือเลือกปฏิบัติ เราเข้มเพราะอาจมีความเสี่ยงเพิ่มเติม
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก สธ. กล่าวว่า สำหรับกรณีคนจีนที่ไม่สามารถข้ามผ่านแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ไปยังด่านโก๊กโก่ ซึ่งเป็นจุดข้ามไปฝั่งพม่า โดยเป็นพื้นที่ที่จีนได้ก่อสร้างและทำเป็นนิคมเป็นเมืองขึ้นมา เพื่อให้คนจีนไปพักอาศัย โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะมีคนอยู่ในนั้นประมาณ 2-3 หมื่นคน เรื่องนี้สืบเนื่องจากช่วงตรุษจีน ที่ให้คนจีนข้ามผ่านแดนมา แต่ไม่สามารถกลับไปได้ เพราะบริษัทเกรงกลัวเรื่องโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโคโรนา19 โดยให้ขอใบรังรองแพทย์จากฝั่งไทยและต้องครบ 14 วัน ก่อนผ่านแดน จึงกลายเป็นข่าวขึ้นมา ซึ่งจากการสอบถามนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ตาก พบว่า มีคนที่ข้ามผ่านแดนตั้งแต่ช่วงหลังตรุษจีนประมาณ 6 พันกว่าคน ส่วนด่านธรรมชาติคือด่านโก๊กโก่ผ่าประมาณหลักร้อย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดตากได้สั่งการปิดด่านพรมแดนธรรมชาติตรงนี้แล้ว และให้ผ่านจุดผ่านแดนตามสนามบินหรือทางบกทั้งหลาย ซึ่งมีเครื่องเทอร์โมสแกนซึ่งได้ดำเนินการคุมเข้มมาตั้งแต่ตรุษจีน แต่กำลังจะหาข้อมูลคนจีนใน อ.แม่สอด ที่ยังไม่สามารถกลับไปได้เท่าไร เท่าที่ทราบก็ยังมีการพักค้างในโรงแรม ไม่ได้มีภาวะอะไรน่าตกใจ ส่วนเคสที่มีเข้าข่ายเฝ้าระวังสอบสวนโรค ขณะนี้มีเพียง 2 รายและผลแล็บก็ออกมาเป็นลบ
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัย มีมาตรฐานในการป้องกันฝุ่นขนาด 3 ไมครอน และจับอนุภาพละอองฝอย น้ำมูก น้ำลาย จากการไอจามได้มากกว่า 95% ขนาดของละอองฝอยการติดเชื้อจากไวรัสโคโรนา19 มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอน การใช้หน้ากากอนามัยเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้หน้ากาก N95 ส่วนหน้ากากผ้ามีคุณสมบัติในการกรองฝุ่นละอองขนาดใหญ่และละอองฝอยได้ ซึ่งมีการวิจัยทดสอบของหน้ากากผ้า ซึ่งเป็นการเย็บประกับ 2 ชั้น พบว่า หน้ากากผ้าสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก 1 ไมครอนได้ 60% แต่ละอองฝอยที่ออกมาจากผู้ป่วยมีขนาด 5 ไมครอน ดังนั้น กลุ่มปกติ แข็งแรงดี หากต้องเข้าพื้นที่เสี่ยง แออัด และไม่แน่ใจว่าระยะรอบตัว 1 เมตรมีใครมีภาวะเจ็บป่วยหรือไม่ สามารถใช้หน้ากากผ้าป้องกันตัวเองได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการล้างมือบ่อยๆ
เมื่อถามถึงกรณีอาจต้องมีการยกระดับคัดกรองผู้เดินทางมาจากสิงคโปร์และฮ่องกง นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ตัวมาตรการเราสามารถดำเนินการได้เองอย่างเข้มข้น เพียงแต่ว่าจะประกาศหรือไม่ประกาศก็อีกเรื่อง โดยประเทศที่มีความเสี่ยงหรือผู้ป่วยมากๆ ภาพโดยรวมถ้าเข้ามาก็คัดกรองที่เกต ถ้าหลุดออกมาก็จะคัดกรองก่อนเข้า ตม. และอีกชั้นคือที่จุด ตม. และแจ้งผู้ประกอบการท่องเที่ยว สถานที่พัก เฝ้าระวังกลุ่มคนเหล่านี้พิเศษ ทั้งนี้ ต่อให้ประกาศยกระดับ แต่มาตรการที่ปฏิบัติก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง