บอร์ดร.ฟ.ท. อนุมัติซื้อรถใหม่ดีเซลไฟฟ้า 184 คัน กว่า 1.5 หมื่นล้าน เตรียมชง สศช. และครม.เคาะเปิดประมูล นำร่องการปรับโฉมรถไฟเป็นระบบไฟฟ้า ช่วยแก้ปัญหา PM2.5 ด้าน"วรวุฒิ" เผย บอร์ดติงรูปแบบ พื้นที่สถานีกลางบางซื่อ สงสัยทำไมไม่พัฒนาดอนเมือง รังสิต พร้อมกัน
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)ร.ฟ.ท. เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบโครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ จำนวน 184 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงินกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ร.ฟ.ท.จะสรุปเรื่องนำเสนอ กระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาและนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติโครงการ และเปิดประกวดราคาต่อไป
ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.ได้มีการปรับปรุงรายละเอียด ด้านเทคนิก จากเดิมที่เป็นรถไฟดีเซล เป็นระบบรถไฟดีเซลรางไฟฟ้า(DEMU)เพื่อรองรับการเปิดสถานีกลางบางซื่อ และรองรับแผนการเดินรถเป็นระบบไฟฟ้าในรัศมีเส้นทาง 250 กม. รอบกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งจะเป็นแนวทางในการใช้พลังงาน ที่จะช่วยลดปัญหา PM 2.5ได้อีกด้วย โดยตั้งเป้าว่า ร.ฟ.ท. จะเริ่มให้บริการระบบไฟฟ้าได้ในปี 65- 66
สำหรับ โครงการจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า (บทต.) จำนวน 965 คัน วงเงินกว่า 2.3 พันล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ บอร์ดเห็นว่าข้อมูลยังไม่ชัดเจน เพียงพอที่จะพิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะปรับปรุงรายละเอียด และนำเสนอบอร์ดได้ในการประชุมเดือนก.พ.นี้ ซึ่งการจัดหารถบรรทุกตู้สินค้านั้น เป็นแผนการเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้า รองรับการดำเนินงานในอนาคต ซึ่งการก่อสร้างรถไฟทางคู่จะเสร็จ
นายวรวุฒิ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อว่า ได้มีการนำเสนอผลการศึกษารูปแบบการบริหารจัดการและแนวทางการพัฒนาเพื่อขออนุมัติในการเปิดประมูล ต่อที่ประชุมบอร์ด เมื่อเดือนม.ค. แต่เนื่องจากบอร์ดยังมีข้อสงสัย เช่น กรณีการพัฒนาที่สถานีบางซื่อไม่พร้อมกับสถานีดอนเมือง และสถานีรังสิต และมีรูปแบบอื่นๆในการพัฒนาบริหารหรือไม่ นอกเหนือจากรูปแบบจ้างบริหารตามสัญญา (Management Contract) ซึ่งร.ฟ.ท. จะเร่งสรุปเสนอบอร์ดในเดือนก.พ.นี้ เพื่อให้ทันกับการเปิดใช้สถานีกลางบางซื่อ ในเดือนม.ค. 64 โดยเบื้องต้น ร.ฟ.ท.ได้ร่างทีโออาร์การบริหารพื้นที่ภายในสถานีกลางบางซื่อเสร็จแล้ว โดยมีส่วนของการบริหารจัดการพื้นที่ เช่น ด้านความสะอาด การรักษาความปลอดภัย มีพื้นที่เชิงพาณิชย์ และพื้นที่โฆษณา ด้วย
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)ร.ฟ.ท. เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบโครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ จำนวน 184 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงินกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ร.ฟ.ท.จะสรุปเรื่องนำเสนอ กระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาและนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติโครงการ และเปิดประกวดราคาต่อไป
ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.ได้มีการปรับปรุงรายละเอียด ด้านเทคนิก จากเดิมที่เป็นรถไฟดีเซล เป็นระบบรถไฟดีเซลรางไฟฟ้า(DEMU)เพื่อรองรับการเปิดสถานีกลางบางซื่อ และรองรับแผนการเดินรถเป็นระบบไฟฟ้าในรัศมีเส้นทาง 250 กม. รอบกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งจะเป็นแนวทางในการใช้พลังงาน ที่จะช่วยลดปัญหา PM 2.5ได้อีกด้วย โดยตั้งเป้าว่า ร.ฟ.ท. จะเริ่มให้บริการระบบไฟฟ้าได้ในปี 65- 66
สำหรับ โครงการจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า (บทต.) จำนวน 965 คัน วงเงินกว่า 2.3 พันล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ บอร์ดเห็นว่าข้อมูลยังไม่ชัดเจน เพียงพอที่จะพิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะปรับปรุงรายละเอียด และนำเสนอบอร์ดได้ในการประชุมเดือนก.พ.นี้ ซึ่งการจัดหารถบรรทุกตู้สินค้านั้น เป็นแผนการเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้า รองรับการดำเนินงานในอนาคต ซึ่งการก่อสร้างรถไฟทางคู่จะเสร็จ
นายวรวุฒิ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อว่า ได้มีการนำเสนอผลการศึกษารูปแบบการบริหารจัดการและแนวทางการพัฒนาเพื่อขออนุมัติในการเปิดประมูล ต่อที่ประชุมบอร์ด เมื่อเดือนม.ค. แต่เนื่องจากบอร์ดยังมีข้อสงสัย เช่น กรณีการพัฒนาที่สถานีบางซื่อไม่พร้อมกับสถานีดอนเมือง และสถานีรังสิต และมีรูปแบบอื่นๆในการพัฒนาบริหารหรือไม่ นอกเหนือจากรูปแบบจ้างบริหารตามสัญญา (Management Contract) ซึ่งร.ฟ.ท. จะเร่งสรุปเสนอบอร์ดในเดือนก.พ.นี้ เพื่อให้ทันกับการเปิดใช้สถานีกลางบางซื่อ ในเดือนม.ค. 64 โดยเบื้องต้น ร.ฟ.ท.ได้ร่างทีโออาร์การบริหารพื้นที่ภายในสถานีกลางบางซื่อเสร็จแล้ว โดยมีส่วนของการบริหารจัดการพื้นที่ เช่น ด้านความสะอาด การรักษาความปลอดภัย มีพื้นที่เชิงพาณิชย์ และพื้นที่โฆษณา ด้วย