ผู้จัดการรายวัน360-“ศักดิ์สยาม”เตรียมชง ครม. จัดประชุมทางไกล “รถไฟไทย-จีน” เพื่อตกลงสัญญา 2.3 ซื้อระบบไฮสปีด หลังจีนเผชิญไวรัสโคโรนา เผยนายกฯ เปิดทางใช้งบกลาง 90 ล้าน เร่งออกแบบรถไฟ ”ชุมพร-ระนอง” เชื่อมอันดามัน-อีอีซี และพร้อมปรับแนวรถไฟแลนด์บริดจ์ ”สงขลา-สตูล” ลดผลกระทบประชาชน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.35 กม. วงเงินลงทุนรวม 179,412.21 ล้านบาท ภายใต้ความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานกับฝ่ายจีนในการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (Joint Committee หรือ JC) ครั้งที่ 28 แต่เนื่องจากจีนประสบปัญหาโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แพร่ระบาด และคาดว่าจะอยู่ในสถานการณ์นี้ไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาในการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ (Video conference) แทนการเดินทางมาประชุมร่วมที่ไทยตามกำหนดเดิม ซึ่งรอทางจีนพิจารณาระเบียบของจีนว่าสามารถทำได้หรือไม่
"หากจีนตอบตกลง กระทรวงคมนาคมจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอจัดประชุมทางไกลรถไฟไทย-จีน ซึ่งไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากมีการเจรจาข้อตกลงรายละเอียดร่างสัญญา 2.3 (การวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ) วงเงิน 50,633.50 ล้านบาทไว้แล้ว ส่วนการลงนามในสัญญา 2.3 นั้น สามารถส่งเอกสารผ่านทางสถานฑูตได้ เพื่อไม่ให้โครงการล่าช้าไปจากแผนมากนัก"
นายศักดิ์สยามกล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งทบทวนการศึกษาโครงการพัฒนาแนวรถไฟสายใหม่ จากชุมพร-ระนอง เพื่อเชื่อมฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ไปยังพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะมีการพัฒนาท่าเรือระนองด้วย โดยได้เตรียมเสนอของงบกลางปี 2563 ประมาณ 90 ล้านบาท ทำการศึกษาออกแบบรายละเอียดและทำรายงาน EIA คาดว่าจะศึกษาประมาณ 1 ปี
ส่วนโครงการรถไฟเชื่อมแลนด์บริดจ์ “สงขลา-สตูล” ซึ่งกรมรางจะร่วมวางแผนงาน โดยอาจจะมีการขยับแนวไปอยู่ในพื้นที่ที่ประชาชนให้ความร่วมมือมากกว่าจุดเดิมที่ประชาชาอาจจะเห็นว่าสร้างแล้วจะเกิดปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือกระทบต่อการท่องเที่ยว เพื่อผลักดันโครงการภายใต้ความโปร่งใสและเปิดเผยข้อมูล โดยยืนยันว่าไม่มีปัญหา หากต้องสร้างทางรถไฟเพิ่มอีก 10 กิโลเมตร (กม.)
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.35 กม. วงเงินลงทุนรวม 179,412.21 ล้านบาท ภายใต้ความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานกับฝ่ายจีนในการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (Joint Committee หรือ JC) ครั้งที่ 28 แต่เนื่องจากจีนประสบปัญหาโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แพร่ระบาด และคาดว่าจะอยู่ในสถานการณ์นี้ไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาในการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ (Video conference) แทนการเดินทางมาประชุมร่วมที่ไทยตามกำหนดเดิม ซึ่งรอทางจีนพิจารณาระเบียบของจีนว่าสามารถทำได้หรือไม่
"หากจีนตอบตกลง กระทรวงคมนาคมจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอจัดประชุมทางไกลรถไฟไทย-จีน ซึ่งไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากมีการเจรจาข้อตกลงรายละเอียดร่างสัญญา 2.3 (การวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ) วงเงิน 50,633.50 ล้านบาทไว้แล้ว ส่วนการลงนามในสัญญา 2.3 นั้น สามารถส่งเอกสารผ่านทางสถานฑูตได้ เพื่อไม่ให้โครงการล่าช้าไปจากแผนมากนัก"
นายศักดิ์สยามกล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งทบทวนการศึกษาโครงการพัฒนาแนวรถไฟสายใหม่ จากชุมพร-ระนอง เพื่อเชื่อมฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ไปยังพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะมีการพัฒนาท่าเรือระนองด้วย โดยได้เตรียมเสนอของงบกลางปี 2563 ประมาณ 90 ล้านบาท ทำการศึกษาออกแบบรายละเอียดและทำรายงาน EIA คาดว่าจะศึกษาประมาณ 1 ปี
ส่วนโครงการรถไฟเชื่อมแลนด์บริดจ์ “สงขลา-สตูล” ซึ่งกรมรางจะร่วมวางแผนงาน โดยอาจจะมีการขยับแนวไปอยู่ในพื้นที่ที่ประชาชนให้ความร่วมมือมากกว่าจุดเดิมที่ประชาชาอาจจะเห็นว่าสร้างแล้วจะเกิดปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือกระทบต่อการท่องเที่ยว เพื่อผลักดันโครงการภายใต้ความโปร่งใสและเปิดเผยข้อมูล โดยยืนยันว่าไม่มีปัญหา หากต้องสร้างทางรถไฟเพิ่มอีก 10 กิโลเมตร (กม.)
