ริเป็นพลเมืองดี...มีสิทธิถูกรุมยำ

คืนวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ย่านซอยอ่อนนุช 44 ในท้องที่ สน.พระโขนง เกิดคดีอาชญากรรมเล็กๆ โดย 3 อันธพาลวัยรุ่นรุมสกรัมชายอายุประมาณ 40 ปี ระหว่างไลฟ์สด รายงานการตั้งด่านตรวจของตำรวจที่อาจไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

ภาพเหตุการณ์ที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อทีวี จะเห็นนายวราภรณ์ แซ่ล้อ สมาชิกเพจเฟซบุ๊ก “นักรบด่านเถื่อน” ซึ่งเบ้าตาเขียวช้ำ เล่าให้ฟังถึงการรายงานสดผ่านโทรศัพท์มือถือเกี่ยวกับการตั้งด่านตรวจของตำรวจที่อาจไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบ โดยตั้งกล้องไลฟ์สดอยู่ใกล้ด่าน

แต่ไม่นานมีวัยรุ่น 3 คนขับรถมอเตอร์ไซค์มาวนเวียนก่อนจะบุกถึงตัว รุมทำร้ายและทำลายกล้อง โดยกล้องที่ไลฟ์สดสามารถจับภาพคนร้ายระหว่างรุมยำนายวราภรณ์ได้ ก่อนกล้องจะถูกคนร้ายแก๊งนี้ทำลาย

เหตุการณ์รุมสกรัมน่าจะเกิดขึ้นภายใต้สายตาของตำรวจที่ตั้งด่าน เพราะจุดที่นายวราภรณ์ตั้งกล้องไลฟ์สด ห่างจากด่านตำรวจไม่กี่สิบเมตร

เบ้าตาที่เขียวช้ำจากการถูกแก๊งวัยรุ่นอันธพาลทำร้ายนายวราภรณ์ ดูแล้วน่าขบขัน แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลก และคดีนี้ไม่ใช่คดีอาชญากรรมเล็กๆ ทั่วไป แต่เป็นคดีการทำร้ายพลเมืองดี ซึ่งกำลังทำหน้าที่สอดส่องพฤติกรรมตำรวจที่อาจอาศัยเครื่องแบบและอาจใช้อำนาจหน้าที่ตั้งด่านเถื่อนรีดไถประชาชน

พฤติกรรมของแก๊งอันธพาลวัยรุ่นที่รุมทำร้ายนายวราภรณ์ แม้จะไม่โหดเหี้ยมเหมือนโจรปล้นทองที่จังหวัดลพบุรี และสังหารผู้บริสุทธิ์ 3 ศพ แต่เป็นคดีอุกอาจ เพราะทำร้ายพลเมืองดีหน้าด่านตำรวจโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่สะทกสะท้านว่า ปฏิบัติการเถื่อนเย้ยกฎหมายจะถูกบันทึกภาพได้

เพียงแต่คดีนายวราภรณ์ ไม่ใช่คดีดังที่คนทั้งประเทศให้ความสนใจเท่านั้น จึงไม่มีกระแสกดดันจากสังคมให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้าย แต่ถ้าเป็นคดีดังภายใน 24 ชั่วโมงคงจับแก๊งวัยรุ่นอันธพาลกลุ่มนี้ได้ เพราะน่าจะเป็นคนในพื้นที่

และดีไม่ดีตำรวจที่ตั้งด่านอาจรู้จักวัยรุ่นกลุ่มนี้ด้วยซ้ำ

การรายงานสด การตั้งด่านตรวจของตำรวจที่อาจไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้ก่อความเดือดร้อนให้ใคร ไม่ได้ส่งผลกระทบกับประชาชนกลุ่มใด นอกจากกลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์ หรือกลุ่มคนที่ถูกเปิดโปงพฤติกรรมเท่านั้น

ตำรวจที่ตั้งด่านอยู่ปากซอยอ่อนนุช 44 จึงตกเป็นจำเลยของสังคม

เพราะอันธพาลวัยรุ่น 3 คนที่รุมทำร้าย ไม่น่าจะมีสาเหตุโกรธเคืองอันใดกับนายวราภรณ์ แต่อาจได้รับใบสั่งจากกลุ่มที่ถูกนายวราภรณ์เปิดโปงพฤติกรรม

คดีนี้คงปิดฉากโดยไม่สามารถลากตัวแก๊งอันธพาลวัยรุ่น 3 คนมาลงโทษได้ และนายวราภรณ์ ซึ่งพยายามทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี ตรวจสอบพฤติกรรมตำรวจคงต้องเจ็บตัวฟรี

หน่วยงานรัฐพยายามรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา พบพฤติกรรมที่น่าสงสัยจะเป็นภัยต่อสังคม พบเบาะแสการกระทำความผิด การทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ ขอให้แจ้งข้อมูลมายังหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยบางหน่วยงานตั้งตู้ปณ. แม้กระทั่งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์และร้องเรียนจากประชาชน

รัฐบาลทหาร คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ตั้งศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนทั่วประเทศ

ประชาชนทุกคนอยากทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี เป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสการกระทำผิดให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อปราบปรามการกระทำความผิด กำจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ

เพราะต้องการให้บ้านเมืองสงบ โปร่งใส ไร้การทุจริต ไม่มีการประพฤติมิชอบ ไม่มีตำรวจรับส่วย รีดไถ หรือตั้งด่านเถื่อนอาศัยเครื่องแบบทำมาหากิน

แต่การรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี กลายเป็นเพียงการสร้างภาพของรัฐบาลหรือหน่วยงานต่างๆ เท่านั้น เพราะไม่มีการปฏิบัติจริง

ข้อร้องเรียนของประชาชน การแจ้งเบาะแสการทุจริต การกระทำผิดหรือการประพฤติมิชอบในวงราชการ มักไม่ได้รับการตอบสนอง

ศูนย์ดำรงธรรมของ คสช.ตั้งมา 5 ปี แต่แก้ทุกข์ร้อนของประชาชนที่ร้องเรียนได้น้อยมาก

ถ้ารัฐบาลหรือหน่วยงานต่างๆ แก้ไขการกระทำผิดหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ ตามเบาะแสที่ประชาชนแจ้งมาอย่างจริงจัง สถานบันเทิงคงไม่สามารถเปิดเกินเวลาอย่างโจ๋งครึ่มได้ บ่อนผิดกฎหมายจะเปิดไม่ได้ และจะไม่มีตำรวจตั้งด่านเถื่อนรีดไถชาวบ้าน

นายวราภรณ์ที่ถูกใบสั่ง รุมสกรัมใกล้ด่านตรวจของตำรวจย่านซอยอ่อนนุช 44 ทำหน้าที่เกินกว่าพลเมืองดีด้วยซ้ำ ลงทุนตั้งกล้องไลฟ์สด ตีแผ่พฤติกรรมตำรวจ สน.พระโขนงที่อาจตั้งด่านโดยมิชอบ

แต่รางวัลที่พลเมืองดีรายนี้ได้รับคือ การถูกรุมสกรัมบาทาจากแก๊งอันธพาลวัยรุ่น

สังคมเสื่อมหนักลงทุกที เพราะพลเมืองดีที่พยายามเปิดโปงพฤติกรรมข้าราชการที่อาจประพฤติมิชอบ กลับถูกแก๊งอันธพาลวัยรุ่นรุมทำร้าย และแทบไม่มีใครใส่ใจกับคดีพลเมืองดีถูกคุกคาม

ใครอยากเป็นพลเมืองดีอีกล่ะ เพราะเป็นพลเมืองดีแล้วเจ็บตัวฟรี และต้องทำใจว่า ยุคระบอบพล.อ.ประยุทธ์ครองอำนาจ กลุ่มอันธพาลทั้งในและนอกเครื่องแบบกำลังครองเมือง

คนดีอย่าหวังว่าจะได้รับการเหลียวแล