MGR Online - รอง ผบช.น. ระบุ นครบาลเข้มตั้งด่านกวดขันจราจร - แอลกอฮอลช่วงสงกรานต์ 11 - 18 เม.ย. พบคนขี่คนซ้อนไม่สวมหมวกโดนจับแน่ วอนปชช. โปรดเข้าใจหากพบ จนท. เพียง 1 - 2 นาย ไม่ใช่ด่านลอย เป็นเพียงการจับความผิดซึ่งหน้า อนุโลมให้เอาถังน้ำขึ้นไปไว้บนรถกระบะแต่ห้ามเล่นขณะรถวิ่ง เพื่อความปลอดภัย
วันนี้ (5 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. เปิดเผยมาตรการการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ทาง บช.น. ได้มีการจัดเตรียมความพร้อมกำลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทั้ง 88 สถานีตำรวจ มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร ทั้งถนนสายหลักและถนนสายรองพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยในวันที่ 10 - 12 เม.ย. เป็นวันที่จะเน้นอำนวยความสะดวกขาออกจากกรุงเทพมหานคร โดยจะจัดกำลังหลักไว้บริเวณสถานีขนส่งทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งสายใต้ สถานีขนส่งเอกมัย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำไว้ทุกด้านจนประชาชนเดินทางกลับมายังกรุงเทพมหานคร รวมถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงและถนนวิภาวดีรังสิตหน้าสนามบินดอนเมือง เนื่องจากที่ผ่านมา มีประชาชนไปใช้บริการจุดเหล่านี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่สนามบินดอนเมืองทำให้ถนนวิภาวดีรังสิตขาออกจากกรุงเทพมหานครได้รับผลกระทบชะลอตัว จึงได้ประสานงานกับการท่าอากาศยานดอนเมืองจะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปอำนวยความสะดวกบริเวณหน้าอาคารผู้โดยสารทั้งหมด รวมถึงถนนเส้นต่างๆ บริเวณโดยรอบ เพื่อไม่ให้มีรถตัดกระแสทำให้การจราจรติดขัดได้
พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวต่อว่า มาตรการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์และจุดตรวจวัดสารเสพติด เป้าหมายที่เราคุยกับทางกรมการขนส่งทางบก และ บขส. จะทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดจากผู้ขับขี่รถสาธารณะ โดยเฉพาะรถ บขส. รถทัวร์ วิ่งระหว่างจังหวัด ให้ครบตามเป้าหมาย คือ 10,000 ราย โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา และเพิ่มความเข้มข้นสุ่มตรวจในวันเดินทางเพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจว่าผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะระหว่างจังหวัดปลอดสารเสพติด เมื่อตรวจเสร็จแล้วจะมีการตรวจวัดความเมาระหว่างก่อนออกจากท่ารถ ทาง บช.น. บช.ปส. ปปส.กทม. มีการบูรณาการทำงานรวมกันอยู่บริเวณสถานีขนส่งทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร
เมื่อถามว่า ข้อบังคับพนักงานจราจรสงกรานต์นั้น พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ลักษณะใช้มาตรการใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยจะมีการออกข้อบังคับรถบรรทุกน้ำเข้าเป็นบางจุด โดยเฉพาะจุดใหญ่ๆ ที่มีการเล่นสงกรานต์เป็นจำนวนมากลักษณะเดินบนถนนที่มีการปิดการจราจร อาทิเช่น ถนนสีลม ถนนอาร์ซีเอ รถน้ำบางส่วนที่มีการเอาถังน้ำไปไว้บนรถกระบะแล้ววิ่งไปตามถนน ขอความร่วมมือว่าอย่านั่งบริเวณขอบกระบะและเล่นน้ำระหว่างทางวิ่ง ขอให้ถึงจุดหมายปลายทางก่อนแล้วค่อยเล่นน้ำ ค่อยขึ้นไปอยู่บนกระบะ เนื่องจากบนรถกระบะไม่มีที่ยึดเกาะ อาจจะทำให้ลื่นเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ปีที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บมาค่อนข้างเยอะ จึงเป็นมาตรการเสริมไม่ให้พี่น้องประชาชนได้รับอันตรายจากการเล่นสงกรานต์ในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการว่ากล่าวตักเตือนก่อนเป็นหลัก เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ทุกพื้นที่
เมื่อถามอีกว่า เน้นจับกุมข้อหาข้อหาอะไรบ้าง พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า เป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สั่งการลงมาว่า ข้อหาที่จะทำให้ก่อเกิดอุบัติเหตุต้องเน้นบังคับใช้กฎหมาย โดยได้มีการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางบช.น. ได้ออกเป็นแผนในการปฏิบัติ 2 ห้วงเวลา ห้วงแรกตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.- 10 เม.ย. จะกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกโรงพักออกกวดขันวินัยจราจรโดยเน้นไปที่รถจยย.ต้องสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งผู้ขับขี่ผู้ซ้อน หากพบการกระทำผิดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการจับกุมได้ทันที
“เรียนพี่น้องประชาชนให้ทราบด้วยว่า อย่ากล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตั้งด่านลอย หรือด่านเถื่อน อยู่ 1 - 2 คน มาดักจับนั้น กรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นการดักจับแต่เป็นการจับกุมการกระทำผิดซึ่งหน้าตามกฎหมาย พ.ร.บ. จราจรฯ และตาม ป.วิอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายตรวจจับการกระทำความผิดซึ่งหน้าและความผิดที่เห็นชัดแจ้ง ขับรถจยย.มาถึงทางร่วมทางแยกไม่สวมหมวกนิรภัยเราก็ต้องดำเนินการและหลังจากวันที่ 11 - 18 เม.ย. เราจะมีการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร 5 ข้อหาหลัก ได้แก่ 1. ขับรถเร็วเกินกำหนด 2. ขับรถขณะเมาสุรา 3. ไม่สวมหมวกกันน็อก 4. ขับรถไม่มีใบอนุญาต 5. ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ตั้งด่านเต็มรูปแบบ และมีการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความปลอดภัยในการเดินทางและอุบัติเหตุรถน้อยลง เป้าหมายในปีนี้อุบัติเหตุต้องลดลง คนเจ็บในปีนี้น้อย ผู้เสียชีวิตต้องลดลง ไม่ได้มีเป้าหมายให้มีผลการปฏิบัติมากขึ้นกว่าเดิมแต่อย่างใด” พล.ต.จิรพัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ทาง บช.น. ได้กำหนดให้มีการจัดตั้งจุดบริการประชาชน ตั้งแต่วันที่ 4 - 13 เมษายน 2561 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง และให้บริการ ตรวจสภาพรถแก่ประชาชนในถนนสายหลักที่ออกนอกเมือง อย่างน้อยกองบังคับการละ 1 จุด โดยมีจุดบริการหลักดังนี้ แยกมารยาทดี ถนนเพชรอุทัย (สน.มักกะสัน) สถานีขนส่งกรุงเทพฯ จตุจักร (สน.บางซื่อ) แยกมหานคร ถนนสุวินทวงศ์ (สน.ลำผักชี) หน้าห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ ขาออก (สน.ประเวศ) ถนนบางนา - ตราด กม. 4.5 (สน.บางนา) แยกปทุมวัน ถนนพญาไท (สน.ปทุมวัน) สถานีขนส่งกรุงเทพฯ สายใต้ใหม่ (สน.ตลิ่งชัน) หน้าตลาดโอ๋เอ๋ จุดตรวจโพธิ์ทอง ถนนพระราม 2 ขาออก (สน.บางมด) ถนนพระราม 2 ขาออก กม. 11 (สน.แสมดำ)
