จับกุมกลุ่มเด็กแว้นออกรวมตัวกันสร้างความเดือดร้อนรำคาญบนท้องถนนในพื้นที่ บก.น.9 คุมตัวผู้ต้องหา 91 คน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พร้อมยึด จยย. 90 คัน เตือนผู้ปกครองปล่อยปละอาจติดคุกเพราะลูกหลานของตัวเอง
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 31 มี.ค. ที่ สน.ท่าข้าม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. สนธิกำลังตำรวจ บช.ปส., บช.ทท., บก.น.9, บก.สปพ., บก.จร. และทหารสังกัด พล.ร.9 ดำเนินการกวดขันจับกุมกลุ่มเด็กแว้นซึ่งออกรวมตัวกันสร้างความเดือดร้อนรำคาญบนท้องถนนในพื้นที่ บก.น.9 อาทิ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนพระราม 2 ถนนเพชรเกษม และ ถนนเอกชัย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 91 คน เป็นชาย 84 คน หญิง 7 คน จำนวนนี้เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ถึง 45 คน ยึด รถ จยย. ทั้งสิ้น 90 คัน คุมตัวผู้ต้องหาพร้อมยานพาหนะของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในท้องที่ที่ถูกจับกุม
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การกวดขันจับกุมในวันนี้ เป็นไปตามนโยบายกวาดล้างอาชญากรรม ยาเสพติด และกลุ่มเด็กแว้น ก่อนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ซึ่งในช่วงนี้ถือเป็นช่วงปิดภาคการศึกษา ดังนั้น ตำรวจจึงต้องเข้มงวดในมาตรการคุ้มครองเยาวชนตามคำสั่ง คสช. มากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนตกเป็นเหยื่อ หรือออกจากบ้านพักมามั่วสุมก่อเหตุจนตกเป็นผู้ต้องหาเสียเอง โดยการจับกุมในวันนี้จะมีการแจ้งข้อหาแก่ผู้ขับขี่และซ้อนท้าย รถ จยย. ที่ทำผิดกฎหมายและถูกจับกุมได้ทั้ง 91 คน แบ่งเป็นขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย จำนวน 8 คน ทำผิด พ.ร.บ. จราจรขนส่งทางบก อาทิ อุปกรณ์ไม่ครบและดัดแปลงสภาพรถ รวม 81 คน มีผู้ต้องหาชาย 2 คน ผลตรวจปัสสาวะออกมาเป็นสีม่วงจากการเสพยาบ้าก็ต้องถูกจับส่งบำบัดด้วยเช่นกัน
“นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามเด็กแว้น ยังร่วมกันจับกุมร้านค้าท่อรถไอเสีย จยย. ดัดแปลงสภาพซึ่งอยู่ในท้องที่ สน.เพชรเกษม รวมถึงจับกุม นายฐิตินันต์ มาเพชร อายุ 21 ปี เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “วานซิ่ง บางซื่อ” และ นายพิเชฐ นาคศรีโภชน์ อายุ 21 ปี เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “รถซิ่ง แยกเจโม” ซึ่งเปิดเพจนัดหมายกลุ่มเด็กแว้นออกมารวมตัวกันบนถนนย่านกำแพงเพชร บางซื่อ และถนนสุขาภิบาล 2 มาดำเนินคดีได้อีกด้วย โดยทั้ง 2 เพจที่โดนปิดนี้ มีผู้ติดตามรวมกันประมาณ 1,000 คน ทำให้ผู้ต้องหาเจ้าของเพจทั้ง 2 คน ถูกแจ้งข้อหาชักจูง ยุยงส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการกับผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน จำนวน 45 คน เช่นไร พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ตอบว่า เบื้องต้นจะต้องดำเนินคดีตามฐานความผิดที่ถูกจับกุม จากนั้นในวันอังคารที่ 3 เม.ย. นี้ จะเชิญเยาวชนทั้ง 45 คน และผู้ปกครอง ไปเข้ารับการอบรมที่ บก.สปพ. ตามระเบียบ โดยจะเน้นย้ำให้ผู้ปกครองทราบว่า หากท่านปล่อยปละให้บุตรหลานออกมากระทำความผิดซ้ำจนถูกจับกุมได้อีก ท่านจะมีความผิดด้วยในฐานะผู้ยุยงส่งเสริมฯ และอาจติดคุกเพราะลูกหลานของตัวเองได้ด้วยเช่นกัน โดยมาตรการเหล่านี้ที่เราร่วมกันดำเนินการมาทำให้ยอดการร้องทุกข์ผ่านหมายเลข 191 เกี่ยวกับกรณีเด็กแว้นทั่วพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลลดลง จากสัปดาห์ละประมาณ 100 เรื่อง เหลือแค่หลักสิบเรื่องต่อสัปดาห์เท่านั้น