ป้อมพระสุเมรุ
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เรียกว่าไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
จู่ๆ ก็มีกระแสข่าวลือสะพัดว่า อาจมีการเปลี่ยนตัว “ดร.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ “โฆษกรัฐบาล” ในเร็วๆ นี้ ขึ้นมาซะอย่างนั้น
และไม่ใช่แค่กระแสข่าวเท่านั้น ยังมีการหยิบไป “ต่อยอด” เป็นคำถามถึง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่ออังคารที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา เสียด้วย
ไม่ผิดคาดที่ “นายกฯ ตู่” จะตอบแบบไม่ต้องคิดว่า “ยังไม่มีแนวคิดเรื่องนี้”
ที่น่าสนคือ “ท่อนสร้อย” ที่ว่า “...แต่จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขทุกเรื่องทุกประเด็น ทุกวันนี้มีกระแสจากโซเชียลอะไรต่างๆ ผมได้เน้นย้ำเรื่องการสร้างความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้นในรูปแบบของความยั่งยืน...” ต่างหาก
ฟังผิวเผินเหมือนคำปฏิเสธ เซฟขาเก้าอี้ “อาจารย์แหม่ม” ให้มั่นคง แต่ก็ “ตำหนิ” ไปในตัวว่าการทำงานต้องปรับปรุงขนานใหญ่
ขณะที่ตัว “ดร.แหม่ม” เอง ก็ยอมรับว่ารู้เรื่องมาก่อนว่าจะถูกเลื่อยขาเก้าอี้ เพราะมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันภายในพรรคพลังประชารัฐมาแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้มี “ความเข้าใจผิด” กัน
เพิ่มน้ำหนักว่าเรื่องนี้มีที่มา-ที่ไป ที่เกิดมาจากความขุ่นเคืองกันภายในพรรคพลังประชารัฐเอง ก่อนที่จะมี “ไอ้โม่ง” จงใจปล่อยข่าวออกมาทางสาธารณะ เพื่อให้เป็นประเด็น
พลันที่ข่าวออก ผู้ที่ถูกชี้เป้าคนแรก หนีไม่พ้น “กลุ่มสามมิตร” ที่เคยส่ง “ดร.แด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ เข้าประกวดแข่งกับ “ดร.แหม่ม” ในตำแหน่งโฆษกรัฐบาล ก่อนจะต้องผิดหวังไปในคราวนั้น
ทว่าทุกวันนี้ “ดร.แด๊ก” ได้ดิบได้ดี (กว่า) เสียอีก ด้วยมีตำแหน่งในเก้าอี้เลขานุการ รมว.คลัง ประกบ อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ที่เป็นรัฐมนตรีว่าการอยู่ พ่วงด้วยตำแหน่งโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ที่หลายครั้งโชว์ฟอร์มได้ดี จน “นายกฯ ตู่” มักตบไหล่ขอบคุณ ที่ตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามให้ในประเด็นที่ “บิ๊กตู่” ถูกโจมตีเสียหาย
ด้วยบทบาท-ตำแหน่งที่ได้รับในปัจจุบันบอกได้เลย “ดร.แด๊ก” คงไม่คิดมาแย่งชิงเก้าอี้โฆษกรัฐบาลอย่างแน่นอน
ส่วนใครจะเป็น “ไอ้โม่ง” คงต้องไล่เรียงจากเส้นทางของ “โฆษกแหม่ม” ดู
ย้อนกลับไปช่วงเข้าพรรคพลังประชารัฐ “ดร.แหม่ม” ที่ถือว่าเป็นมือทำงานที่มาจากสาย “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ช่วยงานมาตั้งแต่สมัย “รัฐบาล คสช.” บทบาทในพรรคก็ถือว่าได้รับความไว้วางใจค่อนข้างสูง ทั้งในเรื่องการทำนโยบาย อีกทั้งช่วงเลือกตั้งที่เป็นถึงผู้สมัครบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 5 ที่เรียกว่าอยู่ในตำแหน่งปลอดภัย ตัดชุดรอได้เลย ไม่ต้องรอลุ้นเหมือนคนอื่น
ภายหลังจากที่ “อาจารย์แหม่ม” ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ แล้ว ทางรัฐบาลประสบปัญหาไม่สามารถหาผู้ที่เหมาะสมเป็นโฆษกรัฐบาลได้ “ผู้ใหญ่” จึงถูกส่งชื่อเข้าประกวด โดยยอมที่จะลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อทันที หลังเป็นผู้แทนราษฎรได้ไม่นาน
ด้วยคุณสมบัติระดับ “ศาสตราจารย์” ที่ได้รับการยกย่องเรื่องการทำงานสมัยช่วยงาน “เฮียกวง” ทำให้ถูกคาดหวังค่อนข้างสูงหลังรับตำแหน่ง
แต่ก็เหมือนได้อย่าง-เสียอย่าง ด้วยความเป็น “นักวิชาการจ๋า” และไม่ใช่ “นักการเมืองอาชีพ” เน้นในเรื่องการสื่อสารนโยบายและผลงานของรัฐบาลเป็นหลัก ส่งผลให้บทบาท “องครักษ์พิทักษ์นายกฯ” ซึ่งควรจะเป็นอีกภารกิจของโฆษกรัฐบาล ขาดหายไปอย่างสิ้นเชิง
มีเพียง “ดร.แด๊ก” ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ หรือกระทั่ง “แรมโบ้อีสาน” สุภรณ์ อัตถาวงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ออกมาตอบโต้
ทั้งนี้ “นฤมล” ก็ชี้แจงว่า เหตุที่ไม่ตอบโต้ประเด็นการเมือง ก็เป็นไปตามนโยบายนายกฯ ที่ไม่ได้ต้องการให้ตอบโจมตีในประเด็นที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้ง ให้เน้นเฉพาะเรื่องนโยบายในการทำงานต่างๆของรัฐบาลมากกว่า
อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่างานสื่อสารนโยบายและผลงานของรัฐบาล ก็ยัง “ไม่น่าพอใจ” ด้วยคิดกับดักความเป็น “นักวิชาการ” ติดกรอบ “ข้าราชการ” จนทำให้การสื่อสารขัดข้อง อธิบายความเข้าใจยาก กลายเป็นเป้าถูกรุมถล่มจาก “สังคมออนไลน์” บ่อยครั้ง
ซ้ำร้ายรูปแบบการทำงานก็เป็นแบบ “วันแมนโชว์-ข้ามาคนเดียว” จนขัดแข้งขัดขากับ “ทีมนางฟ้า” รองโฆษกรัฐบาลที่ล้วนแล้วแต่เป็นสาวๆ ประกอบด้วย “ดร.กานต์” รัชดา ธนาดิเรก จากค่ายประชาธิปัตย์ และ “สาวกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล จากค่ายภูมิใจไทย
หลายอีเว้นท์ใหญ่ ทั้งของรัฐบาลยามติดตามคณะของ “บิ๊กตู่” หรืองานของพรรคพลังประชารัฐ ในเวลาที่ผู้ใหญ่ เช่น “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์ เดินทางเข้าพรรค “ดร.แหม่ม” ก็มักถูกวิพากวิจารณ์ในเชิง “ขโมยซีน” เป็นประจำ
หรือถึงขนาดวิจารณ์แรงๆว่า ที่ “โฆษกแหม่ม” ดูพยายาม “เกินไป” ก็เพื่อสานฝันขอขึ้นชั้นรัฐมนตรีให้ได้โดยเร็ว
จนไม่เป็นที่ปลาบปลื้มของคนในพรรคพลังประชารัฐเอง รวมไปถึง “ทีมงานตึกไทยคู่ฟ้า” ที่อยู่ข้างกาย “นายกฯ ตู่” ด้วย
แม้จะมีจุดอ่อนเป็นกระบุง แต่เชื่อว่าลึกๆ แล้ว “นายกฯ ตู่” ก็ยังไม่คิดถึงขั้นเปลี่ยนตัว “ดร.แหม่ม” ด้วยถือว่าเสียสละลาออกจาก ส.ส.มารับภาระหนัก มีเพียงให้นโยบายเสริมทีม-ปรับทัพ ช่วยงานตีปิ๊บรัฐบาลให้ดีขึ้นเท่านั้น
ทว่าด้วย “จุดอ่อน” ของ “โฆษกแหม่ม” ที่ไล่เรียงไป โดยเฉพาะการที่ “ไร้พวก” ก็เลยกลายเป็น “เหยื่อ” ให้ “ไอ้โม่ง” กระหน่ำตีอย่างที่เห็น แต่เป้าหมายที่แท้จริงหาใช่การเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาลแต่อย่างใด
ด้วยขณะนี้คงหา “ผู้เสียสละ” มารับหน้าที่แทนลำบาก เพราะไม่ใช่ตำแหน่งที่หอมหวานอย่างที่คิด
หมุดหมายของ “ขบวนการนี้” น่าจะอยู่ที่ “งบพีอาร์รัฐบาล” ทั้ง “งบเปิดเผย-งบลับ” ที่มี “คนนอกพรรค” นำโดย “อดีตแคนดิเดตโฆษกรัฐบาลคนหนึ่ง” จ้องตาเป็นมัน
โดยพยายามทำให้ภาพการทำงานด้านประชาสัมพันธ์ของ “อาจารย์แหม่ม” ดูไร้ประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อเปิดช่องให้มีการเสนอ “โปรเจกต์พีอาร์” เข้าไปซับพอร์ทมากกว่า.