“อำเภอแม่ริม” งัด พ.ร.บ.โรงแรมจัดระเบียบ “ม่อนแจ่ม” ปิดประกาศให้รีสอร์ตที่พักต้องยุติประกอบการภายใน 30 วัน เหตุไม่มีใบอนุญาต-ตั้งอยู่ในพื้นที่ต้องห้าม ฝ่าฝืนเตรียมดำเนินการเด็ดขาด
ความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดระเบียบดอยม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในพื้นที่ ต.แม่แรม และ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้กรมป่าไม้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล พบมีบ้านพักและรีสอร์ตทั้งหมดจำนวน 64 ราย ในจำนวนนี้ตรวจพบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริมกว่า 30 ไร่ จึงได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 7 ราย ซึ่ง 3 ใน 7 รายนี้มีกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาร่วมทุนอยู่ด้วย นอกจากนี้ ยังพบอีก 11 รายที่เป็นของชาวบ้าน มีการบุกรุกป่าเพื่อขยายพื้นที่เพิ่มเติม อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ และยังพบลานกางเต็นท์อีก 8 แห่งที่เข้าข่ายเป็นสิ่งปลูกสร้าง อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นกันว่าจะต้องรื้อถอนหรือไม่
วานนี้ (16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้ออกประกาศให้ผู้ประกอบธุรกิจที่พัก โดยมีค่าตอบแทน ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่สามารถออกใบอนุญาตหรือรับแจ้งได้ตามกฎหมาย ระงับหรือยุติการประกอบธุรกิจ ลงนามโดย นายกฤตพล รชตเมธานนท์ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทน นายอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่
สาระสำคัญระบุว่า ตามที่ได้มีประชาชน ซึ่งอยู่อาศัยในพื้นที่ ต.แม่แรม และ ต.โปงแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จำนวนมากได้ประกอบธุรกิจโรงแรมหรือจัดสร้างสถานที่พัก ทั้งที่มีลักษณะอาคารถาวร หรือชั่วคราว เพื่อให้บริการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการที่พักอาศัย โดยคิดค่าบริการ อันเป็นลักษณะหรือวัตถุประสงค์ด้านธุรกิจ โดยสถานที่พักชั่วคราวดังกล่าว ตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น ไม่สามารถออกใบอนุญาตหรือรับแจ้งได้ ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจการให้ที่พักในรูปแบบและลักษณะต่างๆ ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรงแรม พ.ศ. 2543
“อำเภอแม่ริมจึงขอให้ผู้ที่ได้ประกอบธุรกิจโรงแรมหรือสถานที่พักทั้งที่มีลักษณะอาคารถาวร หรือชั่วคราว เพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน โดยได้สร้างสถานที่พักในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามไม่ให้ผู้ใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ให้ระงับหรือยุติการประกอบธุรกิจดังกล่าว ภายใน 30 วัน (นับแต่วันประกาศนี้)”
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า หลังมีการปิดประกาศดังกล่าว ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่มมีการแสดงท่าทีไม่เห็นด้วย และตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดต้องมีการปิดประกาศในช่วงนี้ที่เป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมาก เพราะหากต้องปิดจะเกิดปัญหาตามมาเนื่องจากมีการจองห้องพักไว้เต็มไปถึงเดือน ก.พ.
ความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดระเบียบดอยม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในพื้นที่ ต.แม่แรม และ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้กรมป่าไม้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล พบมีบ้านพักและรีสอร์ตทั้งหมดจำนวน 64 ราย ในจำนวนนี้ตรวจพบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริมกว่า 30 ไร่ จึงได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 7 ราย ซึ่ง 3 ใน 7 รายนี้มีกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาร่วมทุนอยู่ด้วย นอกจากนี้ ยังพบอีก 11 รายที่เป็นของชาวบ้าน มีการบุกรุกป่าเพื่อขยายพื้นที่เพิ่มเติม อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ และยังพบลานกางเต็นท์อีก 8 แห่งที่เข้าข่ายเป็นสิ่งปลูกสร้าง อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นกันว่าจะต้องรื้อถอนหรือไม่
วานนี้ (16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้ออกประกาศให้ผู้ประกอบธุรกิจที่พัก โดยมีค่าตอบแทน ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่สามารถออกใบอนุญาตหรือรับแจ้งได้ตามกฎหมาย ระงับหรือยุติการประกอบธุรกิจ ลงนามโดย นายกฤตพล รชตเมธานนท์ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทน นายอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่
สาระสำคัญระบุว่า ตามที่ได้มีประชาชน ซึ่งอยู่อาศัยในพื้นที่ ต.แม่แรม และ ต.โปงแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จำนวนมากได้ประกอบธุรกิจโรงแรมหรือจัดสร้างสถานที่พัก ทั้งที่มีลักษณะอาคารถาวร หรือชั่วคราว เพื่อให้บริการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการที่พักอาศัย โดยคิดค่าบริการ อันเป็นลักษณะหรือวัตถุประสงค์ด้านธุรกิจ โดยสถานที่พักชั่วคราวดังกล่าว ตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น ไม่สามารถออกใบอนุญาตหรือรับแจ้งได้ ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจการให้ที่พักในรูปแบบและลักษณะต่างๆ ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรงแรม พ.ศ. 2543
“อำเภอแม่ริมจึงขอให้ผู้ที่ได้ประกอบธุรกิจโรงแรมหรือสถานที่พักทั้งที่มีลักษณะอาคารถาวร หรือชั่วคราว เพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน โดยได้สร้างสถานที่พักในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามไม่ให้ผู้ใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ให้ระงับหรือยุติการประกอบธุรกิจดังกล่าว ภายใน 30 วัน (นับแต่วันประกาศนี้)”
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า หลังมีการปิดประกาศดังกล่าว ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่มมีการแสดงท่าทีไม่เห็นด้วย และตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดต้องมีการปิดประกาศในช่วงนี้ที่เป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมาก เพราะหากต้องปิดจะเกิดปัญหาตามมาเนื่องจากมีการจองห้องพักไว้เต็มไปถึงเดือน ก.พ.