ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ม่อนแจ่ม ประชุมหารือร่วมชาวบ้าน ติดตามความคืบหน้าการจัดระเบียบ หลังอำเภอแม่ริม งัด พ.ร.บ.โรงแรม ออกประกาศสั่งยุติประกอบการที่พักภายใน30วัน ทั้งที่อยู่ระหว่างกระบวนการแก้ไขปัญหา
วันนี้(17 ม.ค.) เจ้าหน้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ดอยม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมพูดคุยหารือร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม เกี่ยวกับเรื่องการจัดระเบียบดอยม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ในพื้นที่ตำบลแม่แรมและตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้กรมป่าไม้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล พบมีบ้านพักและรีสอร์ตทั้งหมดจำนวน 64 ราย
ในจำนวนนี้ตรวจพบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม กว่า 30 ไร่ จึงได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 7 ราย ประกอบด้วย ม่อนใจโฮมสเตย์, ม่อนดอยลอยฟ้า, บ้านท่าจันทร์, ม่อนจ้อ, ม่อนม่วน, ไร่นาย และ ม่อนแสงสิริจันทรา ซึ่ง 3 ใน 7 รายนี้ มีกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาร่วมทุนอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังพบอีก 11 รายที่เป็นของชาวบ้าน มีการบุกรุกป่าเพื่อขยายพื้นที่เพิ่มเติม อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบและยังพบลานกางเต็นท์อีก 8 แห่ง ที่เข้าข่ายเป็นสิ่งปลูกสร้าง อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นกันว่าจะต้องรื้อถอนหรือไม่
ประเด็นสำคัญในการประชุมพูดคุยหารือครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการที่ทางอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มีการออกประกาศอำเภอแม่ริม ลงวันที่ 15 ม.ค.63 เรื่อง “ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่พัก โดยมีค่าตอบแทน ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น ไม่สามารถออกใบอนุญาตหรือรับแจ้งได้ ตามกฎหมาย ระงับหรือยุติการประกอบธุรกิจ” ซึ่งเนื้อหาโดยสรุปเป็นการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 ให้ประชาชน ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ตำบลแม่แรม และตำบลโปงแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่ประกอบธุรกิจโรงแรมหรือจัดสร้างสถานที่พัก ทั้งที่มีลักษณะอาคารถาวร หรือชั่วคราวเพื่อให้บริการ ให้ระงับหรือยุติการประกอบธุรกิจภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่มีประกาศ เพราะตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่สามารถออกใบอนุญาตหรือรับแจ้งได้
เบื้องต้นจากการพูดคุยกัน ทางกรมป่าไม้ อ้างว่าไม่ทราบเรื่องที่ทางอำเภอมีการออกประกาศดังกล่าว ซึ่งทางผู้นำชุมชนชนบนดอยม่อนแจ่ม และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม ระบุว่า หลังมีประกาศของอำเภอ สร้างความสับสนและกังวลใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก เพราะขณะนี้ชาวบ้านและกรมป่าไม้ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินกับภาครัฐให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมกับยืนยันว่าชาวบ้านไม่ได้มีการบุกรุกป่า และอาศัยทำกินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2541 โดยให้ใช้เพื่อเกษตรกรรม และประโยชน์อื่นๆพัฒนาคุณภาพชีวิต
ด้านนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร ได้ชี้แจงกับชาวบ้านบนดอยม่อนแจ่ม ยอมรับกรมป่าไม้ และชาวบ้านจะมีการหารือกับทางทางอำเภอ เพื่อทราบแนวทางปฏิบัติ และหารือร่วมกันจะหาทางออกอย่างไร โดยยืนยันยังต้องเร่งสำรวจรีสอร์ตที่พักบนม่อนแจ่มให้เเล้วเสร็จ ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อเข้าที่ประชุมใหญ่ที่มีตัวแทนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับพื้นที่บริเวณม่อนแจ่ม มีมีการใช้ประโยชน์ประมาณ 2,500 ไร่ โดยมีชาวบ้าน 900 หลังคาเรือน เคยมีการสำรวจพบบ้านพักและรีสอร์ทจำนวน 53 คน แต่ปัจจุบันกลับมีเพิ่มขึ้นเป็น 83 แห่ง และกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจเพิ่มเติม ซึ่งได้ดำเนินคดีไปแล้ว 7 คดี และคดียังอยู่ในชั้นสอบสวน.