ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม ออกแถลงการณ์สวนประกาศอำเภอแม่ริม ที่ให้ปิดที่พักรีสอร์ตภายใน30วัน ชี้อยู่มาดั้งเดิมก่อนที่จะมีการประกาศพื้นที่ป่าและได้รับอนุญาตให้ครอบครองทำประโยชน์ ลั่นเปิดปกติ
จากกรณีที่ทางอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มีการออกประกาศอำเภอแม่ริม ลงวันที่ 15 ม.ค.63 เรื่อง “ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่พัก โดยมีค่าตอบแทน ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น ไม่สามารถออกใบอนุญาตหรือรับแจ้งได้ ตามกฎหมาย ระงับหรือยุติการประกอบธุรกิจ” ซึ่งเนื้อหาโดยสรุปเป็นการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 ให้ประชาชน ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ตำบลแม่แรม และตำบลโปงแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่ประกอบธุรกิจโรงแรมหรือจัดสร้างสถานที่พัก ทั้งที่มีลักษณะอาคารถาวร หรือชั่วคราวเพื่อให้บริการ ให้ระงับหรือยุติการประกอบธุรกิจภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่มีประกาศ เพราะตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่สามารถออกใบอนุญาตหรือรับแจ้งได้
รายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุดวันนี้(17 ม.ค.63) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจง ฉบับที่ 1/2563 โดยมีสาระสำคัญ ระบุว่า พื้นที่ม่อนแจ่มมีการครอบครองทำประโยชน์และตั้งชุมชนมาก่อนการประกาศป่าสงวนแห่งชาติแม่ริม,ราษฎรที่อยู่อาศัยในพื้นที่ม่อนแจ่ม ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาดั้งเดิม,ราษฎรม่อนแจ่มทุกรายได้รับอนุญาตให้ครอบครองทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่ริม โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้โดยเป็นหนังสือ ตามมติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2561 และผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมหรือรีสอร์ตได้ยื่นหนังสือตามคำสั่ง คสช. ที่ 6/2562 มีผลได้รับการคุ้มครองให้ได้รับการยกเว้นโทษทางอาญา ตาม พ.ร.บ.โรงแรม, พ.ร.บ.ผังเมือง และพ.ร.บ. ควบคุมอาคาร ส่วนพื้นที่นั้นอยู่ในระหว่าง คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่ชาติพิจารณาและคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป
พร้อมกันนี้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม ระบุว่าประกาศดังกล่าวของอำเภอแม่ริม ส่งผลกระทบทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และเรียกร้องไม่ให้มีการดำเนินการใดๆ ที่กระทบหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับราษฎรในพื้นที่ พร้อมกับยืนยันว่าผู้ประกอบการที่พักทุกรายยังเปิดให้บริการตามปกติทุกวัน.
