ผู้จัดการรายวัน360- "กรณ์" โพสต์เฟซบุ๊ก หลังโบกมือลาค่ายพระแม่ธรณี ชี้สภาฯ ผ่านกม.งบปี 63 ถือว่าจบภารกิจที่พรรคมอบให้แล้ว ลั่นหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ลุยการเมืองต่อ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศในหลากหลายมิติ "จุรินทร์" ยันไม่เคยขัดแย้งกัน สมาชิกเข้า-ออก เป็นเรื่องปกติ "มาร์ค"อวยพรให้ประสบความสำเร็จ "จักรพันธ์ ปิยพรไพบูลย์" เลื่อนขึ้นเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อแทน ขณะที่ "อรรถวิชช์" จ่อไขก๊อกตาม เตรียมจับมือ 'กรณ์' ตั้งพรรคใหม่ ชูนโบายโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่-สตาร์ทอัป ด้าน "ฐนโรจน์" ออกอีกคน ยื่นลาออก 13 ม.ค. รุ่งขึ้น 14 ม.ค. ยื่นตั้งพรรค“รัฎฐาธิปัตย์”ทันที ชี้ปัญหาเลือดไหล เกิดจากการเลือก หน.พรรค ที่ประชาธิปไตยมากเกิน จนเละเทะ
วานนี้ (15 ม.ค.) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก “Korn Chatikavanij” ว่า ขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ ผมทำงานภาคเอกชนสายการเงินอยู่เกือบ 20 ปี ตำแหน่งสุดท้ายคือ ประธานธนาคาร JP Morgan (ประเทศไทย) ผมลาออกตอนอายุ 39 เพื่อมาสมัคร ส.ส.ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลาออกตอนนั้น เพราะอิ่มตัวกับการทำงานหาเงินสร้างเนื้อสร้างตัว และอยากจะหันมาทำงานรับใช้บ้านเมือง พรรคประชาธิปัตย์ได้ให้โอกาสผมตลอดมา โดยที่โอกาสสำคัญที่สุดคือ การเป็นรัฐมนตรีคลัง ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง และด้วยเหตุนี้ ความผูกพันที่ผมมีกับพรรคและเพื่อนร่วมพรรค จึงเป็นสิ่งที่จะอยู่กับผมตลอดไป
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้ร่วมพิจารณาอนุมัติงบประมาณแผ่นดินจนเสร็จเรียบร้อย ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลสามารถเดินหน้าได้เต็มที่ในการขับเคลื่อนนโยบายของพรรค ที่ผมได้ช่วยร่างไว้ ในฐานะ (อดีต) ประธานนโยบาย ผมจึงคิดว่าผมได้ทำภารกิจที่พรรคได้มอบหมายไว้จนครบถ้วนหมดแล้ว ผมจึงได้ยื่นใบลาออกตามที่ตั้งใจไว้
ผมขอขอบคุณมิตรภาพที่เพื่อนส.ส.และอดีตส.ส.ได้มอบให้ผม ผมจากไปจากพรรค แต่จะยังคิดถึงเพื่อนๆ ทุกคน แต่ที่สำคัญที่สุดผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้ให้โอกาสผมทำงานเพื่อบ้านเมือง ผมไม่มีวันลืมทุกคะแนนที่ให้ผมตั้งแต่ ปี 2548 ในฐานะผู้สมัครประชาธิปัตย์ รวมถึงกำลังใจของทุกๆ คน ที่กรุณามอบให้ผมเสมอมา
ผมมีความฝัน ที่อยากจะสร้างการเมืองแห่งความเปลี่ยนแปลง การเมืองที่กล้าคิด กล้าทำ มีความรอบคอบ แต่ไร้ความกลัว มีความเด็ดเดี่ยว แต่มีคุณธรรม เป็นการเมืองที่จะชวนผู้คนในสังคมไทยที่มีศักยภาพ มาร่วมกันออกแบบ และขับเคลื่อนประเทศไทยไปด้วยกัน ตลอดเวลาที่ทำงานการเมือง ผมได้มีส่วนร่วมกับประชาชนหลากหลายกลุ่ม ทำให้ผมได้มองเห็นประเทศไทยและสังคมการเมืองไทยในภาพที่กว้างขึ้น และลึกขึ้น ประสบการณ์เหล่านี้ ทำให้ผมตัดสินใจเดินหน้าสร้างทางเลือกทางการเมืองที่คนไทยแสวงหา เป็นการเมืองที่ต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าแม้แต่จะพลั้งพลาด และเป็นการเมืองที่มั่นใจในศักยภาพของคนไทย เป็นการเมืองที่มีเป้าหมายเปลี่ยนแปลงประเทศในหลากหลายมิติ ด้วยความเชื่อว่า หากเราไม่กล้าเปลี่ยน ไม่กล้าท้าทายตัวเอง คนไทยจะลำบาก เพราะเราจะแข่งขันไม่ได้
การจะตัดสินใจสิ่งใดๆ ก็ตาม ที่เป็นก้าวที่สำคัญของชีวิต จะต้องฟังเสียงข้างในของตัวเอง แต่สำหรับนักการเมืองไม่ว่าจะก้าวเล็ก หรือก้าวใหญ่ ต้องมาจากการรับฟังเสียงของประชาชนอีกด้วย ดังนั้น ทุกๆ ก้าวต่อไป ผมตั้งใจจะเดินไปพร้อมกับพี่น้องประชาชนทุกคน
"จุรินทร์"บอกลาออกเรื่องปกติ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีนายกรณ์ ประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่า นายกรณ์ ยังไม่เคยพูดกับตน ถึงเรื่องดังกล่าว แต่ได้ทราบจากข่าวทางสื่อ และขณะนี้ก็ยังไม่ทราบเหตุผลของการลาออก จึงขอให้เขาออกมาให้เหตุผลว่า เกิดจากอะไร ถ้าให้ตนพูดอะไรไปก่อน เกรงว่าจะไม่ตรง
เมื่อถามว่าความสัมพันธ์ระหว่าง นายจุรินทร์ กับนายกรณ์ เป็นอย่างไร เพราะมีข่าวว่า นายกรณ์ ถูกลดบทบาทจากที่เคยเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มีปัญหากับนายกรณ์ ส่วนบทบาทหน้าที่นั้นนายกรณ์ ทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาฯ แต่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ขณะที่การทำงานในทีมเศรษฐกิจของพรรค ไม่ได้มีปัญหา เพียงแต่ช่วงหลังเรามีคนรุ่นใหม่เข้ามาจำนวนมาก มาช่วยเสริมทีมดังกล่าว อาทิ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่ได้มาทำหน้าที่ รองหัวหน้าพรรค และดูแลทีมเศรษฐกิจทันสมัย เพราะโลก ภาวะทางเศรษฐกิจ และกลไกรูปแบบต่างๆ เปลี่ยนไป จึงมีความจำเป็นที่ต้องได้คนรุ่นใหม่ เข้ามาร่วมทีมในพรรคมากขึ้น
ต่อข้อถามว่า ดูเหมือนจะมีสมาชิกพรรค ลาออกอีก นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่ประชาธิปัตย์อยู่มา 73 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านสถานการณ์ที่มีทั้งคนเข้าและออก ในทุกยุคทุกสมัย ทั้งนี้การที่ตนพูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่า อยากให้มีคนลาออก แต่มองว่าการเดินออกไป กับการเดินเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค เกิดขึ้นทุกสมัย โดยในปี 62 มีคนลาออกจากสมาชิกพรรค 700-800 คน และมีผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรค 14,000 คน อีกทั้งในเร็วๆนี้ จะมีการเปิดตัวผู้ที่จะเข้ามาช่วยงาน และผู้ให้การสนับสนุนพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายกรณ์ ลาออกจากสมาชิกพรรค ซึ่งมีผลวันที่ 15 ม.ค.63 ทำให้ต้องพ้นจากความเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อตามรธน.ด้วย ทำให้ นายจักรพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 26 จะได้ขยับมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อแทน
"มาร์ค"อวยพรให้ประสบความสำเร็จ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาถึง นายกรณ์ มีใจความว่า ขอบคุณเพื่อนที่สนับสนุนการทำงานของผม และพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นอย่างดี ไม่ว่าพรรคจะอยู่ในสถานะใด ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทั้งในยามที่รุ่งเรือง และมีปัญหา ผลงานและความสามารถเป็นที่ประจักษ์สำหรับทุกคน ที่ได้ร่วมงาน
เมื่อเพื่อนตัดสินใจที่จะเดินไปบนเส้นทางใหม่ ก็ขอให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่หวังและตั้งใจ ที่จะทำให้กับส่วนรวม ความเป็นเพื่อนยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ...
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้โพสต์ภาพ โอบกอดให้กำลังใจนายกรณ์ ในงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ เมื่อค่ำวันที่ 14 ม.ค. ด้วย
'อรรถวิชช์'จับมือ 'กรณ์' ตั้งพรรคใหม่
ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานข่าวแจ้งว่า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เตรียมประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ อีกคน ในวันที่ 17ม.ค.นี้ เพื่อไปร่วมตั้งพรรคการเมืองกับ นายกรณ์
แหล่งข่าวใกล้ชิด นายกรณ์ จาติกวณิช เปิดเผยถึงกระแสข่าวว่า นายกรณ์ จะไปลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. กับพรรคพลังประชารัฐ ว่า นายกรณ์ไม่ไปอย่างแน่นอน แต่มีความตั้งใจจะทำงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นงานที่ถนัดและเชี่ยวชาญ และจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมา เพื่อทำงานเกี่ยวกับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ และ สตาร์ทอัป โดยจะมี นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมด้วย ซึ่งทั้งสองคนได้พูดคุยเรื่องนี้มาหลายเดือนแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) นายอรรถวิชช์ ได้เดินทางมารัฐสภา และเข้าพบ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อกราบลา เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายชวนได้โทรศัพท์ไปหา เพื่อสอบถามและขอให้อยู่พรรคต่อไป โดยในวันที่ 16 ม.ค. ประมาณเวลา 10.00 น. นายอรรถวิชช์ จะแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ทางเฟซบุ๊กชื่อ"อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี"
"ฐนโรจน์" อดีตส.ส.ชลบุรี ปชป.ลาออกอีกคน
นายฐนโรจน์ โรจนกุลเสฏฐ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งข้อความเข้าไลน์กลุ่มส.ส.ประชาธิปัตย์ ระบุว่า ขอกราบลาผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือทุกท่านในพรรคฯ และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ผู้ร่วมอุดมการณ์กันมาในพรรคทุกคน ตั้งแต่ปี 2544 เพื่อออกไปสร้างครอบครัวใหม่ ตามแนวคิดทฤษฎีทางการเมืองของผมต่อไป
นายฐนโรจน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ตนได้ไปยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่กกต. เมื่อ13 ม.ค.63 และในวันที่ 14 ม.ค. ก็ได้จดตั้งพรรครัฎฐาธิปัตย์ เรียบร้อยแล้ว จากนี้ก็ต้องหาสมาชิกให้ได้ไม่ต่ำกว่า 500 คน เพื่อจัดประชุมใหญ่ เพราะส่งให้รายงานให้ กกต. อนุมัติ การจัดตั้งพรรค ทั้งนี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ตนจะลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยอยู่ในบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1
เมื่อถามว่า การลาออกเป็นเพราะไม่พอใจพรรค หรือไม่ นายฐนโรจน์ กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพรรค หรือหัวหน้าพรรค และไม่ได้โกรธใคร ตนตัดสินใจออกมา เพื่อดำเนินตามแนวทาง และทฤษฎีของตัวเอง
"ประชาธิปัตย์ มีปัญหาทุกครั้งในการเลือกหัวหน้าพรรค ที่เป็นประชาธิปไตยเกิน เลยทำให้แตกกันเละเทะ แสดงว่าวิธีนี้ไม่ใช่ ดังนั้น คงพูดคุยกันดีกว่า เป็นประชาธิปไตยแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย และการบริหารของพรรค ก็มีข้อบกพร่องบางอย่างอยู่ เหมือนรถที่มีปัญหาเรื่องเบรก เขาก็แก้ไม่ได้ เป็นเส้นผมบังภูเขา พรรคก็เหมือนกัน มีปัญหาแต่แก้ไม่ได้ เหมือนเส้นผมบังภูเขา" นายฐนโรจน์ กล่าว
วานนี้ (15 ม.ค.) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก “Korn Chatikavanij” ว่า ขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ ผมทำงานภาคเอกชนสายการเงินอยู่เกือบ 20 ปี ตำแหน่งสุดท้ายคือ ประธานธนาคาร JP Morgan (ประเทศไทย) ผมลาออกตอนอายุ 39 เพื่อมาสมัคร ส.ส.ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลาออกตอนนั้น เพราะอิ่มตัวกับการทำงานหาเงินสร้างเนื้อสร้างตัว และอยากจะหันมาทำงานรับใช้บ้านเมือง พรรคประชาธิปัตย์ได้ให้โอกาสผมตลอดมา โดยที่โอกาสสำคัญที่สุดคือ การเป็นรัฐมนตรีคลัง ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง และด้วยเหตุนี้ ความผูกพันที่ผมมีกับพรรคและเพื่อนร่วมพรรค จึงเป็นสิ่งที่จะอยู่กับผมตลอดไป
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้ร่วมพิจารณาอนุมัติงบประมาณแผ่นดินจนเสร็จเรียบร้อย ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลสามารถเดินหน้าได้เต็มที่ในการขับเคลื่อนนโยบายของพรรค ที่ผมได้ช่วยร่างไว้ ในฐานะ (อดีต) ประธานนโยบาย ผมจึงคิดว่าผมได้ทำภารกิจที่พรรคได้มอบหมายไว้จนครบถ้วนหมดแล้ว ผมจึงได้ยื่นใบลาออกตามที่ตั้งใจไว้
ผมขอขอบคุณมิตรภาพที่เพื่อนส.ส.และอดีตส.ส.ได้มอบให้ผม ผมจากไปจากพรรค แต่จะยังคิดถึงเพื่อนๆ ทุกคน แต่ที่สำคัญที่สุดผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้ให้โอกาสผมทำงานเพื่อบ้านเมือง ผมไม่มีวันลืมทุกคะแนนที่ให้ผมตั้งแต่ ปี 2548 ในฐานะผู้สมัครประชาธิปัตย์ รวมถึงกำลังใจของทุกๆ คน ที่กรุณามอบให้ผมเสมอมา
ผมมีความฝัน ที่อยากจะสร้างการเมืองแห่งความเปลี่ยนแปลง การเมืองที่กล้าคิด กล้าทำ มีความรอบคอบ แต่ไร้ความกลัว มีความเด็ดเดี่ยว แต่มีคุณธรรม เป็นการเมืองที่จะชวนผู้คนในสังคมไทยที่มีศักยภาพ มาร่วมกันออกแบบ และขับเคลื่อนประเทศไทยไปด้วยกัน ตลอดเวลาที่ทำงานการเมือง ผมได้มีส่วนร่วมกับประชาชนหลากหลายกลุ่ม ทำให้ผมได้มองเห็นประเทศไทยและสังคมการเมืองไทยในภาพที่กว้างขึ้น และลึกขึ้น ประสบการณ์เหล่านี้ ทำให้ผมตัดสินใจเดินหน้าสร้างทางเลือกทางการเมืองที่คนไทยแสวงหา เป็นการเมืองที่ต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าแม้แต่จะพลั้งพลาด และเป็นการเมืองที่มั่นใจในศักยภาพของคนไทย เป็นการเมืองที่มีเป้าหมายเปลี่ยนแปลงประเทศในหลากหลายมิติ ด้วยความเชื่อว่า หากเราไม่กล้าเปลี่ยน ไม่กล้าท้าทายตัวเอง คนไทยจะลำบาก เพราะเราจะแข่งขันไม่ได้
การจะตัดสินใจสิ่งใดๆ ก็ตาม ที่เป็นก้าวที่สำคัญของชีวิต จะต้องฟังเสียงข้างในของตัวเอง แต่สำหรับนักการเมืองไม่ว่าจะก้าวเล็ก หรือก้าวใหญ่ ต้องมาจากการรับฟังเสียงของประชาชนอีกด้วย ดังนั้น ทุกๆ ก้าวต่อไป ผมตั้งใจจะเดินไปพร้อมกับพี่น้องประชาชนทุกคน
"จุรินทร์"บอกลาออกเรื่องปกติ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีนายกรณ์ ประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่า นายกรณ์ ยังไม่เคยพูดกับตน ถึงเรื่องดังกล่าว แต่ได้ทราบจากข่าวทางสื่อ และขณะนี้ก็ยังไม่ทราบเหตุผลของการลาออก จึงขอให้เขาออกมาให้เหตุผลว่า เกิดจากอะไร ถ้าให้ตนพูดอะไรไปก่อน เกรงว่าจะไม่ตรง
เมื่อถามว่าความสัมพันธ์ระหว่าง นายจุรินทร์ กับนายกรณ์ เป็นอย่างไร เพราะมีข่าวว่า นายกรณ์ ถูกลดบทบาทจากที่เคยเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มีปัญหากับนายกรณ์ ส่วนบทบาทหน้าที่นั้นนายกรณ์ ทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาฯ แต่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ขณะที่การทำงานในทีมเศรษฐกิจของพรรค ไม่ได้มีปัญหา เพียงแต่ช่วงหลังเรามีคนรุ่นใหม่เข้ามาจำนวนมาก มาช่วยเสริมทีมดังกล่าว อาทิ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่ได้มาทำหน้าที่ รองหัวหน้าพรรค และดูแลทีมเศรษฐกิจทันสมัย เพราะโลก ภาวะทางเศรษฐกิจ และกลไกรูปแบบต่างๆ เปลี่ยนไป จึงมีความจำเป็นที่ต้องได้คนรุ่นใหม่ เข้ามาร่วมทีมในพรรคมากขึ้น
ต่อข้อถามว่า ดูเหมือนจะมีสมาชิกพรรค ลาออกอีก นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่ประชาธิปัตย์อยู่มา 73 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านสถานการณ์ที่มีทั้งคนเข้าและออก ในทุกยุคทุกสมัย ทั้งนี้การที่ตนพูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่า อยากให้มีคนลาออก แต่มองว่าการเดินออกไป กับการเดินเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค เกิดขึ้นทุกสมัย โดยในปี 62 มีคนลาออกจากสมาชิกพรรค 700-800 คน และมีผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรค 14,000 คน อีกทั้งในเร็วๆนี้ จะมีการเปิดตัวผู้ที่จะเข้ามาช่วยงาน และผู้ให้การสนับสนุนพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายกรณ์ ลาออกจากสมาชิกพรรค ซึ่งมีผลวันที่ 15 ม.ค.63 ทำให้ต้องพ้นจากความเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อตามรธน.ด้วย ทำให้ นายจักรพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 26 จะได้ขยับมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อแทน
"มาร์ค"อวยพรให้ประสบความสำเร็จ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาถึง นายกรณ์ มีใจความว่า ขอบคุณเพื่อนที่สนับสนุนการทำงานของผม และพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นอย่างดี ไม่ว่าพรรคจะอยู่ในสถานะใด ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทั้งในยามที่รุ่งเรือง และมีปัญหา ผลงานและความสามารถเป็นที่ประจักษ์สำหรับทุกคน ที่ได้ร่วมงาน
เมื่อเพื่อนตัดสินใจที่จะเดินไปบนเส้นทางใหม่ ก็ขอให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่หวังและตั้งใจ ที่จะทำให้กับส่วนรวม ความเป็นเพื่อนยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ...
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้โพสต์ภาพ โอบกอดให้กำลังใจนายกรณ์ ในงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ เมื่อค่ำวันที่ 14 ม.ค. ด้วย
'อรรถวิชช์'จับมือ 'กรณ์' ตั้งพรรคใหม่
ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานข่าวแจ้งว่า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เตรียมประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ อีกคน ในวันที่ 17ม.ค.นี้ เพื่อไปร่วมตั้งพรรคการเมืองกับ นายกรณ์
แหล่งข่าวใกล้ชิด นายกรณ์ จาติกวณิช เปิดเผยถึงกระแสข่าวว่า นายกรณ์ จะไปลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. กับพรรคพลังประชารัฐ ว่า นายกรณ์ไม่ไปอย่างแน่นอน แต่มีความตั้งใจจะทำงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นงานที่ถนัดและเชี่ยวชาญ และจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมา เพื่อทำงานเกี่ยวกับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ และ สตาร์ทอัป โดยจะมี นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมด้วย ซึ่งทั้งสองคนได้พูดคุยเรื่องนี้มาหลายเดือนแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) นายอรรถวิชช์ ได้เดินทางมารัฐสภา และเข้าพบ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อกราบลา เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายชวนได้โทรศัพท์ไปหา เพื่อสอบถามและขอให้อยู่พรรคต่อไป โดยในวันที่ 16 ม.ค. ประมาณเวลา 10.00 น. นายอรรถวิชช์ จะแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ทางเฟซบุ๊กชื่อ"อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี"
"ฐนโรจน์" อดีตส.ส.ชลบุรี ปชป.ลาออกอีกคน
นายฐนโรจน์ โรจนกุลเสฏฐ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งข้อความเข้าไลน์กลุ่มส.ส.ประชาธิปัตย์ ระบุว่า ขอกราบลาผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือทุกท่านในพรรคฯ และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ผู้ร่วมอุดมการณ์กันมาในพรรคทุกคน ตั้งแต่ปี 2544 เพื่อออกไปสร้างครอบครัวใหม่ ตามแนวคิดทฤษฎีทางการเมืองของผมต่อไป
นายฐนโรจน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ตนได้ไปยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่กกต. เมื่อ13 ม.ค.63 และในวันที่ 14 ม.ค. ก็ได้จดตั้งพรรครัฎฐาธิปัตย์ เรียบร้อยแล้ว จากนี้ก็ต้องหาสมาชิกให้ได้ไม่ต่ำกว่า 500 คน เพื่อจัดประชุมใหญ่ เพราะส่งให้รายงานให้ กกต. อนุมัติ การจัดตั้งพรรค ทั้งนี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ตนจะลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยอยู่ในบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1
เมื่อถามว่า การลาออกเป็นเพราะไม่พอใจพรรค หรือไม่ นายฐนโรจน์ กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพรรค หรือหัวหน้าพรรค และไม่ได้โกรธใคร ตนตัดสินใจออกมา เพื่อดำเนินตามแนวทาง และทฤษฎีของตัวเอง
"ประชาธิปัตย์ มีปัญหาทุกครั้งในการเลือกหัวหน้าพรรค ที่เป็นประชาธิปไตยเกิน เลยทำให้แตกกันเละเทะ แสดงว่าวิธีนี้ไม่ใช่ ดังนั้น คงพูดคุยกันดีกว่า เป็นประชาธิปไตยแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย และการบริหารของพรรค ก็มีข้อบกพร่องบางอย่างอยู่ เหมือนรถที่มีปัญหาเรื่องเบรก เขาก็แก้ไม่ได้ เป็นเส้นผมบังภูเขา พรรคก็เหมือนกัน มีปัญหาแต่แก้ไม่ได้ เหมือนเส้นผมบังภูเขา" นายฐนโรจน์ กล่าว