ผู้จัดการรายวัน360- นายกฯ ย้ำให้ตั้งจุดสกัดรถควันดำมากขึ้น แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ห้ามวิ่งจนกว่าแก้ไข พร้อมหามาตรการแก้ไข ดูแลความเดือดร้อน "วราวุธ" เผยเตรียมใช้ยาแรงคุมฝุ่นพิษ ถามประชาชนรับได้หรือไม่ ยกตัวอย่างต่างประเทศ ประกาศห้ามรถวิ่งในเมือง เล็งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ก่อนเกิดเหตุ "อนุทิน" ขอเอกชนนำร่อง ทำงานที่บ้านวันเสาร์ ขณะที่ค่าฝุ่นพิษวานนี้ พุ่ง 9 เขต
วานนี้ (14ม.ค.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงปัญหาค่าฝุ่น PM2.5 ว่า สาเหตุทั้งจากการขับรถที่มีควันดำ ไม่มีควันดำ ซึ่งต้องช่วยกันแก้ไข อย่างเรื่องการเผา ต้องไปช่วยกันลดการเผาให้ได้ ตนได้ย้ำในส่วนของขนส่งมวลชนไปแล้ว รวมถึงการตั้งด่านจุดสกัดให้มากขึ้น รถคันไหนมีปัญหา ให้แก้ไขก่อนจะทำการวิ่งใหม่ โดยจะมีมาตรการช่วยเหลือ ซึ่งบางครั้งหลายคนมีความเดือดร้อน ต้องใช้รถแบบนี้ ก็ต้องมีการเข้าไปแก้ปัญหาให้
ทั้งนี้ ปัญหาเกิดจากการจราจร 70 % โรงงานอุตสาหกรรม 17 % รวมถึงการเผาและอื่นๆ 5 % ซึ่งเรามีตัวเลขหมดแล้ว โดยรัฐบาลมีหน้าที่กำกับดูแล ในส่วนของขนส่งมวลชน รถบรรทุก การลดควันดำ การเดินหน้าไปสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้า เป็นไปตามขั้นตอน เพราะไม่สามารถสั่งการได้ทีเดียว และหากเกิดปัญหา ทางออกรัฐบาล ก็อาจจะห้ามรถวิ่ง สุดท้ายก็เดือดร้อนกันหมด
" ประเทศรอบบ้านที่มีการเผา เราก็ต้องเจรจากับเขา รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จัดหาเครื่องวัด โดยให้งบประมาณลงไป ไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนก ซึ่งการใส่หน้ากากจะช่วยลดได้พอสมควร แต่จะไปห้ามคนใช้รถคงไม่ได้ ห้ามทำอุตสาหกรรม ห้ามเกษตรกรเผาได้หรือไม่ ต้องบอกให้เข้าใจ"
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปลัดกระทรวงฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมมลพิษ ได้มีการเสนอในที่ประชุมเพื่อหามาตรการ และหายาที่แรงขึ้น เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และขอความเห็นชอบจากครม.ต่อไป ทั้งนี้ การเกิดฝุ่น PM2.5 จำนวน 72 %ในพื้นที่กทม.มาจากยานพาหนะ ซึ่งเป็นรถบรรทุกกว่า 20 % อีก 20 %มาจากรถกระบะ ดังนั้น หากรัฐบาลออกมาตรการเข้มงวด ประชาชนจะรับได้หรือไม่
" ตัวอย่างยาแรงในประเทศเกาหลีใต้ ห้ามรถยนต์วิ่งในเขตเมือง เป็นต้น ซึ่งมาตรการเข้มงวดจะดำเนินการในช่วงเวลาที่คับขันเท่านั้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ที่มีปัญหาการเผาไหม้ ซึ่งจะจัดระบบการเผาในช่วงต้นปี อีกทั้งมาตรการต่างๆจะไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากต้องประกาศสภาวะฉุกเฉินก่อน ดังนั้นจะต้องมาพิจารณาร่วมกัน ในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก่อนจะเกิดปัญหาได้หรือไม่ เพื่อใช้มาตรการเข้มงวดก่อนปัญหาจะเกิดขึ้น" นายวราวุธ กล่าว
"อนุทิน"เสนอทำงานที่บ้านวันเสาร์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึง กรณีที่โพสต์ข้อความลงในเพจเฟซบุ๊ก เสนอให้มีการทำงานที่บ้าน เพื่อลดการใช้ยานพาหนะ และแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ว่า เราต้องคิดเพื่อช่วยเหลือตัวเองบ้าง และอยากขอความร่วมมือภาคเอกชน เริ่มต้นทำให้เป็นตัวอย่างก่อน เช่น วันเสาร์ให้ทำงานที่บ้าน บริษัทจะสามารถลดค่าใช้จ่ายต่างๆไปได้ด้วย ขณะที่พนักงานจะลดค่าเดินทาง ซึ่งไม่ติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย แต่ถ้าเป็นหน่วยงานราชการ อาจจะขัดระเบียบ หรือ พ.ร.บ.ต่างๆได้
ครึ่งวัน'ฝุ่นพิษ'พุ่ง9เขต
เมื่อวันที่ 14 ม.ค.สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. รายงานผลการตรวจวัด PM2.5 เวลา 10.00-12.00 น. ตรวจวัดได้ 31-60 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ย 45 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและยังคงมีค่าเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 9 เขต ได้แก่ เขตวังทองหลาง เขตบางคอแหลม เขตบางกะปิ เขตคลองสาน เขตบางเขน เขตพระนคร เขตคลองเตย เขตหลักสี่ เขตบึงกุ่ม
ทางศูนย์บริการสาธารณสุข 47 คลองขวาง ได้ออกหน่วยปฐมพยาบาลและรณรงค์ประชาสัมพันธ์ฝุ่นละออง PM2.5 แจกหน้ากากอนามัย แผ่นพับให้ความรู้การปฏิบัติตัว คัดกรองสุขภาพที่ริมถนน ซอยเพชรเกษม 54 เขตภาษีเจริญ นอกจากนี้สำนักงานเขตต่างๆ ยังระดมกำลัง ฉีดน้ำล้างถนนในพื้นที่ รวมถึงการฉีดพ่นละอองน้ำในสถานศึกษา เพื่อบรรเทาปัญหาให้กับประชาชน