ผู้จัดการรายวัน360-"สุชาติ"รองผบ.ตร. ยันยังจับโจรปล้นร้านทองที่ลพบุรีไม่ได้ ซัดสื่อบางสำนักลงข่าวมั่ว วอนหยุดการกระทำที่ไม่หวังดี ย้ำคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ ต้องทำอย่างรอบคอบ ด้านอดีตผู้ต้องหาปล้นทอง ย่านลาดพร้าว ปี 56 และเพิ่งพ้นโทษออกมา เมื่อ 10 เดือนก่อน ร้อง ปอท. เอาผิดมือโพสต์-แชร์ นำภาพหมายจับเก่า กระจายผ่านโซเชียล ใส่ร้ายเป็นมือฆ่าชิงทอง
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีมีข่าวลือในโซเชียลมีเดียว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ในร้านทองในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี และใช้อาวุธปืน ยิงประชาชนเสียชีวิต 3 ราย ว่า ยืนยันว่าตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ และในสวนของพยานที่เข้ามาให้ข้อมูลนั้น ได้รวบรวมและประเมินเพื่อนำมาตรวจสอบในส่วนของคดีแล้ว ไม่มีความหนักใจ แต่หนักใจกระแสข่าวที่ไม่เป็นความจริง มีการปล่อยข่าวลวงว่าจับผู้ต้องหาคดีนี้ได้แล้วมากกว่า จึงขอให้ผู้ไม่ประสงค์ดี หยุดการกระทำดังกล่าว ในส่วนของหน่วยราชการในจังหวัดลพบุรี ก็ให้ความร่วมมือให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี จึงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ เพราะคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญพี่น้องประชาชน จึงต้องทำงานอย่างรอบคอบ
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายเอกฐวีป คงคาวารี อายุ 36 ปี อดีตผู้ต้องหาคดีปล้นร้านทองในห้างดัง ย่านลาดพร้าว เมื่อปี 2556 ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.หญิง ณัฐชยา วงศ์รุจิไพโรจน์ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กนำภาพหมายจับเก่า และข้อมูลส่วนตัวไปโพสต์ในโลกโซเชียล โดยอ้างว่าเป็นผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุฆ่า 3 ศพชิงทองอุกอาจในห้าง จ.ลพบุรี
นายเอกฐวีปกล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค. เพื่อนของตนได้ส่งภาพหมายจับดังกล่าวมาให้ดู จึงทราบเรื่อง และรีบไปแจ้งความที่ สน.สามเสน โดยเชื่อว่าภาพหมายจับ น่าจะมาจากตำรวจนำข้อมูลเก่าที่ตนเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองเมื่อปี 2556 มาตรวจสอบแต่เกิดหลุดออกมา จึงมาแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่โพสต์และแชร์ภาพหมายจับประมาณ 7-8 ราย ซึ่งมีทั้งบุคคลและเพจเฟซบุ๊ก บางเพจมีผู้ติดตามหลายพันคน ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าผู้ก่อเหตุที่ จ.ลพบุรี ไม่ใช่ตนแน่นอน เพราะมีหลักฐานภาพวงจรปิดว่าตนทำงานอยู่ในวันที่เกิดเหตุ หลังเกิดเรื่องพี่ชายที่อยู่ จ.กำแพงเพชร แจ้งว่ามีตำรวจได้โทรศัพท์มาสอบถาม ซึ่งหากจะเรียกไปสอบปากคำเกี่ยวกับคดี ตนก็ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่
สำหรับคดีเก่าของตนเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2556 โดยร่วมกันกับพวกก่อเหตุ 3 คน ซึ่งตนได้ใช้อาวุธปืนเช่นกัน แต่ไม่ประสงค์เอาชีวิตใคร เพราะทุกคนเลี่ยงการทำร้ายร่างกาย กระทั่งมาถูกจับกุมและศาลตัดสินจำคุก 25 ปี ตนรับสารภาพ ลดโทษเหลือ 11 ปี และลดโทษเรื่อยมาจนเหลือ 7 ปี เพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อ 10 เดือนก่อน ตอนนี้ได้มาเริ่มชีวิตใหม่ ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี เพราะตนมีงานทำและเรียนไปด้วย แต่กลับเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ซึ่งมันกระทบกับครอบครัวและงาน เพราะหัวหน้าก็ได้ให้โอกาสตนเข้าทำงาน อย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงคนที่จะแชร์ข้อมูลควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน ถ้าตนตกงาน ตนไม่อยากไปก่อเหตุซ้ำอีก ล่าสุดมีเพียงคนเดียวที่ติดต่อมาขอโทษว่าไม่ทราบเรื่อง ซึ่งหากมีการแก้ไขและลบให้ ตนก็จะถอนแจ้งความ
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีมีข่าวลือในโซเชียลมีเดียว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ในร้านทองในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี และใช้อาวุธปืน ยิงประชาชนเสียชีวิต 3 ราย ว่า ยืนยันว่าตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ และในสวนของพยานที่เข้ามาให้ข้อมูลนั้น ได้รวบรวมและประเมินเพื่อนำมาตรวจสอบในส่วนของคดีแล้ว ไม่มีความหนักใจ แต่หนักใจกระแสข่าวที่ไม่เป็นความจริง มีการปล่อยข่าวลวงว่าจับผู้ต้องหาคดีนี้ได้แล้วมากกว่า จึงขอให้ผู้ไม่ประสงค์ดี หยุดการกระทำดังกล่าว ในส่วนของหน่วยราชการในจังหวัดลพบุรี ก็ให้ความร่วมมือให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี จึงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ เพราะคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญพี่น้องประชาชน จึงต้องทำงานอย่างรอบคอบ
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายเอกฐวีป คงคาวารี อายุ 36 ปี อดีตผู้ต้องหาคดีปล้นร้านทองในห้างดัง ย่านลาดพร้าว เมื่อปี 2556 ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.หญิง ณัฐชยา วงศ์รุจิไพโรจน์ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กนำภาพหมายจับเก่า และข้อมูลส่วนตัวไปโพสต์ในโลกโซเชียล โดยอ้างว่าเป็นผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุฆ่า 3 ศพชิงทองอุกอาจในห้าง จ.ลพบุรี
นายเอกฐวีปกล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค. เพื่อนของตนได้ส่งภาพหมายจับดังกล่าวมาให้ดู จึงทราบเรื่อง และรีบไปแจ้งความที่ สน.สามเสน โดยเชื่อว่าภาพหมายจับ น่าจะมาจากตำรวจนำข้อมูลเก่าที่ตนเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองเมื่อปี 2556 มาตรวจสอบแต่เกิดหลุดออกมา จึงมาแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่โพสต์และแชร์ภาพหมายจับประมาณ 7-8 ราย ซึ่งมีทั้งบุคคลและเพจเฟซบุ๊ก บางเพจมีผู้ติดตามหลายพันคน ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าผู้ก่อเหตุที่ จ.ลพบุรี ไม่ใช่ตนแน่นอน เพราะมีหลักฐานภาพวงจรปิดว่าตนทำงานอยู่ในวันที่เกิดเหตุ หลังเกิดเรื่องพี่ชายที่อยู่ จ.กำแพงเพชร แจ้งว่ามีตำรวจได้โทรศัพท์มาสอบถาม ซึ่งหากจะเรียกไปสอบปากคำเกี่ยวกับคดี ตนก็ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่
สำหรับคดีเก่าของตนเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2556 โดยร่วมกันกับพวกก่อเหตุ 3 คน ซึ่งตนได้ใช้อาวุธปืนเช่นกัน แต่ไม่ประสงค์เอาชีวิตใคร เพราะทุกคนเลี่ยงการทำร้ายร่างกาย กระทั่งมาถูกจับกุมและศาลตัดสินจำคุก 25 ปี ตนรับสารภาพ ลดโทษเหลือ 11 ปี และลดโทษเรื่อยมาจนเหลือ 7 ปี เพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อ 10 เดือนก่อน ตอนนี้ได้มาเริ่มชีวิตใหม่ ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี เพราะตนมีงานทำและเรียนไปด้วย แต่กลับเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ซึ่งมันกระทบกับครอบครัวและงาน เพราะหัวหน้าก็ได้ให้โอกาสตนเข้าทำงาน อย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงคนที่จะแชร์ข้อมูลควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน ถ้าตนตกงาน ตนไม่อยากไปก่อเหตุซ้ำอีก ล่าสุดมีเพียงคนเดียวที่ติดต่อมาขอโทษว่าไม่ทราบเรื่อง ซึ่งหากมีการแก้ไขและลบให้ ตนก็จะถอนแจ้งความ