วันนี้ (13 ม.ค.) นายเอกฐวีป คงคาวารี อายุ 36 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.หญิง ณัฐชยา วงศ์รุจิไพโรจน์ รองสารวัตร (สอบสวน) กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (กก.3 บก.ปอท.) พร้อมมอบหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้โพสต์และแชร์ภาพหมายจับเก่าของตน ซึ่งมีการกล่าวหาว่าตนเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีกราดยิงชิงทรัพย์ร้านทอง ในห้างสรรพสินค้า จังหวัดลพบุรี
นายเอกฐวีป กล่าวว่า วันนี้เดินทางเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์และแชร์ภาพหมายจับเก่าของตน ในกรณีเป็นผู้ต้องหาคดีปล้นร้านทองมูลค่า 4 ล้านบาท เมื่อปี 2556 ซึ่งมีผู้ร่วมกระทำผิด 7-8 ราย มีทั้งบุคคล และเพจเฟซบุ๊กบางเพจมีผู้ติดตามหลายพันคน และมียอดแชร์กันหลายพันคนในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ตนทราบเรื่องหลังจากเพื่อนส่งภาพให้ดูเมื่อวานนี้ รู้สึกตกใจมาก และรีบไปแจ้งความที่ สน.สามเสน โดยเชื่อว่าภาพดังกล่าวมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำข้อมูลเก่าที่ตนเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองเมื่อปี 2556 มาตรวจสอบ แต่เกิดหลุดออกมา
นายเอกฐวีป ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุครั้งล่าสุดที่จังหวัดลพบุรี ไม่ใช่ตนแน่นอน เพราะมีหลักฐานภาพวงจรปิดว่าวันเกิดเหตุนั้น ตนทำงานอยู่ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ พี่ชายที่อยู่จังหวัดกำแพงเพชร แจ้งว่า ตำรวจโทรศัพท์มาสอบถาม ซึ่งหากจะเรียกไปสอบปากคำเกี่ยวกับคดี ตนก็ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่
ส่วนคดีเก่านั้น ตนเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2556 ได้ทองไปมูลค่าราว 1,000,000 บาท โดยร่วมกับพวกรวม 3 คน ซึ่งตนใช้อาวุธปืนก่อเหตุ แต่ไม่ประสงค์เอาชีวิตใคร เพราะทุกคนเลี่ยงการทำร้ายร่างกาย กระทั่งมาถูกจับกุมและศาลตัดสินจำคุก 25 ปี ตนรับสารภาพ ศาลลดโทษเหลือ 11 ปี และลดโทษเรื่อยมาจนเหลือ 7 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อ 10 เดือนก่อน ตอนนี้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี เพราะตนมีงานทำและเรียนไปด้วย แต่กลับเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ส่งกระทบกับครอบครัว และคนรอบข้าง ทั้งนี้ ฝากถึงผู้ที่จะจะแชร์อะไร ก็ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (กก.3 บก.ปอท.) สอบปากคำ ก่อนพิจารณาหลักฐาน เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาสั่งการต่อไป