ลพบุรี - รอง ผบ.ตร.ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ออกหมายจับใครในคดีฆ่าชิงทองกลางห้างดัง ขอให้อดใจรออีกนิด ทุกฝ่ายเร่งทำงานกันอย่างเต็มที่ ลั่นคนร้ายรายนี้อยู่ร่วมกับเราไม่ได้ ส่วนจะออกหมายจับหรือจะจับใคร ให้ฟัง ผบ.ตร.ออกมาแถลงข่าวเองเท่านั้น
จากกรณีเกิดเหตุคดีสะเทือนขวัญเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเก็บเสียงยิงเปิดทางยิงใส่ชาวบ้านและพนักงานร้านทองทองอโรร่า ภายในห้างโรบินสันสาขาลพบุรี เพื่อชิงทองรูปพรรณในร้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 4 ราย เหตุเกิดวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (14 ม.ค.) พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานติดตามจับกุมคนร้ายก่อเหตุจี้ชิงทอง ได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงความคืบหน้า ซึ่งในขณะยังไม่มีอะไรคืบหน้ากว่าเมื่อวานมากนัก แต่พอที่จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากขึ้น จากข้อมูลที่ได้มาจากกล้องหน้ารถ และข้อมูล จากประชาชน และในเรื่องของอาวุธปืนที่ใช้ก็มีการตรวจสอบงวดเข้าทุกที ร่วมทั้ง ข้อมูลที่ได้จากประชาชนที่ให้มาเยอะมาก และมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง
ในเรื่องของการแชร์ข้อมูลต่าง ๆ ที่มีแชร์ออกมาว่าจับได้แล้ว ได้หรือ แจ้งเบาะแสร์ว่าเป็นคนร้ายนั้น ขอให้ใช้ข้อมูลของทาง ตร.อย่าแชร์กันเองเพราะทำให้เกิดความสับสน โดยเฉพาะการลงใบหน้าคน และว่าเป็นคนร้ายนั้น ผู้ที่แชร์ จะมีความผิดอีกด้วย
ลักษณะของคนร้ายโดยเฉพาะท่าเดินที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเปลี่ยนแปลงยาก คนที่เห็นภาพจากกล้องวงจรปิด น่าจะมีคนที่ใกล้ชิดคนร้ายคงจะรู้แล้วว่าคนร้ายเป็นใคร และรถ จักรยานยนต์ ที่คนร้ายใช้นั้นในจังหวัดลพบุรีมีรถรุ่นนี้อยู่ประมาณ 400 คัน และมีการตรวจสืบข้อมูลจากร้านที่จำหน่าย ไปแล้วที่น่าสนใจ และจะตรวจสืบเข้มขึ้นอีก ประมาณ 100 คัน ร่วมทั้งประเดนต่างๆ ที่ตั้งไว้ เราไม่มีการตัดทิ้งโดยเฉพาะเรื่องชู้สาวนั้นก็ถือว่าเป็นประเด็นสำคัญเช่นกัน ในขณะนี้รางวัลนำจับสูงถึง 4 แสนบาทแล้ว
เวลาต่อมา ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์บัญชาการติดตามจับกุมคนร้ายจี้ชิงทอง ซึ่งหลังจากมีการประชุม พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. 1 ในหัวหน้าทีมสืบสวนจับกุมคนร้าย หลังจากมีประชุมได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในเรื่องของกระแสร์ที่ออกมาว่ามีการออกหมายจับกุมคนร้ายนั้นขอยืนยันว่ายังไม่มี ที่มาวันนี้ก็เพื่อที่จะมาติดตาม ความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้าย ของลูกน้องตามที่สั่งการไป
และขอยอมรับว่า ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แนวทางการติดตาม ก็ยังไม่ชัดเจน แต่ไม่ใช่ว่าจะปิดเส้นทางการสอบสวนของเรา ๆ ก็มีทางเดินที่จะไปถึงตัวคนร้ายได้ และเราก็กำลังพยายามอยู่ เราตระหนักในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราตระหนักถึงการสูญเสีย ของญาติผู้เสียหาย กับความรู้สึกพี่น้องประชาชน แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ ตร.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ และนอกพื้นที่ เขาก็อยากมามีส่วนร่วม เพราะพฤติกรรมของคนร้ายมันผิดปกติ ตำรวจชุดที่ทำงานมีความพร้อมอยู่ ทำงานแข่งกับเวลาอยู่แล้ว ถ้ามีความเคลื่อนไหวอย่างไร เราจะรีบแจ้งและดำเนินการทันที
"ส่วนตัวคนร้ายนั้นเรามีเส้นทางสืบสวนของเราอยู่แล้วอย่าให้ผมพูดเลย ประเด็นต่าง ๆ เราไม่ตัด การที่จะได้ตัวคนร้ายมาพยานหลักฐานเราต้องพร้อม ที่จะนำตัวผู้ต้องหาฟ้องศาลได้ ส่วนในเรื่อง ของผู้บังคับบัญชา ทั้งรองนายกฯ และนายกฯ ไม่ได้กดดันการทำงานของพวกเรา เพราะเราทำงานกันอย่างเต็มที
"ล่าสุดยืนยันว่ายังไม่มีการเรียกตัวผู้ที่จะเข้าข่ายมาทำการสอบสวนแต่อย่างใด การลงพื้นที่ต่าง ๆ ของชุดสืบสวนก็เป็นการทำตามประเด็น กับสิ่งที่ได้มาในที่เกิดเหตุเพื่อไปสืบทราบหาข้อยุติ ไม่อยากพูดอะไรมาก วอนขอประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสมา เพราะคนร้ายรายนี้อยู่ร่วมกับเราในสังคมไม่ได้ และเรายังไม่ได้ออกหมายจับใคร และการออกหมายจับหรือจะจับใคร ให้ฟังผม กับ รองสุชาติ และ ผบ.ตร.ออกมาแถลงข่าวเองเท่านั้น"พล.ต.อ.ชัยวัฒน์กล่าว