xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“ยูทูบเบอร์” ยืนหนึ่ง เขย่าบัลลังก์ “หมอ – ครู” อาชีพในฝันเด็กไทย ปี 63

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย”

นั่นคือคำขวัญวันเด็กประจำปี 2563 ที่ “ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมอบไว้

แต่ในยุคนี้สมัยนี้ “เด็กไทยยุคใหม่” ของ “ลุงตู่” มีความแตกต่างจากเด็กไทยยุคลุงตู่หรือยุคที่ผ่านๆ มาพอสมควร โดยเฉพาะ “อาชีพในฝัน” ที่แปรเปลี่ยนไปตามบริบทของแต่ละยุคสมัย ยิ่งอาชีพที่เกี่ยวข้อง “สื่อดิจิทัล” ยิ่งได้รับความนิยมสูงอย่าง ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ (Adecco) เผยผลสำรวจ “อาชีพในฝันของเด็กไทย” ครั้งที่ 11 ประจำปี 2563 ซึ่งทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างเด็กไทยอายุ 7 - 14 ปี จำนวน 4,050 คน จากทั่วทุกภูมิภาค พบมีความน่าสนใจหลายประการ

เด็กส่วนใหญ่ยังคงเทคะแนนให้อาชีพ “หมอ” เป็นอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล ส่วนอันดับสอง อาชีพ “ครู” ครองใจเด็กต่างจังหวัดอย่างล้นหลาม สะท้อนค่านิยมที่แตกต่างในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างดี ส่วนอันดับสาม อาชีพ “ยูทูบเบอร์” เรียกว่าเป็นอาชีพมาแรงแบบสุดๆ ส่วนอันดับสี่ อาชีพ “นักกีฬา” และอันดับห้า อาชีพ “ทหาร”

เทียบเคียงผลสำรวจของกลุ่มบริษัทอเด็คโก้ (Adecco) เรื่องอาชีพในฝันของเด็กไทย ปี 2562 พบว่า อาชีพในฝันของเด็กไทย ได้แก่ อันดับหนึ่ง หมอ, อันดับสอง ครู, อันดับสาม นักกีฬา, อันดับสี่ ทหาร, และอันดับห้า นักกีฬา E-Sport - นักแคสเกม

ขณะที่อาชีพในฝันของเด็กไทย ปี 2561 อับหนึ่ง หมอ, อันดับสอง ครู, อันดับ 3 ทหาร, อันดับ 4 นักธุรกิจ, อันดับห้า นักกีฬา และที่น่าสนใจ อาชีพ เน็ตไอดอล ติดอันดับที่ 14 รวมทั้ง ขายสินค้าออนไลน์ อยู่ในอันดับ 15

ส่วนอาชีพในฝันของเด็กไทย ปี 2560 อันดับหนึ่ง ครู, อันดับสอง หมอ (ตกลงมาหลังจากครองแชมป์ 7 ปี) อันดับสาม ทหาร, อันดับสี่ นักกีฬา และอันดับห้า ตำรวจ

ย้อนกลับไปช่วงปีแรกๆ กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ทำการสำรวจอาชีพในฝันของเด็กไทย ปี 2553 ซึ่งมีการสำรวจเป็นปีแรก พบอาชีพในฝันของเด็กๆ อันดับหนึ่ง หมอ, อันดับสอง ครู, อันดับสาม นักฟุตบอล, อันดับสี่ นักบิน, และอันดับห้า ตำรวจ

ขณะที่ อาชีพในฝันของเด็กไทย ปี 2554 พบว่า อันดับหนึ่ง หมอ, อันดับสอง วิศวกร, อันดับสาม นักบิน, อันดับสี่ นักธุรกิจ, อันดับห้า ทันตแพทย์ และ พ่อครัว ซึ่งเด็กๆ เทคะแนนให้เท่ากัน

กล่าวสำหรับ อาชีพในฝันของเด็กไทย” ปี 2563 จะเห็นว่า “ยูทูบเบอร์” มาแรงเป็นอันดับสาม ซึ่งเด็กๆ ให้ความเห็นว่าเป็นอาชีพที่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ สบาย มีอิสระ รายได้สูง มีชื่อเสียง และเชื่อว่าตัวเองมีทักษะความสามารถในการเข้าสู่ อาชีพ “ยูทูบเบอร์” ซึ่งหลายคนได้รับแรงมาจากยูทูบเบอร์และนักแคสเกมคนไทยที่ตนติดตามอยู่

ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ยูทูบเบอร์” กลายเป็นอาชีพหลักหลายคนในยุคนี้ ข้อมูลปี 2562 ระบุว่า ผู้เข้าใช้งานยูทูบกว่า 1,000 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก ในทุกๆ วัน มีผู้คนเข้าดูยูทูบมากกว่า 1,000 ล้านชั่วโมง และมีการดูนับ1,000 ล้านครั้ง

มีจำนวนช่องที่ทำรายได้ 6 หลักต่อปี บนยูทูบเพิ่มขึ้นมากกว่า 40%, จำนวนช่องที่ทำรายได้ 5 หลักต่อปี มากกว่า 50%, จำนวนช่องที่มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นมากกว่า 75% ฯลฯ เหล่านี้สะท้อนตัวเลขรายได้ของอาชีพยูทูบเบอร์ได้เป็นอย่างดี

ขณะที่อาชีพ “ทหาร” ดูเหมือนจะได้รับความสนใจจากเด็กไทยลดลงไปเป็นลำดับ

ในส่วน “ไอดอลยูทูบเบอร์” ที่เด็กไทยเทใจให้มากที่สุด คือ “เก๋ไก๋สไลเดอร์” สาววัย 23 ปี ที่มียอดผู้ติดตามมากที่สุดในไทยกว่า 11 ล้านคน โดยพวกเขาให้เหตุผลว่า มีความน่ารัก สดใส ตลก พูดเพราะ ทำคลิปสนุก มีประโยชน์

แน่นอนว่า ช่องยูทูบยอดนิยมอันดับหนึ่งขวัญใจเด็กไทย คือ “เก๋ไก๋สไลเดอร์” รองลงมาคือช่อง “Zbing Z.” “CGGG” และ “UDIE” ช่องแคสเกม ที่ได้อันดับ 2 อันดับ 3 และ อันดับ 4 ตามลำดับ ส่วนอันดับ 5 คือ “บี้เดอะสกา”

ผลสำรวจดังกล่าว เปิดเผยด้วยว่า เด็กไทยกว่า 93% ใช้ยูทูบเป็นอันหนึ่ง มากกว่าสื่อโซเชียลฯ อื่นๆ รองลงมาคือ เฟซบุ๊ก, ไลน์ และติ๊กตอก จึงไม่แปลกที่ยูทูบมีอิทธิพลต่อการเลือกอาชีพในฝันของเด็กๆ ในยุคนี้

ส่วนของขวัญวันเด็กที่เด็กไทยอยากได้มากที่สุดในปี 2563 คือ “สมาร์ทโฟน” คิดเป็น 25% ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด รองลงมาคือ “คอมพิวเตอร์”, “ตุ๊กตา”, “เงิน” และ “หนังสือ” ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ธิดารัตน์ กาญจนวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย เผยว่าผลสำรวจอาชีพในฝันของอเด็คโก้ ทำการสำรวจในกลุ่ม เด็กอายุ 7-14 ปี ซึ่งก็แบ่งได้เป็น 2 เจนเนอเรชัน คือ GEN Z และ Gen Alpha ซึ่งเป็นกลุ่มที่เติบโตมากับเทคโนโลยี คุ้นชินกับการใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต มาตั้งแต่เด็ก จึงไม่น่าแปลกใจว่าภาพรวมของคำตอบในปี 2563 เด็กๆ จะเห็นความเป็นดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น อาชีพยูทูบเบอร์ที่มาแรงขึ้นมาเป็นอันดับสามและมีแนวโน้มที่สูงขึ้นทุกปี หรือการที่เด็กเกือบครึ่งโพลล์เลือกยูทูบเบอร์เป็นไอดอลในดวงใจ รวมถึง พฤติกรรมของเด็กในยุคนี้ที่ชอบเล่นเกม สื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย ค้นหาความรู้ทางอินเทอร์เน็ต ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความเป็น Digital native ของเด็กไทยในปัจจุบัน

เกี่ยวกับกลุ่ม Gen Z และ Gen Alpha มาร์ค แม็คครินเดิล (Mark McCrindle) นักประชากรศาสตร์และนักวิจัยทางสังคม พยากรณ์ว่า Gen Alpha หรือเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี จะเป็นเจเนอเรชันที่ได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด และเป็น Gen ที่ฉลาดที่สุด และใช้เทคโนโลยีเก่งที่สุด เมื่อเทียบกับ Gen อื่นๆ ตอนมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน

ขณะที่ Gen Z หรือ ผู้ที่ปัจจุบันมีอายุตั้งแต่ 26 ปีลงไป งานวิจัยจากต่างประเทศรายงานว่า Gen Z จะก้าวเข้ามาเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญขององค์กร โดยจะมีสัดส่วน 27% ของแรงงานทั้งหมดภายในอีก 5 ปีข้างหน้า อีกทั้ง Gen Z มีแนวโน้มที่จะเลือกอาชีพที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงสังคมโลก ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงสนใจการเป็นผู้ประกอบการและทำอาชีพอิสระ ซึ่งเป็นมุมมองการเลือกอาชีพที่แตกต่างไปจากคนรุ่นก่อน เด็กในรุ่นนี้โตมากับอนาคตของโลกการทำงานที่เปลี่ยนไป หลายอาชีพจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ รวมทั้ง มีหลายอาชีพเกิดขึ้นใหม่ และอาชีพที่หายไป

ขณะที่ สภาที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน เปิดเผยผลคาดการณ์ถึง 10 อาชีพที่มีความเสี่ยงจะตกงานในปี 2563 ได้แก่ กลุ่มธุรกิจสื่อที่เป็นเอกสาร เพราะอนาคตพวกกระดาษเอกสาร จะไม่ถูกใช้อีกต่อไป, กลุ่มสื่อสารมวลชนทุกแขนง วิทยุ นิตยสาร โทรทัศน์ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และจะยิ่งอันตรายกับสื่อที่ยังไม่ยอมปรับตัว, กลุ่มโปรดักส์ที่ตกยุค เช่น CD หรือ VCD, กลุ่มอาชีพที่เกี่ยวกับสถาบันการเงิน พนักงานจำนวนมากจะตกงาน เพราะคนส่วนใหญ่หันไปใช้แอป, กลุ่มอาชีพขายประกันภัย, กลุ่มอาชีพขายตรง เพราะเดี๋ยวนี้คนหันไปขายกันบนออนไลน์หมดแล้ว, กลุ่มธุรกิจกลุ่มยานยนต์เครื่องยนต์สันดาป จากที่เคยใช้ชิ้นส่วนจำนวนมากจะหายไป ทำให้แรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนจะตกงานมากขึ้น, กลุ่มงานเคาน์เตอร์เซอร์วิส : จะถูกแทนที่ด้วยกลไกดิจิทัลแทนที่, กลุ่มอาชีพอาจารย์บางสาขา เพราะเดี๋ยวนี้มีการเรียนออนไลน์ และบางสาขาเด็กก็ไม่เลือกเรียนอีกต่อไปแล้ว และกลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเด็กจะหายไปจำนวนหนึ่ง เพราะเด็กเกิดใหม่น้อยลง และคนโสดมากขึ้น

สำหรับการก้าวเข้าสู่อาชีพในฝันของเด็กไทย ประการสำคัญ เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่จะช่วยกันพัฒนาศักยภาพเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะการใช้ชีวิตและทักษะทางสังคม ซึ่งเป็นทักษะที่หุ่นยนต์ไม่สามารถทดแทนได้ ต้องปลูกฝังค่านิยมการเรียนรู้ตลอด เพราะการเปิดรับความรู้ใหม่ๆ สำคัญกว่าใบปริญญา


กำลังโหลดความคิดเห็น