"โสภณ องค์การณ์"
ปีใหม่คนไทยอยากเห็น อยากได้อะไรใหม่ๆ ในชีวิต แม้การเมืองยังด้อยพัฒนาเหมือนเดิม ช่วงก่อนสิ้นปี ชาวบ้านยังได้รับการป้อนคำหวานจาก “คณะ 3 ลุง”โดยไม่รู้สึกเหนื่อย ทั้งยังให้คำมั่นอีกว่าจะอยู่อีกนาน ไม่ไปไหน จะขอทำงานเพื่อบ้านเมือง
เอาให้สุดใจขาดดิ้น สิ้นชีวี ไม่รบกวนใครให้มารักชาติเท่าคณะ 3 ลุง ขอเป็นผู้เสียสละ ชาวบ้านเบื่อก็ขอยอมตากหน้าทน ปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วง แม้ต้องใช้เวลานานอีก 20 ปีก็ต้องทำ ถ้าจะให้ซึ้ง ต้องบอกว่าให้นั่งรถคนพิการ นอนเปล ก็จะยอม
แค่นี้ก็มองเห็นหายนะอยู่รำไรแล้ว ความขยันแบบที่ฮิตเลอร์ไม่ชอบ คนมีสติปัญญาก็ไม่ชอบเช่นกัน และการผูกขาดความรักชาติเกินไปทำให้คนสงสัยว่านั่งทับของเสียอะไรไว้เยอะ ไม่อยากให้ชาวบ้านได้เห็น ได้รับรู้หรือไม่ ลีลาอย่างนี้คุ้นๆ เหลือเกิน
เราก็รู้ว่าปัญหาหลักในบ้านนี้เมืองนี้มีอย่างเดียวที่เป็นต้นตอของปัญหาอื่นๆ!
นั่นคือการทุจริต คอร์รัปชั่น กินคำโต กินเป็นระบบ กินอย่างไม่อาย ไร้จิตสำนึก แม้จะมาจากตำแหน่งแห่งหน ชาติตระกูลและคำอ้างว่ารักชาติอย่างไรก็ตาม อย่างที่มีคำพูดว่า “ถ้าประเทศไทยไม่มีการทุจริต จะปูถนนด้วยทองคำก็ยังได้”
ไม่เวอร์เกินไปหรอก เพราะถนนทำทีละสาย แต่ละสายทำครั้งละเมตรก็ได้ ที่ผ่านมาโกงกินถนน ทางด่วน ทางชนบท แทบทุกนิ้ว ถนนทุกสายมีชื่อว่า “สายคอร์รัปชัน”
เอาแค่ทางด่วน มอเตอร์เวย์ที่สร้างจวนเสร็จ บางปะอิน-โคราช และสายไปเมืองกาญจน์ รัฐใช้เงินภาษีประชาชน บวกเงินกู้หลายหมื่นล้าน สร้างถนนเป็นอย่างดี สายบางปะอิน-โคราช ถูกอ้างว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในประเทศไทย ผ่านธรรมชาติน่ามอง
แต่รัฐไม่มีปัญญาเก็บเงินเอง ต้องจ้างเอกชนให้ตั้งด่านเก็บเงินสบายๆ ปีละหลายพันล้านบาท แค่นี้ก็ชวนให้สงสัยอย่างแรงแล้วว่ามันต้องมีอะไรที่เกี่ยวโยงกับการทุจริต
จะไม่ให้ตลกร้ายได้อย่างไร มีเงินหลายหมื่นล้านบาทสร้างถนน ไม่มีปัญญาเก็บเงินเอง เอารายได้เข้าคลัง ดัน “เสือก” แบ่งให้เอกชนที่ไม่ได้ลงทุนออกเงินสร้างแม้แต่บาทเดียว ให้เป็นเสือนอนกิน และเป็นพวกที่มีความใกล้ชิดกับกลุ่มกุมอำนาจเสียด้วย
มันจะมีอะไรง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ให้คนนั่งประจำด่าน มีคนขับรถทยอย เอาเงินมาให้เป็นค่าผ่านทาง เหมือนธนาคารที่รอให้คนเอาเงินมาฝาก แต่นั่นยังเสียดอกเบี้ย เก็บเงินค่าผ่านทางเก็บแล้วได้เลย ไม่ต้องแบ่งใคร นอกจากเงินเดือนพนักงาน
จะไม่ให้สงสัยได้ไง ว่าต้องมีคนรับส่วนแบ่ง “เงินทอน” แหงๆ อัปยศสุดๆ!
ไม่มีคำอธิบายด้วยว่าทำไมถึงอับจนปัญญา หาวิธีเก็บเงินไม่ได้ ต้องให้สัมปทานกับเสือนอนกิน ทั้งๆ ที่เสือรับงานก็อ้วนจากการเอื้ออวยผลประโยชน์ จนรวยไม่รู้ว่าจะเก็บเงินไว้ที่ไหน ตามไล่นับความรวยไม่ทัน ชาวบ้านได้แต่ขมขื่นกับนโยบายสิ้นคิด
พูดถึงเรื่องสิ้นคิด ยุคนี้ถือว่าไม่แพ้ใคร เป็นสุดยอดของพฤติกรรม “พูดอย่าง ทำอย่าง” “ ปากว่าตาขยิบ” “2 มาตรฐาน” ถ้าไม่อายเสียอย่าง ทำได้ทุกอย่างจริงๆ
ล่าสุด มีการรณรงค์ให้เลิกใช้ถุงพลาสติก ลดขยะ ลดภาวะโลกร้อน แล้วแต่คำอ้างตามกระแส ตามก้นคนอื่น แต่น่าอนาถตรงที่ว่ายังให้นำเศษขยะพลาสติก ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ขยะพิษ เข้ามาถมแผ่นดิน มากกว่า 8 แสนตัน จะถึงล้านตันอยู่รอมมะร่อ
การทุจริตแบบเครือข่ายกว้างขวางจึงนำไปสู่การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้รักษากฎหมายทุกหน่วยงาน การวิ่งเต้น ทำให้กระบวนการยุติธรรมไร้ความน่าเชื่อถือ
ดังนั้นจึงให้มีการเปิดโรงงานแยกขยะอย่างไม่อั้น อ้างว่าเป็นการลงทุน ตัวเลขสวย ผู้นำประเทศเอาไปอ้างว่าเราดึงดูดนักลงทุนเข้ามา แต่ไม่บอกว่าเข้ามาพร้อมเศษขยะมหาศาล เราจึงมีทั้งขยะในประเทศที่เก็บกำจัดไม่หมด ให้เอาเข้ามาอีก ใครได้เศษเงิน?
ประเทศเพื่อนบ้านสั่งห้ามเข้าแล้ว เพราะผู้นำเขารักชาติ ห่วงใยแผ่นดิน มีแต่บ้านนี้เมืองนี้เหมือนผู้บริหารหูหนาตาเล่อ ไม่รับรู้ว่าโลกหมุนไปอย่างไร ยังให้นำเข้าขยะเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำเอาซาเล้ง ค้าขยะแทบล้มละลาย เพราะสู้ไม่ไหว
ถือว่าเป็นคณะบริหารชุดเดียวที่ทำให้ซาเล้งล้มละลายได้ ส่วนขอทานขาดทุนจนล้มละลาย หนีกลับบ้านเกิดเมืองนอนไปนานแล้ว เมืองไทยพูดได้ว่าขอทานสูญพันธุ์
ที่น่าสมเพชเวทนาก็คือนโยบาย “อีอีซี” ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ประกาศครึกโครมว่าจะมีโครงการใช้เทคโนโลยีสูง ที่ไหนได้ มีข่าวว่าโรงงานแยกขยะแห่กันมาตั้ง นักลงทุนมาจากจีนก็เยอะ แข่งกันขนขยะพิษมาทิ้งในประเทศหลายแสนตัน
ที่เขากลัวมากก็คือ ขยะที่เข้ามานั้น เอามาแยกเป็นส่วนน้อย แต่เอามาทิ้งเป็นส่วนใหญ่ เป็นความแยบยล ถ้าเป็นของดี เขาจะเอาเข้ามาทิ้งในแผ่นดินไทย หมูสยามทำไม
นี่ไม่ใช่นโยบายโง่ โลภระดับธรรมดา แต่บัดซบมาก เกินบรรยาย!
พื้นที่อีอีซี เป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่เอาขยะพิษกลิ่นเหม็นๆ มากองสุม ถ้าไม่ใช่เป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ ทำลายแหล่งเงินจากการท่องเที่ยว จะให้เรียกว่าอะไรมิทราบ และนี่เป็นพฤติกรรม “ชังชาติ” ของแท้จากการทุจริต ทำลายแผ่นดินเกิด
เดี๋ยวนี้โรงงานแยกขยะให้ตั้งได้อย่างเสรี หลายพื้นที่ ภาคตะวันออก ทั้งสระแก้ว จังหวัดภาคอีสาน ภาคใต้ รวมทั้ง 3 จังหวัดชายฝั่งทะเล ชื่อเริ่มต้นด้วย “สมุทร...”
คณะ 3 ลุงให้แปรสภาพประเทศไทยให้เป็นที่ทิ้งขยะจากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก
ยังเป็นอย่างนี้ จะปล่อยให้ขยะเข้ามาอีกกี่ล้านตัน สิ้นคิด ไม่มีใครรู้จักอาย ไม่รู้สำนึก รับผิดชอบ รักแผ่นดิน เพราะคนกุมอำนาจรัฐทุกระดับถูกมองว่าหิวเงินเหลือเกิน
ยังดีที่นโยบายแจกหมอนไม่ได้เริ่ม ไม่อย่างนั้นต้องแจกเสื่อด้วย คนจนหมดประเทศอย่างที่ประกาศไว้จริงๆ เหลือแต่พวกมี “เสื่อผืน หมอนใบ” สิ้นไร้ไม้ตอก
พูดได้เต็มปากว่าเป็นคณะบริหารที่อำมหิต เลือดเย็นมาก ปล่อยให้ประชาชนเสี่ยงกับสารพิษเคมีเกษตรเพราะห่วงพ่อค้าว่าจะไม่มีเงินซื้อข้าวกินเพราะสต็อกสารพิษยังค้างอยู่กว่า 2 หมื่นตัน แต่คนรู้ทันมองว่ามีเงินผ่านมือก้อนใหญ่ เรื่องคนป่วยตายเป็นเรื่องเล็ก
เลิกโม้ เลิกจ้อได้แล้ว ถ้ายังไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ระวังพวก “วิ่งไล่ลุง” และพวกเบื่อหน่ายกับพวกกะล่อน ตีสองหน้า ตีกิน รักชาติจนรวย จะออกมาขอดูว่าวิ่งกันที่ไหนด้วย
กฎหมายห้ามการชุมนุมนะเรอะ ถึงวันนั้น ไม่มีใครกลัวใครแล้ว!
