ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ควันหลง"มง"ไม่ลง"น้องฟ้าใส" คนสมองใส "พิชัย นริพทะพันธุ์"ว่าต้องโทษเผด็จการ!ทำน้องสับสน แต่ผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงมองสาวไทยตอบดีแล้ว
การประกวดมิสยูนิเวิร์สจบแต่คนไม่จบ จากที่ "ฟ้าใส" เจนนิเฟอร์ ปวีณสุดา ดรูอิ้น สาวไทยที่ฝ่าด่านนางงามชาติต่างๆ เข้ารอบ5คนสุดท้าย แต่พลาด "มง"ไม่ลงไปอย่างน่าเสียดาย
โดยเฉพาะช่วง "คำถาม-คำตอบ" ที่ว่ากันว่าเป็น "ไฮไลต์"ชี้ขาดได้กลายเป็น"ประเด็น" ที่ฝ่ายแค้นพยายามเชื่อมโยงให้เป็น "ประเด็นการเมือง"กับ "รัฐบาลลุงตู่"
หนึ่งในจำนวนนี้ก็มี "ขาประจำ" ฉายาคนสมองใสอย่าง "พิชัย นริพทะพันธุ์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ไม่ยอมตกขบวน
ได้ทวีตในทวิตเตอร์ @pichailiveว่า ที่"น้องฟ้าใส" ขวัญใจชาวไทยตกรอบพลาดมง ก็เพราะ "รัฐบาลเผด็จการ"
"ต้องโทษเผด็จการ ! เสียดายแทนฟ้าใส ที่พลาดตำแหน่งไปอย่างน่าเสียดาย ผมไม่โทษฟ้าใสที่ตอบอย่างที่ตอบ ที่อาจจะทำให้พลาดตำแหน่ง ผมโทษเผด็จการที่ครอบงำประเทศนานเกินไป และยังสืบทอดอำนาจกันต่อ จึงทำให้คนรุ่นใหม่ที่ต้องอยู่ในสภาพกดดัน ทำให้สับสนได้ ขอให้กำลังใจครับ #ฟ้าใส #ความผิดเผด็จการ
ประเทศที่เจริญแล้วความเป็นส่วนตัวของประชาชนสำคัญที่สุด ในขณะที่ในประเทศนี้ความมั่นคงของประเทศ และความมั่นคงของรัฐบาลและผู้นำ ถูกนำมาปนกันจนหาความจริงไม่ได้ ขนาดผมวิจารณ์เศรษฐกิจ แล้วเศรษฐกิจแย่จริง ก็ยังถูกเรียกซึ่งเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว #ปรับทัศนคติ #ละเมิดความเป็นส่วนตัว"
"พิชัย" อาจจะลืมไปว่าทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะสมัยยิ่งลักษณ์ หรือสมัยทักษิณ บนเวทีการประกวดนางงามและคำถาม-คำตอบ ก็เป็นแบบนี้เอง
วันนั้น"น้องฟ้าใส" ตอบคำถามให้เลือกระหว่าง "Privacy"ความเป็นส่วนตัว กับ"Security"ความมั่นคงว่า...
"ฉันเชื่อว่าทุกๆประเทศนั้น รัฐบาลจะมีมาตรการหรือนโยบายที่จะรักษาความปลอดภัยของพวกเรา และฉันก็ยังเชื่อมั่นว่าความปลอดภัยนี้ไม่ควรข้ามเส้นของความเป็นส่วนตัว เพราะว่าเราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของเราเอง...อย่างไรก็ตาม ความมั่นคงนั้นก็จำเป็น และสำคัญ ดังนั้นฉันจึงเชื่อมั่นว่าการที่เราทุกคนจะสามารถอยู่ในสังคมที่ดีขึ้นได้นั้น รัฐบาลควรจะพิจารณาเรื่องของขอบเขตของความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงให้พอเหมาะพอดี เพื่อความสงบสุขของสังคม"
ในมุมของ"พิชัย" เพราะมัวมุ่งทำหน้าที่ฝ่ายแค้นเกินไปหรือไม่ ตรรกะเลยดูงงๆ งวยๆ ...เอา"มง"ไปเลย
แต่ถ้าไปถามมุมของผู้เชี่ยวชาญ อย่าง"Dr.Denny Roy" , senior Fellow, Research Program , adviser to East-West Center ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านความมั่นคง สหรัฐฯ ซึ่งเพจ"วาสนา นาน่วม" โพสต์ไว้ก็จะได้คำตอบอีกแบบที่น่าคิด
ผู้เชี่ยวชาญ ด้านความมั่นคง สหรัฐฯ มองว่าคำตอบ"ฟ้าใส" บนเวทีประกวด Miss Universe ตอบได้เหมาะสมแล้ว เพราะ คำถามให้เลือก ระหว่าง "Privacy"ความเป็นส่วนตัว กับ "Security"ความมั่นคง เป็นประเด็นที่ยากจะตอบ หรือเลือกไป ข้างใดข้างหนี่ง และอาจทำให้นางงามมีปัญหาในประเทศของตัวเอง
คำถามที่เกี่ยวกับการเมือง ถือเป็นคำถามที่ไม่เหมาะที่จะมาถามบนเวทีนางงาม และมองว่าตอบกลางๆดีแล้ว ทั้งเรื่องสิทธิส่วนตัวและความมั่นคงของประเทศ
"น้องฟ้าใส" จะเดินทางกลับมาถึงไทยวันที่ 12ธ.ค.นี้ เชื่อว่าจะมีกองเชียร์และผู้คนไม่น้อยไปรอรับให้กำลังใจกันแน่นสุวรรณภูมิ
"มง" จะลงหรือไม่ลง ชั่วโมงนี้ไม่นับเป็นอย่างไรได้ เพราะแน่ๆ"น้องฟ้าใส" ก็กลายเป็นขวัญใจคนไทย หรือจะเป็นทั้งเอเชียในฐานะไปสร้างชื่อในเวทีโลกให้ได้ภาคภูมิใจกัน
เอาเป็นว่างานนี้ เวทีสวยๆ งามๆ การเมืองแบบฉกฉวย โอกาสมองทุกอย่างดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามไม่ลืมหูลืมตา ลดๆ ลงบ้างก็น่าจะดี
ฟ้าจะได้ใส สดสวยเหมือน"ฟ้าใส" !
** ประชาธิปัตย์ เจอทั้งศึกนอก ศึกใน เลือดไหล แผลเหวอะ หากยังแก้ปัญหาไม่ตก ปรับจูนกันไม่ลงตัวก็น่าเป็นห่วง ทั้งอนาคตอันใกล้ และการเลือกตั้งครั้งหน้า
สถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ เรียกได้ว่า"ระส่ำระสาย"อย่างหนัก ทั้งปัญหานอกพรรค ในพรรค พัวพันกันยุ่งอีนุงตุงนังจนน่าเป็นห่วง
เรื่องนอกพรรคก็คงเป็นเรื่อง"ระหองระแหง" กับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ เมื่อ 6 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ "โหวตสวน" มติวิปรัฐบาลจนแพ้ฝ่ายค้านไปในรอบแรกของการลงมติ ตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาปัญหาการใช้ ม.44 และเมื่อมีการโหวตครั้งที่ 2 ด้วยการขานชื่อทีละคน แม้คราวนี้รัฐบาลจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ก็ยังมี 4 ส.ส.ประชาธิปัตย์ "เทพไท เสนพงศ์, สาทิตย์ วงศ์หนองเตย, พนิต วิกิตเศรษฐ์ และอันวาร์ สาและ" ที่ทำตัวเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล โหวตสวนเหมือนเดิม โดยอ้าง "อุดมการณ์"
สร้างความไม่พอใจให้กับ "บิ๊กทำเนียบฯ" จนมีกระแสข่าวปรับครม.ออกมาปรามพรรคประชาธิปัตย์...แม้ในเร็ววันนี้อาจจะยังไม่มีการปรับพรรคประชาธิปัตย์ออกไป แต่ในอนาคต ก็ไม่แน่ ...โดยเฉพาะยังมีศึกใหญ่เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรออยู่ข้างหน้า ดังนั้นแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ต้องกลับไปวางมาตรการคุมลูกพรรคให้อยู่ในแถวให้ได้...
แต่สภาพภายในพรรค ก็เป็นที่รับรู้กันว่ามีการแบ่งข้าง แบ่งฝ่ายกันอยู่ ตั้งแต่ช่วงก่อนการเลือกตั้ง โดยสาย"อำนาจเก่า" มีจุดยืนคัดค้านการสืบทอดอำนาจของคสช. แต่สาย"ลุงกำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ หนุน"ลุงตู่" เป็นนายกฯตั้งแต่ไก่โห่ ... เมื่อมาถึงโค้งสุดท้ายก่อนหย่อนบัตร "อภิสทธิ์" ประกาศชัด "ไม่เอาลุงตู่" ทำเอา ส.ส.กรุงเทพฯถึงกับสูญพันธุ์ ส.ส.ทั้งพรรคมีแค่ครึ่งร้อย ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเดินเกมผิดพลาด จน "อภิสิทธิ์" ต้องวางมือจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และลาออกจากส.ส.ไป
เมื่อมาถึงการเลือกหัวหน้าพรรค แม้ "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" ซึ่งเป็นตัวตาย ตัวแทนของอภิสิทธิ์ จะเอาชนะ "หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม" คนในสาย "ลุงกำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ ไปได้ และสามารถเข้าร่วมรัฐบาลได้ แต่ก็ไมได้ทำให้สถานการณ์ภายในพรรคดีขึ้น
ความไม่เป็นเอกภาพภายในพรรค ยังส่งผลออกมาให้เห็นถึง"ความไม่มั่นคง"ของรัฐบาลซึ่งมีเสียงปริ่มน้ำอยู่แล้ว ...โดยเฉพาะบทบาทของ "เทพไท เสนพงศ์" ที่ทำตัวเหมือนนายหนังตะลุง "น้องเดียว" ที่ไลฟ์สดผ่านโซเชียลฯรายวัน แสดงความเห็นสวนทางแบบจี้ใจดำรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ตั้งกมธ.เช็กบิล ม.44 การเร่งรัดให้มีการแก้ไขรธน. ลามไปวิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล จนในที่สุดก็ถึงกับ "โหวตสวน" มติพรรค
ทำเอา "เสี่ยจ้อน" อลงกรณ์ พลบุตร ที่อยู่ในสายหนุนลุงตู่ ออกมาเปิดศึกกับ "เทพไท" ผ่านทางโซเชียลฯ โดยย้ำว่าพรรคจะต้องมีมาตรการลงโทษทางวินัยต่อส.ส. ที่ไม่ทำตามมติพรรคอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่ปล่อยให้ลอยนวลอยู่อย่างนี้ ...ขณะที่ "เทพไท" ก็โพสต์สวนกลับไปว่า เขาได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะส.ส.ประชาธิปัตย์ เป็นผู้เสนอญัตตินี้ จะเอามติวิปรัฐบาล มาบังคับไม่ได้ ...ก็เลยเกิดการโต้เถียงกันต่อ จนถึงขั้นที่ "เสี่ยจ้อน" ท้าให้ "เทพไท"ไปเจอกันที่พรรคได้
นอกจากนี้ สถานการณ์ในพรรคเริ่มมีอาการ"เลือดไหล" เมื่อ"หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม" ลาออกไปสังกัดพรรค"ลุงกำนัน" ตามมาด้วย "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" ที่ตัดใจยอมทิ้งตำแหน่งส.ส.บัญชีรายชื่อ ลาออกไปอีกคนโดยยังไม่แน่ชัดว่า จะไปเข้าพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคลุงกำนัน และมีการคาดหมายว่าจะมีสมาชิกอีกจำนวนหนึ่งลาออกตามไปด้วย
ล่าสุดยังมีข่าวปล่อยออกมาว่า "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" รมว.เกษตรฯ ที่เป็นเลขาธิการพรรคก็จะ "ไขก๊อก" อีกคน เพราะเบื่อหน่าย เครียดจากปัญหาภายในพรรค และปัญหาสุขภาพ ...ทำเอาเจ้าตัวต้องรีบออกมาสยบข่าวลือทันควัน ว่าสุขภาพยังฟิต ใจยังสู้
"ไม่ต้องกังวลว่าผมจะถอดใจ คนอย่างผมถ้าตัดสินใจทำอะไรแล้ว เต็มร้อยทุกเรื่อง เพราะประชาธิปัตย์คือบ้านของผม และอยากให้ทุกคนเดินไปกับผม ให้เป็นหนึ่งเดียว จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันเดินไปพร้อมๆ กัน ด้วยความเป็นหนึ่งเดียว นี่คือจุดแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเป็นจุดที่จะฟื้นพรรคกลับคืนมาได้"
สิ่งที่"เฉลิมชัย"บอกนั้น นอกจากยืนยันว่าสุขภาพยังดี ใจเต็มร้อยแล้ว ยังยอมรับว่าขณะนี้พรรคไม่มีเอกภาพ!!
ว่ากันว่า สิ่งที่ส.ส. และพรรคการเมือง ทุกคน ทุกพรรค คิดอยู่ตลอดเวลาก็คือ ...หลังการเลือกตั้งนอกจากการได้เป็นรัฐบาลแล้ว ก็จะคิดถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่...ถ้าประชาธิปัตย์ยังอยู่กับสถานการณ์อย่างทุกวันนี้ คาดการณ์ล่วงหน้าได้เลยว่า เลือกตั้งครั้งต่อไป ผลจะออกมาอย่างไร !!
-------
รูป -- "ฟ้าใส" เจนนิเฟอร์ ปวีณสุดา ดรูอิ้น - พิชัย นริพทะพันธุ์
-เทพไท เสนพงศ์ – อลงกรณ์ พลบุตร – พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค – เฉลิมชัย ศรีอ่อน
**ควันหลง"มง"ไม่ลง"น้องฟ้าใส" คนสมองใส "พิชัย นริพทะพันธุ์"ว่าต้องโทษเผด็จการ!ทำน้องสับสน แต่ผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงมองสาวไทยตอบดีแล้ว
การประกวดมิสยูนิเวิร์สจบแต่คนไม่จบ จากที่ "ฟ้าใส" เจนนิเฟอร์ ปวีณสุดา ดรูอิ้น สาวไทยที่ฝ่าด่านนางงามชาติต่างๆ เข้ารอบ5คนสุดท้าย แต่พลาด "มง"ไม่ลงไปอย่างน่าเสียดาย
โดยเฉพาะช่วง "คำถาม-คำตอบ" ที่ว่ากันว่าเป็น "ไฮไลต์"ชี้ขาดได้กลายเป็น"ประเด็น" ที่ฝ่ายแค้นพยายามเชื่อมโยงให้เป็น "ประเด็นการเมือง"กับ "รัฐบาลลุงตู่"
หนึ่งในจำนวนนี้ก็มี "ขาประจำ" ฉายาคนสมองใสอย่าง "พิชัย นริพทะพันธุ์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ไม่ยอมตกขบวน
ได้ทวีตในทวิตเตอร์ @pichailiveว่า ที่"น้องฟ้าใส" ขวัญใจชาวไทยตกรอบพลาดมง ก็เพราะ "รัฐบาลเผด็จการ"
"ต้องโทษเผด็จการ ! เสียดายแทนฟ้าใส ที่พลาดตำแหน่งไปอย่างน่าเสียดาย ผมไม่โทษฟ้าใสที่ตอบอย่างที่ตอบ ที่อาจจะทำให้พลาดตำแหน่ง ผมโทษเผด็จการที่ครอบงำประเทศนานเกินไป และยังสืบทอดอำนาจกันต่อ จึงทำให้คนรุ่นใหม่ที่ต้องอยู่ในสภาพกดดัน ทำให้สับสนได้ ขอให้กำลังใจครับ #ฟ้าใส #ความผิดเผด็จการ
ประเทศที่เจริญแล้วความเป็นส่วนตัวของประชาชนสำคัญที่สุด ในขณะที่ในประเทศนี้ความมั่นคงของประเทศ และความมั่นคงของรัฐบาลและผู้นำ ถูกนำมาปนกันจนหาความจริงไม่ได้ ขนาดผมวิจารณ์เศรษฐกิจ แล้วเศรษฐกิจแย่จริง ก็ยังถูกเรียกซึ่งเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว #ปรับทัศนคติ #ละเมิดความเป็นส่วนตัว"
"พิชัย" อาจจะลืมไปว่าทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะสมัยยิ่งลักษณ์ หรือสมัยทักษิณ บนเวทีการประกวดนางงามและคำถาม-คำตอบ ก็เป็นแบบนี้เอง
วันนั้น"น้องฟ้าใส" ตอบคำถามให้เลือกระหว่าง "Privacy"ความเป็นส่วนตัว กับ"Security"ความมั่นคงว่า...
"ฉันเชื่อว่าทุกๆประเทศนั้น รัฐบาลจะมีมาตรการหรือนโยบายที่จะรักษาความปลอดภัยของพวกเรา และฉันก็ยังเชื่อมั่นว่าความปลอดภัยนี้ไม่ควรข้ามเส้นของความเป็นส่วนตัว เพราะว่าเราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของเราเอง...อย่างไรก็ตาม ความมั่นคงนั้นก็จำเป็น และสำคัญ ดังนั้นฉันจึงเชื่อมั่นว่าการที่เราทุกคนจะสามารถอยู่ในสังคมที่ดีขึ้นได้นั้น รัฐบาลควรจะพิจารณาเรื่องของขอบเขตของความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงให้พอเหมาะพอดี เพื่อความสงบสุขของสังคม"
ในมุมของ"พิชัย" เพราะมัวมุ่งทำหน้าที่ฝ่ายแค้นเกินไปหรือไม่ ตรรกะเลยดูงงๆ งวยๆ ...เอา"มง"ไปเลย
แต่ถ้าไปถามมุมของผู้เชี่ยวชาญ อย่าง"Dr.Denny Roy" , senior Fellow, Research Program , adviser to East-West Center ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านความมั่นคง สหรัฐฯ ซึ่งเพจ"วาสนา นาน่วม" โพสต์ไว้ก็จะได้คำตอบอีกแบบที่น่าคิด
ผู้เชี่ยวชาญ ด้านความมั่นคง สหรัฐฯ มองว่าคำตอบ"ฟ้าใส" บนเวทีประกวด Miss Universe ตอบได้เหมาะสมแล้ว เพราะ คำถามให้เลือก ระหว่าง "Privacy"ความเป็นส่วนตัว กับ "Security"ความมั่นคง เป็นประเด็นที่ยากจะตอบ หรือเลือกไป ข้างใดข้างหนี่ง และอาจทำให้นางงามมีปัญหาในประเทศของตัวเอง
คำถามที่เกี่ยวกับการเมือง ถือเป็นคำถามที่ไม่เหมาะที่จะมาถามบนเวทีนางงาม และมองว่าตอบกลางๆดีแล้ว ทั้งเรื่องสิทธิส่วนตัวและความมั่นคงของประเทศ
"น้องฟ้าใส" จะเดินทางกลับมาถึงไทยวันที่ 12ธ.ค.นี้ เชื่อว่าจะมีกองเชียร์และผู้คนไม่น้อยไปรอรับให้กำลังใจกันแน่นสุวรรณภูมิ
"มง" จะลงหรือไม่ลง ชั่วโมงนี้ไม่นับเป็นอย่างไรได้ เพราะแน่ๆ"น้องฟ้าใส" ก็กลายเป็นขวัญใจคนไทย หรือจะเป็นทั้งเอเชียในฐานะไปสร้างชื่อในเวทีโลกให้ได้ภาคภูมิใจกัน
เอาเป็นว่างานนี้ เวทีสวยๆ งามๆ การเมืองแบบฉกฉวย โอกาสมองทุกอย่างดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามไม่ลืมหูลืมตา ลดๆ ลงบ้างก็น่าจะดี
ฟ้าจะได้ใส สดสวยเหมือน"ฟ้าใส" !
** ประชาธิปัตย์ เจอทั้งศึกนอก ศึกใน เลือดไหล แผลเหวอะ หากยังแก้ปัญหาไม่ตก ปรับจูนกันไม่ลงตัวก็น่าเป็นห่วง ทั้งอนาคตอันใกล้ และการเลือกตั้งครั้งหน้า
สถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ เรียกได้ว่า"ระส่ำระสาย"อย่างหนัก ทั้งปัญหานอกพรรค ในพรรค พัวพันกันยุ่งอีนุงตุงนังจนน่าเป็นห่วง
เรื่องนอกพรรคก็คงเป็นเรื่อง"ระหองระแหง" กับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ เมื่อ 6 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ "โหวตสวน" มติวิปรัฐบาลจนแพ้ฝ่ายค้านไปในรอบแรกของการลงมติ ตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาปัญหาการใช้ ม.44 และเมื่อมีการโหวตครั้งที่ 2 ด้วยการขานชื่อทีละคน แม้คราวนี้รัฐบาลจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ก็ยังมี 4 ส.ส.ประชาธิปัตย์ "เทพไท เสนพงศ์, สาทิตย์ วงศ์หนองเตย, พนิต วิกิตเศรษฐ์ และอันวาร์ สาและ" ที่ทำตัวเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล โหวตสวนเหมือนเดิม โดยอ้าง "อุดมการณ์"
สร้างความไม่พอใจให้กับ "บิ๊กทำเนียบฯ" จนมีกระแสข่าวปรับครม.ออกมาปรามพรรคประชาธิปัตย์...แม้ในเร็ววันนี้อาจจะยังไม่มีการปรับพรรคประชาธิปัตย์ออกไป แต่ในอนาคต ก็ไม่แน่ ...โดยเฉพาะยังมีศึกใหญ่เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรออยู่ข้างหน้า ดังนั้นแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ต้องกลับไปวางมาตรการคุมลูกพรรคให้อยู่ในแถวให้ได้...
แต่สภาพภายในพรรค ก็เป็นที่รับรู้กันว่ามีการแบ่งข้าง แบ่งฝ่ายกันอยู่ ตั้งแต่ช่วงก่อนการเลือกตั้ง โดยสาย"อำนาจเก่า" มีจุดยืนคัดค้านการสืบทอดอำนาจของคสช. แต่สาย"ลุงกำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ หนุน"ลุงตู่" เป็นนายกฯตั้งแต่ไก่โห่ ... เมื่อมาถึงโค้งสุดท้ายก่อนหย่อนบัตร "อภิสทธิ์" ประกาศชัด "ไม่เอาลุงตู่" ทำเอา ส.ส.กรุงเทพฯถึงกับสูญพันธุ์ ส.ส.ทั้งพรรคมีแค่ครึ่งร้อย ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเดินเกมผิดพลาด จน "อภิสิทธิ์" ต้องวางมือจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และลาออกจากส.ส.ไป
เมื่อมาถึงการเลือกหัวหน้าพรรค แม้ "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" ซึ่งเป็นตัวตาย ตัวแทนของอภิสิทธิ์ จะเอาชนะ "หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม" คนในสาย "ลุงกำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ ไปได้ และสามารถเข้าร่วมรัฐบาลได้ แต่ก็ไมได้ทำให้สถานการณ์ภายในพรรคดีขึ้น
ความไม่เป็นเอกภาพภายในพรรค ยังส่งผลออกมาให้เห็นถึง"ความไม่มั่นคง"ของรัฐบาลซึ่งมีเสียงปริ่มน้ำอยู่แล้ว ...โดยเฉพาะบทบาทของ "เทพไท เสนพงศ์" ที่ทำตัวเหมือนนายหนังตะลุง "น้องเดียว" ที่ไลฟ์สดผ่านโซเชียลฯรายวัน แสดงความเห็นสวนทางแบบจี้ใจดำรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ตั้งกมธ.เช็กบิล ม.44 การเร่งรัดให้มีการแก้ไขรธน. ลามไปวิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล จนในที่สุดก็ถึงกับ "โหวตสวน" มติพรรค
ทำเอา "เสี่ยจ้อน" อลงกรณ์ พลบุตร ที่อยู่ในสายหนุนลุงตู่ ออกมาเปิดศึกกับ "เทพไท" ผ่านทางโซเชียลฯ โดยย้ำว่าพรรคจะต้องมีมาตรการลงโทษทางวินัยต่อส.ส. ที่ไม่ทำตามมติพรรคอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่ปล่อยให้ลอยนวลอยู่อย่างนี้ ...ขณะที่ "เทพไท" ก็โพสต์สวนกลับไปว่า เขาได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะส.ส.ประชาธิปัตย์ เป็นผู้เสนอญัตตินี้ จะเอามติวิปรัฐบาล มาบังคับไม่ได้ ...ก็เลยเกิดการโต้เถียงกันต่อ จนถึงขั้นที่ "เสี่ยจ้อน" ท้าให้ "เทพไท"ไปเจอกันที่พรรคได้
นอกจากนี้ สถานการณ์ในพรรคเริ่มมีอาการ"เลือดไหล" เมื่อ"หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม" ลาออกไปสังกัดพรรค"ลุงกำนัน" ตามมาด้วย "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" ที่ตัดใจยอมทิ้งตำแหน่งส.ส.บัญชีรายชื่อ ลาออกไปอีกคนโดยยังไม่แน่ชัดว่า จะไปเข้าพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคลุงกำนัน และมีการคาดหมายว่าจะมีสมาชิกอีกจำนวนหนึ่งลาออกตามไปด้วย
ล่าสุดยังมีข่าวปล่อยออกมาว่า "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" รมว.เกษตรฯ ที่เป็นเลขาธิการพรรคก็จะ "ไขก๊อก" อีกคน เพราะเบื่อหน่าย เครียดจากปัญหาภายในพรรค และปัญหาสุขภาพ ...ทำเอาเจ้าตัวต้องรีบออกมาสยบข่าวลือทันควัน ว่าสุขภาพยังฟิต ใจยังสู้
"ไม่ต้องกังวลว่าผมจะถอดใจ คนอย่างผมถ้าตัดสินใจทำอะไรแล้ว เต็มร้อยทุกเรื่อง เพราะประชาธิปัตย์คือบ้านของผม และอยากให้ทุกคนเดินไปกับผม ให้เป็นหนึ่งเดียว จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันเดินไปพร้อมๆ กัน ด้วยความเป็นหนึ่งเดียว นี่คือจุดแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเป็นจุดที่จะฟื้นพรรคกลับคืนมาได้"
สิ่งที่"เฉลิมชัย"บอกนั้น นอกจากยืนยันว่าสุขภาพยังดี ใจเต็มร้อยแล้ว ยังยอมรับว่าขณะนี้พรรคไม่มีเอกภาพ!!
ว่ากันว่า สิ่งที่ส.ส. และพรรคการเมือง ทุกคน ทุกพรรค คิดอยู่ตลอดเวลาก็คือ ...หลังการเลือกตั้งนอกจากการได้เป็นรัฐบาลแล้ว ก็จะคิดถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่...ถ้าประชาธิปัตย์ยังอยู่กับสถานการณ์อย่างทุกวันนี้ คาดการณ์ล่วงหน้าได้เลยว่า เลือกตั้งครั้งต่อไป ผลจะออกมาอย่างไร !!
-------
รูป -- "ฟ้าใส" เจนนิเฟอร์ ปวีณสุดา ดรูอิ้น - พิชัย นริพทะพันธุ์
-เทพไท เสนพงศ์ – อลงกรณ์ พลบุตร – พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค – เฉลิมชัย ศรีอ่อน