ผู้จัดการรายวัน 360 - ธ.ก.ส. เตรียมเสนอ ครม. อนุมัติโครงการสินเชื่อค้ำประกันรายได้ชาวนาวงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาท วันนี้ (11 ธ.ค.) ช่วยชาวนาชะลอเวลาขายข้าว แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ยันจ่ายเงินประกันรายได้เกษตรกรที่ปลูกข้าว ยางพารา น้ำมันปาล์ม และมันสำปะหลัง แล้ว 5 หมื่นล้านบาท
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ในวันนี้ (11) ธ.ก.ส. เตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการสินเชื่อเพื่อดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าววงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาท ผ่าน 3 โครงการคือ 1. โครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวปี 2562/2563 วงเงินรวม 26,000 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวรวม 4.57 ล้านครัวเรือน
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้กำหนดเงื่อนไขให้ความช่วยเหลือ 500 บาทต่อไร่ โดยความช่วยเหลือในแต่ละครัวเรือนนั้น ธ.ก.ส. ได้กำหนดไว้ไม่เกิน 20 ไร่ อีกทั้ง ต้องไม่ใช่เกษตรกรที่เคยประสบปัญหาภัยแล้งและเคยได้รับการช่วยเหลือไปแล้ว 1.9 ล้านไร่
โครงการที่ 2 การให้สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี 2562/2563 รวม 1 ล้านตัน โดยมีวงเงินสินเชื่อรวมอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ส่วนเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือกำหนดไว้ที่ไร่ละ 1,500 บาท ทั้งนี้ สินเชื่อดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรกรชะลอการขายข้าวออกสู่ตลาดเพื่อลดปัญหาราคาข้าวตกต่ำในช่วงฤดูการผลิต สำหรับเกษตรกรส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการฯ จะเป็นเกษตรกรจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โครงการที่ 3 การให้สินเชื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร และวิสาหกิจชุมชน โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อรวมไว้ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี และกำหนดระยะเวลาผ่อนชำระคืนไม่เกิน 15 เดือน
สินเชื่อทั้ง 3 โครงการนี้ จะใช้เงินของ ธ.ก.ส. ดำเนินการ โดยรัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายเงินชดเชยให้ ธ.ก.ส.
สำหรับความคืบหน้าในการจ่ายเงินประกันรายได้เกษตรกรที่ปลูกข้าว ยางพารา น้ำมันปาล์ม และมันสำปะหลังนั้น ได้จ่ายเงินไปแล้ว 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินในของโครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตผู้ปลูกข้าวนาปี 2562/2563 จำนวน 23,000 ล้านบาท และอีก 27,000 ล้านบาทสำหรับโครงการประกันรายได้พืชทั้ง 4 ชนิด โดยวงเงินรวมในการประกันรายได้เกษตรกรที่ต้องใช้นั้น คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติไปแล้วรวม 82,000 ล้านบาท
ธนาคารฯ พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด หากคณะรัฐมนตรีจะมีมติให้ ธ.ก.ส. เข้าดำเนินการเช่นเดียวกับที่เคยให้ความช่วยเหลือในพืชประเภทอื่นๆ ด้วย
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ในวันนี้ (11) ธ.ก.ส. เตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการสินเชื่อเพื่อดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าววงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาท ผ่าน 3 โครงการคือ 1. โครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวปี 2562/2563 วงเงินรวม 26,000 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวรวม 4.57 ล้านครัวเรือน
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้กำหนดเงื่อนไขให้ความช่วยเหลือ 500 บาทต่อไร่ โดยความช่วยเหลือในแต่ละครัวเรือนนั้น ธ.ก.ส. ได้กำหนดไว้ไม่เกิน 20 ไร่ อีกทั้ง ต้องไม่ใช่เกษตรกรที่เคยประสบปัญหาภัยแล้งและเคยได้รับการช่วยเหลือไปแล้ว 1.9 ล้านไร่
โครงการที่ 2 การให้สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี 2562/2563 รวม 1 ล้านตัน โดยมีวงเงินสินเชื่อรวมอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ส่วนเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือกำหนดไว้ที่ไร่ละ 1,500 บาท ทั้งนี้ สินเชื่อดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรกรชะลอการขายข้าวออกสู่ตลาดเพื่อลดปัญหาราคาข้าวตกต่ำในช่วงฤดูการผลิต สำหรับเกษตรกรส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการฯ จะเป็นเกษตรกรจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โครงการที่ 3 การให้สินเชื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร และวิสาหกิจชุมชน โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อรวมไว้ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี และกำหนดระยะเวลาผ่อนชำระคืนไม่เกิน 15 เดือน
สินเชื่อทั้ง 3 โครงการนี้ จะใช้เงินของ ธ.ก.ส. ดำเนินการ โดยรัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายเงินชดเชยให้ ธ.ก.ส.
สำหรับความคืบหน้าในการจ่ายเงินประกันรายได้เกษตรกรที่ปลูกข้าว ยางพารา น้ำมันปาล์ม และมันสำปะหลังนั้น ได้จ่ายเงินไปแล้ว 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินในของโครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตผู้ปลูกข้าวนาปี 2562/2563 จำนวน 23,000 ล้านบาท และอีก 27,000 ล้านบาทสำหรับโครงการประกันรายได้พืชทั้ง 4 ชนิด โดยวงเงินรวมในการประกันรายได้เกษตรกรที่ต้องใช้นั้น คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติไปแล้วรวม 82,000 ล้านบาท
ธนาคารฯ พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด หากคณะรัฐมนตรีจะมีมติให้ ธ.ก.ส. เข้าดำเนินการเช่นเดียวกับที่เคยให้ความช่วยเหลือในพืชประเภทอื่นๆ ด้วย
