xs
xsm
sm
md
lg

ด้วยเหตุเพราะอิสราเอลไม่มี “งูเห่ากินกล้วย”

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท


นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล (ซ้าย) และเบนนี แกนตซ์ หัวหน้ากลุ่มพรรคพันธมิตรฟ้า-ขาว
ไหนๆ ก็เปิดฉากสัปดาห์นี้...ด้วยการย้อนกลับไปสำรวจตรวจสอบ “แนวรบในตะวันออกกลาง” วันนี้ก็น่าจะเลยไปดู “จอมป่วน” แห่งตะวันออกกลาง อย่างคุณปู่อิสราเอลเขาซะหน่อย ว่าขณะที่ต้องเจอภาวะ “Deadlock” ของการเมืองภายในประเทศ ไม่ว่าจะเลือกตั้งมาแล้วถึง 2 ครั้ง 2 ครา ในปีนี้ แต่ก็ยังดัน “จัดตั้งรัฐบาล” ขึ้นมาไม่ได้ซะที ด้วยสภาวะเช่นนี้จะยังคงเหลือแรงป่วนอยู่อีกมากหรือน้อยขนาดไหน???

เห็นว่า...ประมาณวัน-สองวันนี้ หรือไม่น่าจะเกินวันพุธที่ 11 ธันวาคมนี่แหละ ที่อาจพอได้รู้ๆ ว่าจะต้องมีการ “เลือกตั้งครั้งที่ 3” ในอิสราเอลกันอีกหรือไม่ อย่างไร? หลังการเลือกตั้งเดือนเมษาฯ และเดือนพฤศจิกาฯ ที่ผ่านมาไม่ว่าฝ่าย “เอาบิ๊กตู่” หรือ “ไม่เอาบิ๊กตู่” (ประทานโทษ) “ฝ่ายเอาเนทันยาฮู” หรือ “ฝ่ายไม่เอาเนทันยาฮู” ต่างก็ไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากในสภา “Knesset” ให้พอ “พ้นน้ำ” หรือให้เกินกว่าจำนวน 61 เสียงได้ด้วยกันทั้งสองฝ่ายซึ่งการรวบรวมเสียงให้เกิน 61 เสียง หรือให้ “พ้นน้ำ” ของอิสราเอลนั้น...ออกจะยากกว่าบ้านเราประมาณ 8 เท่า หรือ 10 เท่าเป็นอย่างน้อย จะด้วยเหตุเพราะเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยทะเลทราย ไม่ค่อยมี “งูเห่า” โดยเฉพาะงูเห่าพันธุ์พิเศษ ที่ออกไปทาง “กินกล้วย” ซะอีกด้วย หรือไม่ อย่างไร ก็มิอาจทราบได้ แถมตัวนายกรัฐมนตรีอิสราเอลปัจจุบัน อย่าง “นายเบนจามิน เนทันยาฮู” ดันถูกอัยการสูงสุดอิสราเอลฟ้องร้องเอาผิดข้อหาร้ายแรงเอามากๆ คือทั้งโกง ทั้งรับสินบน ระดับน่าจะคิด “ลาออก” ไปตั้งนานแล้ว แต่นอกจากนายกฯ อิสราเอลรายนี้ไม่ได้คิดลาออกโดยเด็ดขาด ยังออกอาการดิ้นรน กระวนกระวายเพื่อหวังจะ “สืบทอดอำนาจ” ต่อไปให้จงได้...

แม้ว่าประธานาธิบดีอิสราเอล “นายReuven Rivlin” ที่พยายามหาทาง “ปรองดอง” พยายามเกลี้ยกล่อม โน้มน้าวให้ฝ่ายเอาหรือไม่เอา “เนทันยาฮู” ไม่ว่าพรรค “Likud” หรือพรรคคู่แข่งอย่าง “Blue and White” ของนายพล “เบนนี แกนตซ์” ร่วมกันหาทางออก เพื่อจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หรือรัฐบาลสมานฉันท์อะไรก็แล้วแต่ ขึ้นมาให้ได้ แต่ไม่ว่าจะทอดเวลาออกไปยาวนานขนาดไหน หรือไม่ว่าจะจับเข่า จับหัวเหน่าเจรจากันสักกี่ครั้ง กี่หน ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยัง “เป็ง-ปาย-ม่าย-ล่าย” อยู่เช่นเดิมจนตัวประธานาธิบดีเอง อดไม่ได้ที่จะต้องระบาย ด้วยการตั้งคำถามต่อหน้าบรรดาข้าราชการอิสราเอลทั้งหลาย ในช่วงงานฉลองครบรอบ 46 ปี ถึงขั้นว่า... “พวกผู้นำ(พรรคการเมือง)ทั้งหลายในอิสราเอล ต่างก็...บ้าไปแล้ว!!! แต่เหตุไฉนพวกคุณถึงต้องลากประเทศทั้งประเทศให้ต้องบ้าไปกับคุณด้วย???” อะไรประมาณนั้น...

การที่ทุกสิ่งทุกอย่าง...ยังคงต้องพบ “ทางตัน” อยู่เช่นเดิม ถ้าว่ากันตามมุมมองของคู่แข่งรายสำคัญของ “เนทันยาฮู” คือนายพล “เบนนี แกนตซ์” นั้น ก็น่าจะเป็นเพราะนายกรัฐมนตรีอิสราเอลคนปัจจุบัน นอกจากไม่คิดลาออกทั้งๆ ที่ถูกดำเนินในคดีในข้อหาร้ายแรงเอามากๆ ยังคิดตั้งป้อมสู้ หรือคิดอาศัยความได้เปรียบจากสถานะความเป็นนายกรัฐมนตรี ลากประเทศทั้งประเทศให้ต้องไปสู่ “การเลือกตั้งครั้งที่ 3” ให้จงได้ โดยเฉพาะการหันไปใช้บริการคุณพ่ออเมริกา มาเป็นตัวเพิ่มคะแนนเสียง คะแนนนิยม ตลอดช่วงการเลือกตั้งแต่ละครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าการหยิบเอากรณีรัฐบาลอเมริกันของ “ทรัมป์บ้า” รับรองกรุงเยรูซาเล็มให้เมืองหลวงของอิสราเอล การผนวกที่ราบสูงโกลันของซีเรีย ให้เป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอล โดยครั้งนี้...ถึงกับประกาศว่า ถ้ายังอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอิสราเอลต่อไปอีกสักแค่ 6 เดือนเท่านั้นเอง ก็จะผนวก “หุบเขาจอร์แดน” ทั้งแผง ให้กลายมาเป็นดินแดนของอิสราเอลให้จงได้ โดยได้พูดจาหารือ เรื่องราวเหล่านี้กับรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา “นายไมค์ ปอมเปโอ” เรียบร้อยแล้วขณะที่เจอกัน ณ กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เมื่อไม่นานมานี้...

แม้ว่าระดับ “ข้าราชการ” อย่างผู้ช่วยเลขานุการกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาฝ่ายตะวันออกใกล้ “นายDavid Schenker” จะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีการเสนอแผนผนวกหุบเขาจอร์แดน ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ให้กับรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาเอาเลยแม้แต่น้อย แต่ระดับผู้กุมนโยบายสูงสุด อย่างประธานาธิบดีอเมริกา ระหว่างไปปราศรัยหาเสียง กล่าวสุนทรพจน์ต่อบรรดาชาวยิวในอเมริกา ณ เวที “Israeli American Council summit” ของ “นายSheldon Adelson” ผู้บริจาคเงินสนับสนุนเลือกตั้งรายใหญ่ให้กับ “ทรัมป์บ้า” มาตั้งแต่ต้น เมื่อช่วงวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ผู้นำอเมริการายนี้ ก็ยังคงประกาศตัวว่าเป็น “เพื่อนที่ดีสุดของอิสราเอล” แถมยังยุให้ชาวอเมริกันเชื้อสายยิว หันไปรักประเทศอิสราเอลให้มากๆ เข้าไว้ หรือยังคงแสดงอาการ “ถือหาง” “นายเนทันยาฮู” อย่างที่เคยถือๆ มาแล้วนั่นเอง...

การอยู่-การไป ของ “นายเนทันยาฮู” หรือการหาทางออก ทางไป ของการเมืองในประเทศอิสราเอล จึงกลายเป็นสิ่งที่เกี่ยวพัน โยงใยกับฉากสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลางภายในอนาคตอันใกล้ อย่างมิอาจแยกออกจากกันได้โดยเด็ดขาด เพราะแม้แต่การเสนอแผนสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ที่เรียกๆ กันว่า “ข้อตกลงแห่งศตวรรษ” หรือ “Deal of the century” ที่ลูกเขยชาวยิวของ “ทรัมป์บ้า” “นายจาเร็ด คุชเนอร์” ผู้มีความใกล้ชิดสนิทสนมเอามากๆ กับ “นายเนทันยาฮู” ได้ประดิษฐ์คิดค้นไว้ตั้งแต่แรก แต่ยังคงประกาศออกมาไม่ได้สักกะที ด้วยเหตุเพราะต้องรอให้การเลือกตั้งในอิสราเอลผ่านพ้นไปแบบสามารถหาทางออก ทางไปได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปแล้วนั่นเอง...

แต่ในเมื่อเลือกครั้งที่ 1 ก็แล้ว ครั้งที่ 2 ก็แล้ว...ก็ยังหาข้อสรุป ข้อยุติกันไม่ได้ ถ้าหากต้องเลือกครั้งที่ 3 ขึ้นมาจริงๆ เมื่อดูจากผลโพลล์ หรือผลสำรวจความคิดเห็นของชาวอิสราเอลต่อการเลือกตั้งครั้งที่ 3 ที่สถาบัน “Midgam Institute” และองค์กร “iPanel” เขาได้ออกมาเปิดเผยผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 12 ของอิสราเอล เมื่อช่วงวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูจะออกไปทาง “เหมียนเดิม” อีกนั่นแหละ คือไม่ว่าจะลากเอา “ทรัมป์บ้า” ลากคุณพ่ออเมริกา มาเป็นตัวช่วยหาเสียง หาคะแนนนิยม ถึงขั้นคิดจะยึดโน่น ยึดนี่ ให้เป็นของอิสราเอลไปด้วยกันทั้งหมด หรือถึงขั้นหยิบเอาใบหน้าของประธานาธิบดีอเมริกัน ไปวางเคียงคู่กับอดีตจักรพรรดิเปอร์เซีย ผู้เคยอนุมัติ อนุญาต ให้บรรพบุรุษชาวอิสราเอล กลับมาสร้าง “วิหารแห่งพระเจ้า” ขึ้นมาจนได้แต่โดยผลโพลล์ที่ว่า ก็ยังคงสรุปว่า “ฝ่ายไม่เอาเนทันยาฮู” น่าจะรวบรวมจำนวนเก้าอี้ในสภา ได้ประมาณ 57 ที่นั่ง ขณะที่ “ฝ่ายเอาเนทันยาฮู” น่าจะได้แค่ 55 ที่นั่ง โดยที่พรรคของอดีตรัฐมนตรีกลาโหม “เอวิกดอร์ ลีเบอร์แมน” ก็ยังคงมีเก้าอี้ไม่ต่ำกว่า 8 ที่นั่ง หรือยังคงเป็น “ฝ่ายค้านอิสระ” หรือ “ฝ่ายรัฐบาลอิสระ” ได้ด้วยกันทั้งนั้น...

การที่ประเทศอิสราเอลปราศจาก “งูเห่า” ประเภท “กินกล้วย” ทั้งหลาย...มันก็เลยออกไปทางดีอย่าง-เสียอย่าง ดีในแง่ที่ว่าการหาทางออก ทางไปไม่เจอของการเมืองภายในประเทศอิสราเอล ย่อมช่วยให้ช่วงเวลาแห่งสันติภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง พอยืดๆ ออกไปได้บ้าง ไม่ต้องเกิดรายการ “จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า” ขึ้นมาก่อนกำหนดการ ส่วนในแง่ที่เสียนั้น...ก็คือย่อมส่งผลให้ประเทศอิสราเอลทั้งประเทศ คงหนีไม่พ้นต้องถูกลากไป-ลากมา ตาม “ความบ้า” ของบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งหลาย ดังที่ประธานาธิบดีอิสราเอลว่าไว้ ไปอีกตราบนานเท่านาน หรือตราบเท่าที่ “เนทันยาฮู” ยังคงไม่ได้เข้าไปนอนอยู่ในคุกนั่นเอง...
กำลังโหลดความคิดเห็น