xs
xsm
sm
md
lg

ส.อ.ท.ถกแบงก์ชาติวันนี้-เร่งดูแลค่าเงินบาทแข็ง-หั่นเป้าส่งออกติดลบ2.5-3%

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360- “ส.อ.ท.” เตรียมถกร่วม แบงก์ชาติ และธนาคารพาณิชย์อีกระลอก วันนี้ (4 ธ.ค.) เพื่อร่วมหาแนวทางและมาตรการดูแลผู้ส่งออกรับมือค่าเงินบาทหลังเริ่มกลับมาแข็งค่าต่อเนื่องจนส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการส่งออกของไทยในระยะสั้นและระยะยาว หวั่นกดดันส่งออกลากยาวถึงปี 63 หวังมาตรการดูแลต้องเข้มข้นขึ้น ด้านสรท. จี้ธปท.เข้มดูแลค่าบาท พร้อมปรับคาดการณ์ส่งออกปีนี้หดตัว 2.5-3% บนสมมติฐานว่าค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33 บาท บวกลบ 0.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 4 ธ.ค.นี้จะมีการหารือร่วมกัน 3 ฝ่ายได้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ธนาคารพาณิชย์ และตัวแทนกลุ่มอุตสาหกรรมส.อ.ท.เพื่อหามาตรการหรือแนวทางที่จะดูแลอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าจนกระทบต่อขีดความสามารถในการส่งออกของไทยในระยะสั้นและระยะยาวที่จะมีผลต่อการส่งออกไปถึงปี 2563

“ก่อนหน้านี้ทางสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และส.อ.ท.ได้หารือกับตัวแทนธปท.มาแล้วโดยในส่วนของส.อ.ท.นั้นได้มีการหารือร่วมกันใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ได้รับผลกระทบสูงได้แก่ อาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์และอะไหล่ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง และอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ และวันที่ 4 ธ.ค.จะมาหารือลงลึกอีกรอบ”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาแม้คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ 1.25% ต่อปีและมีมาตการดูแลค่าเงินบาทเมื่อ 8 พ.ย.62 แต่ก็ช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงในระยะ สั้นซึ่งปัจจุบันค่าเงินบาทยังคงกลับมาแข็งค่าต่อเนื่องโดยพบว่า 11 เดือนเฉลี่ยค่าเงินบาทไทยยังคงแข็งค่าสูงสุดในภูมิภาคเอเชียซึ่งคาดว่าประเด็นสำคัญหนึ่งที่มีผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามาจากการที่ไทยอยู่ในภาวะเกินดุลทางการค้าซึ่งจะเห็นว่าแม้ส่งออก 10 เดือนแรกของปีนี้ไทยติดลบ 2.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมาจากผลกระทบสงครามการค้าและเงินบาทที่แข็งค่าแต่ในการนำเข้าสินค้าทุนกลับไม่ขยายตัวซึ่งมาจากการที่เอกชนชะลอการลงทุน

“จะเห็นว่าล่าสุดรัฐบาลเองพยายามเรียกร้องให้เอกชนมีการลงทุนในประเทศและต่างประเทศมากขึ้นในช่วงที่บาทแข็งค่าเพื่อที่จะมีส่วนในการผ่อนคลายการแข็งค่าของค่าเงินซึ่งส.อ.ท.เองก็เห็นด้วยว่ารัฐควรจะเร่งส่งเสริมฯขณะเดียวกันก็คงจะต้องมีมาตรการเพิ่มเติมในการดูแลค่าเงินเพราะอาจจะมีผลกระทบต่อเนื่องต่อการส่งออกในปี 2563 ได้จากที่ปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 0-ติดลบ2% ”

สรท.ปรับลดตัวเลขส่งออกปี 62 ติดลบ 2.5-3%

น.ส. กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ( สรท.) กล่าวว่า สรท.ปรับคาดการณ์การส่งออกปี 2562 ใหม่ คาดว่าจะติดลบ 2.5 – 3% อยู่บนสมมติฐานว่าค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33 บาท บวกลบ 0.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนปี 2563 คาดการณ์ว่าจะเติบโต 0 – 1% บนสมมติฐานค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้เนื่องจากยังคงเผชิญกับสงครามการค้า และมาตรการ IMO Low Sulphur 2020 และค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องซึ่งสรท.ต้องการให้ธปท. บริหารจัดการค่าเงินบาทด้วยมาตรการที่เข้มข้นไม่ให้เงินบาทแข็งค่าไปมากกว่านี้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆเช่น กรมสรรพากรต้องสนับสนุนรูปแบบการชำระค่าใช้จ่ายเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินบาท เพื่อลดความสูญเสียจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น