ผู้จัดการรายวัน 360 - สศช. เผยเศรษฐกิจไทยรับพิษสงครามการค้า-เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ไตรมาส 3 จีดีพีโตแค่ 2.4% ส่งออกโต 0% คาดการณ์ทั้งปี 62 ขยายตัว 2.6% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี "สมคิด" ยืนยันยังโตดีกว่าชาติอื่น "ขุนคลัง" รับเศรษฐกิจหลุดเป้า 2.8% ลั่นพร้อมออกมาตรการกระตุ้นหากมีความจำเป็น แอบลุ้นไตรมาสสุดท้ายดีขึ้นหลังดัชนีชี้วัดเงินลงทุนในกิจการโรงงานเพิ่มขึ้น 4.3 แสนล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 36.3% รมว.อุตสาหกรรม แนะแบงก์ชาติกดบาทอ่อน ด้าน ธปท. จ่อหั่นเป้าจีดีพีใหม่ ธ.ค.นี้
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ของปี 2562 นี้ ขยายตัวอยู่ที่ระดับ 2.4% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 2.3% ขณะที่ทั้งปีได้ปรับประมาณการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้ลง เติบโตที่ระดับ 2.6% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวที่ 3% ถือเป็นอัตราที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2557 ที่ขยายตัวได้ 1%
ขณะที่การส่งออกในไตรมาส 3 ขยายตัวที่ระดับ 0% ถือว่าดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ติดลบ 4.2% อย่างไรก็ตาม คาดว่าทั้งปี 2562 นี้ การส่งออกจะหดตัวอยู่ที่ระดับลบ 2% จากเดิมที่เคยคาดว่าจะติดลบ 1.2% และคาดว่าปี 2563 จะขยายตัวได้ 2.3%
“ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ สาเหตุหลักเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง และมาตรการกีดกันทางการค้า แต่คาดแนวโน้มไตรมาส 4/62 จะกลับมาขยายตัวดี ส่งออกเริ่มมีเสถียรภาพ เพราะหากจะให้จีดีพีปีนี้ขยายตัวได้ 2.6% ในไตรมาสสุดท้ายเศรษฐกิจไททยจะต้องขยายตัวไม่กว่า 2.8% และจำเป็นต้องมีมาตรการอื่นๆ เพิ่ม" นายทศพร กล่าว
"สมคิด" ชี้จีดีพีไทยยังโตดีกว่าชาติอื่น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจไทยว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP)ในไตรมาส 3/61 ที่ขยายตัว 2.4% ถือว่าดีเมื่อเทียบกับหลายประเทศในโลก เพราะเศรษฐกิจของไทยใหญ่มากมีขนาดเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับเวียดนาม ซึ่งการรักษาโมเมนตัมเศรษฐกิจจึงไม่ใช่ของง่าย และมูลค่าการส่งออกคิดเป็น 60% ของ GDP ดังนั้น หากยังติดลบอยู่ก็เหนื่อยกันทุกคน
"ขณะนี้คลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หารือกันตลอดเวลาว่าจะทำมาตรการทางการเงินและการคลังอย่างไรที่จะดูแลเศรษฐกิจของไทยไปให้ได้ เราไม่ถึงกับย่ำแย่"นายสมคิด กล่าว
"ขุนคลัง" ลั่นพร้อมกระตุ้นศก.หากจำเป็น
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานผลการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 เติบโตที่ 2.4% ว่า ขยายตัวได้สูงกว่า 2 ไตรมาสแรกที่อยู่ในระดับ 2.3% ขณะที่ทั้งปี 2562 คาดจะขยายตัวต่ำกว่าที่คลังคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.8% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอส่งผลให้การส่งออกหดตัวไปด้วย อย่างไรก็ดี หากในช่วงไตรมาส 4 มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการมาดูแลก็ต้องทำ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ก็มีตัวเลขชี้วัดการผลิตเหมือนกันว่า การผลิตในภาคเอกชนยังอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4.3 แสนล้านบาท และหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีเม็ดเงินเข้าสู่การผลิตโรงงานมากกว่าถึง 36.3%
รมว.อุตฯ แนะแบงก์ชาติกดบาทอ่อน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า การปิดโรงงานอุตสาหกรรมในช่วงที่ผ่านมา เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เป็นหลัก ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท จากระดับ 33 บาท/ดอลลาร์ มาเป็น 30 บาท/ดอลลาร์ หรือแข็งค่าขึ้นประมาณ 10% ซึ่งมองว่า ธปท. จำเป็นต้องดูแลเรื่องค่าเงินบาทมากกว่านี้ เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมรถยนต์กลับมาเติบโตได้เป็นปกติเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ภายในเดือนนี้กระทรวงอุตสาหกรรมจะเร่งลงพื้นที่เพื่อหารือกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมรถยนต์ ถึงความต้องการในการช่วยเหลืออย่างไร
"แม้ว่าที่ผ่านมา ธปท.จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย และออกมาตรการเพื่อดูแลเรื่องเงินทุนไหลออก เพื่อทำให้เงินบาทแข็งค่าน้อยลง แต่มองว่า ธปท.ยังสามารถทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้มากกว่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องช่วยเหลือกัน ธปท.ต้องทำมากกว่าที่ทำในปัจจุบัน" นายสุริยะ กล่าว
ธปท.จ่อหั่นเป้าจีพีพีใหม่ ธ.ค.นี้
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหาภาค ธปท. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 62 ขยายตัว 2.4% สูงกว่าไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 2.3% เล็กน้อย ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของธปท. ที่เผยแพร่รายงานในรายงานการเงินฉบับเดือนก.ย. 62 แต่ก็ใกล้เคียงกับการประเมินไว้ในการประชุม กนว. รอบเดือน พ.ย. 62 ที่ผ่านมา และในระยะถัดไป ธปท. จะมีการประเมินการขยายตัวเศรษฐกิจและเผยแพร่อีกครั้งในรายงานนโยบายการเงินฉบับเดือนธ.ค. 62
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ของปี 2562 นี้ ขยายตัวอยู่ที่ระดับ 2.4% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 2.3% ขณะที่ทั้งปีได้ปรับประมาณการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้ลง เติบโตที่ระดับ 2.6% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวที่ 3% ถือเป็นอัตราที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2557 ที่ขยายตัวได้ 1%
ขณะที่การส่งออกในไตรมาส 3 ขยายตัวที่ระดับ 0% ถือว่าดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ติดลบ 4.2% อย่างไรก็ตาม คาดว่าทั้งปี 2562 นี้ การส่งออกจะหดตัวอยู่ที่ระดับลบ 2% จากเดิมที่เคยคาดว่าจะติดลบ 1.2% และคาดว่าปี 2563 จะขยายตัวได้ 2.3%
“ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ สาเหตุหลักเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง และมาตรการกีดกันทางการค้า แต่คาดแนวโน้มไตรมาส 4/62 จะกลับมาขยายตัวดี ส่งออกเริ่มมีเสถียรภาพ เพราะหากจะให้จีดีพีปีนี้ขยายตัวได้ 2.6% ในไตรมาสสุดท้ายเศรษฐกิจไททยจะต้องขยายตัวไม่กว่า 2.8% และจำเป็นต้องมีมาตรการอื่นๆ เพิ่ม" นายทศพร กล่าว
"สมคิด" ชี้จีดีพีไทยยังโตดีกว่าชาติอื่น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจไทยว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP)ในไตรมาส 3/61 ที่ขยายตัว 2.4% ถือว่าดีเมื่อเทียบกับหลายประเทศในโลก เพราะเศรษฐกิจของไทยใหญ่มากมีขนาดเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับเวียดนาม ซึ่งการรักษาโมเมนตัมเศรษฐกิจจึงไม่ใช่ของง่าย และมูลค่าการส่งออกคิดเป็น 60% ของ GDP ดังนั้น หากยังติดลบอยู่ก็เหนื่อยกันทุกคน
"ขณะนี้คลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หารือกันตลอดเวลาว่าจะทำมาตรการทางการเงินและการคลังอย่างไรที่จะดูแลเศรษฐกิจของไทยไปให้ได้ เราไม่ถึงกับย่ำแย่"นายสมคิด กล่าว
"ขุนคลัง" ลั่นพร้อมกระตุ้นศก.หากจำเป็น
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานผลการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 เติบโตที่ 2.4% ว่า ขยายตัวได้สูงกว่า 2 ไตรมาสแรกที่อยู่ในระดับ 2.3% ขณะที่ทั้งปี 2562 คาดจะขยายตัวต่ำกว่าที่คลังคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.8% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอส่งผลให้การส่งออกหดตัวไปด้วย อย่างไรก็ดี หากในช่วงไตรมาส 4 มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการมาดูแลก็ต้องทำ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ก็มีตัวเลขชี้วัดการผลิตเหมือนกันว่า การผลิตในภาคเอกชนยังอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4.3 แสนล้านบาท และหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีเม็ดเงินเข้าสู่การผลิตโรงงานมากกว่าถึง 36.3%
รมว.อุตฯ แนะแบงก์ชาติกดบาทอ่อน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า การปิดโรงงานอุตสาหกรรมในช่วงที่ผ่านมา เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เป็นหลัก ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท จากระดับ 33 บาท/ดอลลาร์ มาเป็น 30 บาท/ดอลลาร์ หรือแข็งค่าขึ้นประมาณ 10% ซึ่งมองว่า ธปท. จำเป็นต้องดูแลเรื่องค่าเงินบาทมากกว่านี้ เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมรถยนต์กลับมาเติบโตได้เป็นปกติเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ภายในเดือนนี้กระทรวงอุตสาหกรรมจะเร่งลงพื้นที่เพื่อหารือกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมรถยนต์ ถึงความต้องการในการช่วยเหลืออย่างไร
"แม้ว่าที่ผ่านมา ธปท.จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย และออกมาตรการเพื่อดูแลเรื่องเงินทุนไหลออก เพื่อทำให้เงินบาทแข็งค่าน้อยลง แต่มองว่า ธปท.ยังสามารถทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้มากกว่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องช่วยเหลือกัน ธปท.ต้องทำมากกว่าที่ทำในปัจจุบัน" นายสุริยะ กล่าว
ธปท.จ่อหั่นเป้าจีพีพีใหม่ ธ.ค.นี้
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหาภาค ธปท. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 62 ขยายตัว 2.4% สูงกว่าไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 2.3% เล็กน้อย ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของธปท. ที่เผยแพร่รายงานในรายงานการเงินฉบับเดือนก.ย. 62 แต่ก็ใกล้เคียงกับการประเมินไว้ในการประชุม กนว. รอบเดือน พ.ย. 62 ที่ผ่านมา และในระยะถัดไป ธปท. จะมีการประเมินการขยายตัวเศรษฐกิจและเผยแพร่อีกครั้งในรายงานนโยบายการเงินฉบับเดือนธ.ค. 62
