xs
xsm
sm
md
lg

“ส.ส.เอ๋-สารพิษ-น้ำลายนักการเมือง!”

เผยแพร่:   โดย: ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย



เมื่อ “นักการเมือง” ยึดหลัก “พรรคกูพวกกู” แทนชาติการเมืองไทยจึงไร้คุณภาพสิ้นคุณธรรม!

การเมืองยุครัฐบาล “บิ๊กตู่” บรรดา ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้ก่อเรื่องร้ายๆ ต่อชาติและประชาชนมากมายเห็นจากการเปิดโปงกันและกันจนฉาวโฉ่ทุกวัน เช่น

ส.ส.บางคนแสดงความด้อยคุณภาพสิ้นคุณธรรม ถึงขนาดกล้า “แกล้งโง่” ยึดที่หลวงมาเป็นทรัพย์สินของวงศ์ตระกูลตนอย่างหน้าด้านๆ นั่นคือ

เรื่องการบุกรุกยึดที่ดินหลวง 1,706 ไร่ ของ เอ๋-ปารีณา ส.ส.ในพรรครัฐบาลที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.เป็นผู้ครอบครองที่ดินป่าสงวนแห่งนี้ โดย “ส.ส.นางงาม” อ้างว่าเสียภาษีให้รัฐมานานแล้ว และไม่เคยมีหน่วยงานใดบอกว่า “ส.ส.เอ๋ทำผิดกฎหมาย!”

“พ่อเอ๋” อดีต ส.ส.และรมช.ทวี ไกรคุปต์ แถลงข่าวทั้งน้ำตาที่สภาฯ ระบุ ตระกูลไกรคุปต์ได้ครอบครองที่ดินนี้มาแต่ครั้งปู่ย่าตาทวดและทวียังโบ้ยว่าที่ลูกสาวถูกร้องเรื่องที่ดินนี้ก็เพราะ ส.ส.เอ๋ไปแฉอดีตนายกฯ โกงชาติที่หนีไปอยู่ต่างประเทศ(ว่ะ?)

“ส.ส.เอ๋” ที่ทำตัวเป็น “ส.ส.ปากกล้า” เป็น “หัวหอก” พิทักษ์ “บิ๊กตู่” เพิ่งทวงคืนที่ดินภบท.5 จำนวน 500 ไร่ในจ.ราชบุรีโดย “ส.ส.เอ๋” บอก “แม่บิ๊กธร” หน.อคม.-ทำผิดกฎหมาย! แถม “ส.ส.เอ๋” ยังควง ส.ส.สิระไปนั่งป่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพื่อปกป้องมิให้ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ไปให้การกับ กมธ.ที่เสรีพิศุทธ์เป็นประธานฯ

จนทำให้เสรีพิศุทธ์ที่ไม่กลัวใครแทนที่จะลุยปราบการทุจริตโกงชาติ กลับต้องทะเลาะเบาะแว้งกับปารีณา-สิระทุกวี่วัน จน กมธ.ป.ป.ช.กลายเป็น “ตลกคาเฟ่” ไปแล้ว...

ขณะที่นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาฯ สนง.ส.ป.ก.ซึ่งดูแลโดยรมช.เกษตรฯธรรมนัสให้ข่าวว่า กรณีที่ดิน ส.ส.เอ๋ ยังไม่เคยจัดสรรหรือรังวัด ส.ป.ก.คงไม่ดำเนินการใดๆ แต่หาก ส.ส.เอ๋ไม่ทำตามกฎหมาย ส.ป.ก.ทาง ส.ป.ก.ดำเนินการได้เพียงโทษจำคุก 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท...ว้าว!

แต่เรื่องของ ส.ส.เอ๋บุกรุกยึดครองที่ดินป่าสงวน 1,706 ไร่นั้น ดังระเบิดเถิดเทิงไปทั่วไทยแล้ว ทำให้ผู้คนที่หวงแหนแผ่นดินของชาติ ออกมาเคลื่อนไหวกันเต็มไปหมด...เช่น…

ดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ที่เป็น ส.ส.ในขณะนี้ระบุว่า อธิบดีกรมป่าไม้ต้องรีบแจ้งจับ ส.ส.เอ๋ดำเนินคดีทันที เพราะที่ดินทั้งหมดยังเป็นป่าสงวนไม่เกี่ยวกับ ส.ป.ก. และถ้าใครไปช่วย ส.ส.เอ๋ก็คงต้องจมน้ำไปด้วยแน่นอน

ส่วนวีระ สมความคิด ก็ระบุว่า ถ้าจนท.ป่าไม้และผู้เกี่ยวข้องระดับรมต.ยังไม่รีบดำเนินคดีกับ ส.ส.เอ๋ที่ทำผิดกฎหมายมานานแล้ววีระจะฟ้องผู้เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ในข้อหาผิด ม.157ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

งานนี้...รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท็อป-วราวุธ ศิลปอาชา ได้สั่งการให้กรมป่าไม้เร่งจัดการ ส.ส.เอ๋ตามกฎหมายโดยด่วน

การติดตามคดีที่ดินของ ส.ส.เอ๋ชนิดเอาจริงเอาจังของ “รมว.ท็อป” ทำให้จนท.ป่าไม้ต้องวิ่งโร่ไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายกับ ส.ส.เอ๋ฐานบุกรุกและยึดครองที่ดินป่าสงวนไงล่ะ...

เรื่องบุกรุกและยึดครองที่ดินป่าสงวนของ ส.ส.เอ๋จะบานปลายไปจนถึง “พ่อทวี” ไหม...ไม่มีใครรู้? อนาคตพ่อลูกคู่นี้จะอยู่หรือหนี-ก็ไม่มีใครรู้อีก?

“ใคร” บังอาจบุกรุกยึดครองที่ดินของชาติไปเป็นทรัพย์สมบัติของ “ตนเอง” ต้องถูก “กรรมติดจรวดตามสนอง” ไม่ช้าก็เร็วแน่นอน!

เฮ้อ.. .ส.ส.เอ๋ ส.ส.ของพรรครัฐบาล ช่างด้อยคุณภาพ-ด้อยจิตสำนึก-ด้อยคุณธรรม ฯลฯ จึงไม่รู้ว่า...เรื่องอะไรควรหรือไม่ควร-ถูกกับผิด-ชั่วกับดี ฯลฯ นับเป็นเรื่องที่น่าตระหนกยิ่งนัก!

ส่วนเรื่อง “ผู้มีอำนาจ” นำ “สารพิษมาให้ประชาชนกิน” เพราะมีการพลิกมติ “คกก.วัตถุอันตราย” เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่ให้ยกเลิกการใช้และการนำเข้า 3 สารพิษทางการเกษตร คือ “พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส-ไกลโฟเซต” ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562

ทว่า...เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 หลังจากมีการเปลี่ยน “ใครบางคน” ในคกก.นี้และมีรมว.อุตสาหกรรม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธานที่ประชุม โดยไม่มีการลงมติใดๆ ทั้งสิ้นสุริยะกลับใช้ “การสันนิฐานของตนเอง” ทำให้ “3 สารพิษ” เป็น “ผีดิบคืนชีพ” กลับมาอีกครั้ง...

โดยสุริยะโมเมว่าเป็น “มติเอกฉันท์” ให้เลื่อนการเลิกใช้ 2 สารพิษ คือ พาราควอตกับคลอร์ไพริฟอส ออกไป 6 เดือน ส่วนสารพิษไกลโฟเซตให้ใช้ต่อไปได้ตลอด

เรื่องนี้เกิดขึ้นได้จากการทำงานลับๆ ล่อๆ ของรมว.อุตฯ สุริยะกับ และรมว.เกษตรฯ เฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่ใช้ปลัดฯ และอธิบดีกรมวิชาการเกษตรฯ ชงหวานสารพัดเรื่องให้คกก.วัตถุอันตรายจบเรื่องนี้ได้สมดังใจปรารถนาจริงๆ

แน่นอน...ผลงานลอยตัวของ “บิ๊กตู่” ครั้งนี้ ทำให้ประชาชนต้องเสียเงินซื้อและยังต้องเสี่ยงชีวิตบริโภค 3 สารพิษที่ปนเปื้อนอยู่ในพืชผลทางการเกษตรได้ก่อเกิดเสียงประณามอย่างครึกโครม โดยงานสำคัญนี้ “นายกฯ-สุริยะ-เฉลิมชัย” ได้ “อิ่มเอม” จากเสียงเชียร์ของบรรดาพ่อค้าทั้งในและนอกประเทศที่ยังค้าขาย 3 สารพิษต่อไปได้เรื่อยๆ

นี่คือผลงานของ “หนึ่งนายกฯ สองรมว.” ที่ทำให้ประชาชนต้องควักทั้งเงินซื้อและต้อง “กินสารพิษ” ที่ปนเปื้อนในพืชผักผลไม้อีกทั้งดิน-น้ำ-อากาศของชาติยังคงเปี่ยมด้วยสารพิษ!

บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า...ใครหลงเชื่อ “ลมปากนักการเมือง” ก็ต้องเจอกับ... “นักการเมืองโกหก”

การทำให้ “ประชาชนหลงเชื่อ” ได้สำเร็จ ถือเป็น “ผลงานชิ้นเยี่ยม” ของ “นักการเมืองจอมกะล่อน” นะเว้ยเฮ้ย!

อืม...“ประชาชนโง่” กับ “ประชาชนฉลาด(แต่เฉย)” ย่อมตกเป็นเหยื่อของ “นักการเมืองเจ้าเล่ห์!!”
กำลังโหลดความคิดเห็น