ราชบุรี - เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เข้าแจ้งความ นายทวี ไกรคุปต์ ในความผิดฐาน บุกรุกตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
เย็นวันนี้(1 ธ.ค.) นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปขั่น ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ประดิษฐ์ คงเปรม รองสว.(สอบสวน) สภ.สวนผึ้ง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับนายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.กระทรวงคมนาคม บิดา นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ในความผิดฐาน “บุกรุก ตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และที่ป่า ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484” ในพื้นที่หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และมีการลงบันทึกประจำวัน รับคำร้องทุกข์ เป็นคดีอาญาที่ 419/2562 เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป ทั้งนี้มี พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.สวนผึ้ง และพ.ต.ท.ภาสกร อยู่เย็น รองผกก.สอบสวน ร่วมในการรับคำร้องทุกข์ด้วย
ภายหลังเสร็จสิ้นการแจ้งความร้องทุกข์ นายวีระ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนเองมาแจ้งความดำเนินคดีกับนาย ทวี ไกรคุปต์ และก็เจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงาน รวมถึงบุคคลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในการกระทำความผิดการบุกรุกครอบครองที่ป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ที่เป็นป่าไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ปี พ.ศ.2484
พร้อมทั้งได้นำหลักฐานที่ได้รับจากประชาชนในพื้นที่ และเอกสารข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งความผิดนั้นทางตนเองได้พาพนักงานสอบสวนไปลงพื้นที่ตรวจสอบชี้จุดที่มีการบุกรุก และมีการครอบครองมาหลายสิบปี หลักฐานทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าตนไปทำเอง แต่เป็นการกระทำที่นนายทวี ทำขึ้นมานานแล้ว ในขณะที่ตนพาพนักงานสอบสวนไปตรวจสอบชี้จุดที่มีการบุกรุก ก็ได้รับข้อมูลจากชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านก็ยืนยันว่าเป็นที่ของนายทวี เข้าไปครอบครองเกือบ 40 ปีแล้ว
นายวีระ กล่าวว่าวันนี้ ที่แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายทวี ในข้อหาบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติปี พ.ศ.2507 และข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติปี พ.ศ.2484 ส่วนกรณีที่นางสาวปารีณา ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตนในฐานความผิด แจ้งความอันเป็นเท็จ
ทั้งที่รู้ว่ามิได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น เป็นการแจ้งความเพื่อจะแกล้งให้ตนต้องรับโทษทางอาญา และในฐานความผิด หมิ่นประมาท ใส่ความโดยการโฆษณา ทางสื่อสารมวลชนโดยมุ่งหมายให้ตนได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 , 173, 174, และ 326, 328 ตนถือว่าเป็นสิทธิของคุณปารีณา ตนอยากให้ประชาชนรอดูต่อไปในอีกไม่นานความจริงก็จะปรากฏ สำหรับตนไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย
สำหรับเรื่องที่นางสาวปารีณา ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อแจ้งขอแก้ไขรายการในบัญชีหนี้สินทรัพย์สิน เนื่องจากเกิดความคลาดเคลื่อน และซ้ำซ้อน ในเอกสาร ภ.บ.ท.5 ที่ได้ยื่นเสียภาษี ในปี 2549 ได้แจ้ง ป.ป.ช. ซ้ำซ้อนกับเอกสาร ภ.บ.ท.5 ที่ยื่นเสียภาษีในปี 2553 ทำให้จำนวนเนื้อที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 กว่าไร่ ทั้งที่ที่ดินแปลงดังกล่าวมีเนื้อที่รวมประมาณ 600 กว่าไร่ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ยังยุติไม่ได้ จะต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดเจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบ ก็คือป่าไม้ เนื้อที่ทั้งหมดมีเท่าไหร่ ป่าไม้ และทาง ส.ป.ก. จะต้องมาสรุปให้มันแน่ชัดและชัดเจน