วานนี้ (27พ.ย.) มีการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธาน โดยนายวัฒนา เมืองสุข และพล.ต.อ.วิโรจน์ เปาอินทร์ นั่งอยู่ข้างๆหัวโต๊ะในฐานะที่ปรึกษาประธานฯด้วย ทำให้น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ ทักท้วงว่าไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นการจัดที่นั่งละเมิดศักดิ์ศรีของส.ส.คนอื่นๆ ที่เป็นกมธ. และละเมิดธรรมเนียมปฏิบัติ เพราะที่ปรึกษาทั้งสองคนไม่ได้เป็นส.ส. แต่กมธ.ในสัดส่วนฝ่ายค้าน ชี้แจงว่าไม่มีข้อบังคับกำหนดเรื่องการจัดสรรตำแหน่งที่นั่งในห้องกมธ. และควรให้เกียรติที่ปรึกษาประธานฯ ที่เป็นถึงอดีตรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง จึงควรนั่งใกล้กับประธานฯ
ทำให้น.ส.ปารีณา กล่าวต่อที่ประชุมว่า หากเอาส.ส.สอบตกนั่งตรงไหนก็ได้ ตนก็จะนั่งตามใจบ้าง ว่าแล้วก็ลากเก้าอี้ไปนั่งข้างๆ พล.ต.อ.พิศุทธ์ จน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แซวว่าได้นั่งข้างคนสวย อย่าเผลอกอดผมนะ
จากนั้นก่อนจะเข้าเรื่องหารือยังเกิดความวุ่นวายเมื่อน.ส.ปารีณา พิมพ์ข้อความในโทรศัพท์มือถือ ทำให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เหลือบไปมอง และสั่งห้ามใช้เครื่องมือสื่อสาร นายสิระ ทักท้วงว่าน.ส.ปารีณา แค่ใช้โทรศัพท์เท่านั้น ไม่ได้ก่อความวุ่นวายกวนประสาทใคร และยังกล่าวว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ คงไม่ได้มองโทรศัพท์ แต่มองอย่างอื่นของน.ส.ปารีณา โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าน.ส.ปารีณาไม่มีอะไรน่ามอง พร้อมสั่งห้าม น.ส.ปวีณาใช้เครื่องมือสื่อสารในที่ประชุม
จากนั้นที่ประชุมเข้าสู่วาระ ที่นายสิระจะเสนอให้ที่ประชุมปลด ประธานกมธ.ว่ามีอำนาจตามข้อบังคับสามารถทำได้หรือไม่ โดยนายธีรัจชัย ยืนยันตามข้อบังคับข้อที่ 93 ว่า ตำแหน่งกมธ. เป็นไปตามอัตราส่วนของส.ส.แต่ละพรรคการเมือง แล้วจึงให้คณะกมธ. เห็นชอบ จึงมองว่าคณะกมธ. ไม่สามารถปลดประธานฯออกจากตำแหน่งได้ เว้นแต่จะได้รับการยินยอมจากประธานฯ หรืออัตราส่วนของส.ส.มีความเปลี่ยนแปลงไป
ส่วนนายสิระ ชี้แจงว่า ตำแหน่งประธานกมธ.ชุดนี้ เป็นโควตาของฝ่ายค้าน แต่ไม่เกี่ยวกับการกำหนดตัวบุคคล และมติที่แต่งตั้งประธานฯ ก็เป็นมติจาก กมธ.ทั้ง 15 คน ตำแหน่งประธานฯ จึงไม่ใช่ตำแหน่งส่วนตัว คณะกมธ.สามารถปลดได้
ขณะที่กมธ.ในสัดส่วนรัฐบาลคนอื่นๆเสนอให้นำเรื่องเข้าหารือกับประธานสภาฯ ในที่ประชุมใหญ่
จนท้ายที่สุด ที่ประชุมมีมติฝ่ายค้าน 7 เสียง เห็นว่า กมธ.ไม่มีอำนาจปลดประธานฯ ฝ่ายรัฐบาล 2 เสียง ประกอบด้วย นายสิระและน.ส.ปารีณา ที่เห็นว่ากมธ.มีอำนาจปลดประธานฯ ส่วนกมธ.ที่เหลือ งดออกเสียง จึงทำให้ที่ประชุมยกเรื่องการปลดประธานฯ ออกจากการพิจารณา
ต่อมานายสิระ ได้ออกมาแถลงข่าวว่า แม้ที่ประชุม จะมีมติเสียงข้างมากไปแล้ว แต่ตนจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ โดยจะดำเนินการต่อไปใน 3 แนวทาง ได้แก่ 1. จะเสนอเรื่องต่อประธานสภาฯ ให้ตรวจสอบพฤติกรรมประธานกมธ. ในการกระทำดังกล่าว โดยมีการใช้ตำแหน่ง รวมถึงมติในกมธ. ว่าสามารถปลดประธานฯ ได้หรือไม่ 2. ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ จะยื่นหนังสือต่อประธานป.ป.ช. เพื่อให้สอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่ามีพฤติกรรมโดยมิชอบ และ 3. หารือในที่ประชุมสภา โดยจะสอบถามว่าตำแหน่งกมธ.มีอำนาจแค่ไหน
ทำให้น.ส.ปารีณา กล่าวต่อที่ประชุมว่า หากเอาส.ส.สอบตกนั่งตรงไหนก็ได้ ตนก็จะนั่งตามใจบ้าง ว่าแล้วก็ลากเก้าอี้ไปนั่งข้างๆ พล.ต.อ.พิศุทธ์ จน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แซวว่าได้นั่งข้างคนสวย อย่าเผลอกอดผมนะ
จากนั้นก่อนจะเข้าเรื่องหารือยังเกิดความวุ่นวายเมื่อน.ส.ปารีณา พิมพ์ข้อความในโทรศัพท์มือถือ ทำให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เหลือบไปมอง และสั่งห้ามใช้เครื่องมือสื่อสาร นายสิระ ทักท้วงว่าน.ส.ปารีณา แค่ใช้โทรศัพท์เท่านั้น ไม่ได้ก่อความวุ่นวายกวนประสาทใคร และยังกล่าวว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ คงไม่ได้มองโทรศัพท์ แต่มองอย่างอื่นของน.ส.ปารีณา โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าน.ส.ปารีณาไม่มีอะไรน่ามอง พร้อมสั่งห้าม น.ส.ปวีณาใช้เครื่องมือสื่อสารในที่ประชุม
จากนั้นที่ประชุมเข้าสู่วาระ ที่นายสิระจะเสนอให้ที่ประชุมปลด ประธานกมธ.ว่ามีอำนาจตามข้อบังคับสามารถทำได้หรือไม่ โดยนายธีรัจชัย ยืนยันตามข้อบังคับข้อที่ 93 ว่า ตำแหน่งกมธ. เป็นไปตามอัตราส่วนของส.ส.แต่ละพรรคการเมือง แล้วจึงให้คณะกมธ. เห็นชอบ จึงมองว่าคณะกมธ. ไม่สามารถปลดประธานฯออกจากตำแหน่งได้ เว้นแต่จะได้รับการยินยอมจากประธานฯ หรืออัตราส่วนของส.ส.มีความเปลี่ยนแปลงไป
ส่วนนายสิระ ชี้แจงว่า ตำแหน่งประธานกมธ.ชุดนี้ เป็นโควตาของฝ่ายค้าน แต่ไม่เกี่ยวกับการกำหนดตัวบุคคล และมติที่แต่งตั้งประธานฯ ก็เป็นมติจาก กมธ.ทั้ง 15 คน ตำแหน่งประธานฯ จึงไม่ใช่ตำแหน่งส่วนตัว คณะกมธ.สามารถปลดได้
ขณะที่กมธ.ในสัดส่วนรัฐบาลคนอื่นๆเสนอให้นำเรื่องเข้าหารือกับประธานสภาฯ ในที่ประชุมใหญ่
จนท้ายที่สุด ที่ประชุมมีมติฝ่ายค้าน 7 เสียง เห็นว่า กมธ.ไม่มีอำนาจปลดประธานฯ ฝ่ายรัฐบาล 2 เสียง ประกอบด้วย นายสิระและน.ส.ปารีณา ที่เห็นว่ากมธ.มีอำนาจปลดประธานฯ ส่วนกมธ.ที่เหลือ งดออกเสียง จึงทำให้ที่ประชุมยกเรื่องการปลดประธานฯ ออกจากการพิจารณา
ต่อมานายสิระ ได้ออกมาแถลงข่าวว่า แม้ที่ประชุม จะมีมติเสียงข้างมากไปแล้ว แต่ตนจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ โดยจะดำเนินการต่อไปใน 3 แนวทาง ได้แก่ 1. จะเสนอเรื่องต่อประธานสภาฯ ให้ตรวจสอบพฤติกรรมประธานกมธ. ในการกระทำดังกล่าว โดยมีการใช้ตำแหน่ง รวมถึงมติในกมธ. ว่าสามารถปลดประธานฯ ได้หรือไม่ 2. ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ จะยื่นหนังสือต่อประธานป.ป.ช. เพื่อให้สอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่ามีพฤติกรรมโดยมิชอบ และ 3. หารือในที่ประชุมสภา โดยจะสอบถามว่าตำแหน่งกมธ.มีอำนาจแค่ไหน