“สมคิด” ขอบคุณ Google for Thailand ช่วยให้คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยี พร้อมเสนอให้ตั้งสำนักงานภูมิภาคในไทย ก่อนไปอ้อน “ประธาน CCPIT” ชวนนักท่องเที่ยวจีนจากมณฑลกวางตุ้งมาไทยให้ได้ 10 ล้านคน พร้อมเพิ่มเที่ยวบินอำนวยความสะดวก ด้าน ส.อ.ท.เผย 20 บริษัทจีนลงพื้นที่ EEC ดูลู่ทางวันนี้ (15 พ.ย.) นายกฯนั่งหัวโต๊ะประชุมหอการค้า ปิ๊งไอเดียจัดมหกรรมดนตรีโลกดึงดูดนักท่องเที่ยว
วานนี้ (14 พ.ย.) ที่ห้องบอลรูมโรงแรมพาร์ค ไฮแอท แบงค็อก ถ.วิทยุ กทม. Google ประเทศไทย ได้จัดงาน Google for Thailand 2019 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยมี ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน ผู้อำนวยการโครงการการศึกษาสันนิษฐานรูปแบบพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) และสื่อความหมายด้วยเทคโนโลยี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และผู้บริหาร Google นำโดย สเตฟานี่ เดวิส กรรมการผู้จัดการ Google เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
สำหรับงานปีนี้ Google ได้ชูแนวคิด Leave no Thai Behind และประกาศพันธกิจหลัก 4 ด้าน ได้แก่ การสร้างโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี, การส่งเสริมทักษะดิจิทัล, การพัฒนาเนื้อหาและผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน และการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่ง Google ได้พัฒนาโครงการริเริ่มเหล่านี้เพื่อให้มั่นใจว่าคนไทยทุกคนจะเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างเท่าเทียมและต่อยอดไปสู่โอกาสที่มีอยู่อย่างมหาศาลในยุคดิจิทัล
ชวนตั้ง สนง.ไทยศูนย์กลาง CLMV
ช่วงหนึ่ง นายสมคิด ได้ขึ้นกล่าวขอบคุณ Google ประเทศไทย บนเวทีด้วยว่า Google เป็นองค์กรที่เข้ามาคุยกับภาครัฐด้วยความตั้งใจเสนอความช่วยเหลือให้คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้ดีขึ้น ซึ่งต้องขอบคุณ Google ที่ทำตามสัญญาผ่าน Google for Thailand เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการช่วยผลักดันไทยแลนด์ 4.0 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีจนอยากเห็น Google มาช่วยประเทศไทย มาพัฒนาทางด้านนี้ทั้งการศึกษา สาธารณสุข การแนะนำแหล่งท่องเที่ยว การรักษาสิ่งแวดล้อม ไทยเปิดรับแนวร่วมจากมิตรประเทศทั้งหลาย ไม่ใช่แค่จีนหรือสหรัฐอเมริกา แต่ทุกๆ ประเทศที่มาเป็นเพื่อนของเรา ปีที่ผ่านมารัฐบาลลงทุนจำนวนมากในการทำอินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน แม้จะกระจายได้ทั่ว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเปลี่ยนให้หมู่บ้านไปสู่สิ่งที่ต้องการคือในแง่ของการศึกษา สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข ซึ่ง Google เข้ามาต่อยอดผ่านการทำโครงการ Google for Thailand
“ผมอยากให้ Google พิจารณาการลงทุนในไทย ให้มาตั้งสำนักงานภูมิภาค (Regional Headquater) ในประเทศไทย ไม่ใช่สิงคโปร์หรือเวียดนาม ซึ่งไทยถือเป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศ CLMV อันประกอบไปด้วย ลาว กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมา ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังรอคำตอบนี้อยู่” นายสมคิด ระบุ
ดึงลงทุน-ท่องเที่ยวจาก “กวางตุ้ง” เพิ่ม
ต่อมาที่สำนักงานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่าง ส.อ.ท.กับ คณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมณฑลกวางตุ้ง (China Council for the Promotion of International Trade Guangdong Committee: CCPIT) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและอำนวยความสะดวกทางธุรกิจระหว่างกัน โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม
โอกาสนี้ นายสมคิด เปิดเผยว่า ได้เจรจาขอให้ นายฟาง ลี่ ซวี่ ประธาน CCPIT ชักชวนนักท่องเที่ยวจีนจากมณฑลกวางตุ้งเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยให้ได้ถึง 10 ล้านคนในปี 2562 นี้ ซึ่งไทยพร้อมจะอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ รองรับ อาทิ เตรียมที่จะหารือกับสายการบินเอกชนไทยให้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้ถี่ขึ้นในการรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนมากขึ้น นอกจากนี้มณฑลกวางตุ้งมีศักยภาพทางนวัตกรรม มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีเขตเศรษฐกิจพิเศษถึง 3 แห่ง คือ เมืองเซินเจิ้น เมืองจูไห่ และเมืองซัวเถา มีบทบาทอย่างมากในกรอบความร่วมมือเขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจปากแม่น้ำจูเจียง (PRD) และยังเป็นศูนย์กลางของ งานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ Canton Fair อีกด้วยซึ่งพบว่ามีนักลงทุนที่มีศักยภาพทั้งอุตสาหกรรมเกษตร เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนยังไทยจึงจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดึงลงทุน
ขณะที่ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวเสริมว่า การเดินทางมาเยือนไทนของคณะ CCPIT ครั้งนี้ได้มีผู้ประกอบการรายใหญ่เดินทางมาศึกษาลู่ทางการลงทุนกว่า 20 ราย รวมทั้งจะลงไปดูพื้นที่จริงในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าจะเห็นตัวเลขการลงทุนจากมณฑลกวางตุ้งเพิ่มขึ้นอีกมาก
นายกฯปิ๊งจัดมหกรรมดนตรีโลก
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวไทย โดยภายหลังการประชุม นายกฯ กล่าวว่า ได้รับฟังจากภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ค้าปลีก และในเรื่องของเมืองหลัก เมืองรอง รวมถึงการใช้ประโยชน์จากดิจิทัล เข้ามาบริหารงาน นอกจากนั้นยังมีเรื่องของกฎหมายต่างๆ วิธีการปฏิบัติที่อาจจะล้าสมัย ที่จำเป็นต้องปรับแก้ในอนาคต โดยก่อนหน้านี้ได้มีการปรับแก้ไปหลายอย่างแล้ว ทางการประชาสัมพันธ์ในสิ่งที่ดีงามของประเทศที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก การสร้างบ้านเมืองให้น่าอยู่น่าเที่ยว ข้อสำคัญคือทุกคนต้องรู้จักเผื่อแผ่ แบ่งปัน ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ รายเล็ก จะช่วยเหลือกันอย่างไร หลายอย่างต้องขับเคลื่อนด้วยการประชุมขนาดใหญ่ อย่างที่สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม (Mice) ทำอยู่ เช่น การจัดกีฬา การจัดดนตรี
"ผมก็คิดมานานแล้ว เรื่องการจัดมหกรรมดนตรีจะทำได้ไหม เอานักดนตรีที่มีชื่อเสียงของโลก ซึ่งก็มีแนวทางถ้าจัดได้ ในสถานที่สำคัญสวยงามของประเทศไทย ก็จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวที่ชอบฟังเพลงเหล่านี้มาได้ไหม เหมือนเทศกาลดนตรี ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ก็จะมีแต่ของเก่าๆ แต่ก็ต้องมีการลงทุน ทุกคนต้องร่วมไปด้วยกันทั้งหมด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
วานนี้ (14 พ.ย.) ที่ห้องบอลรูมโรงแรมพาร์ค ไฮแอท แบงค็อก ถ.วิทยุ กทม. Google ประเทศไทย ได้จัดงาน Google for Thailand 2019 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยมี ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน ผู้อำนวยการโครงการการศึกษาสันนิษฐานรูปแบบพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) และสื่อความหมายด้วยเทคโนโลยี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และผู้บริหาร Google นำโดย สเตฟานี่ เดวิส กรรมการผู้จัดการ Google เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
สำหรับงานปีนี้ Google ได้ชูแนวคิด Leave no Thai Behind และประกาศพันธกิจหลัก 4 ด้าน ได้แก่ การสร้างโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี, การส่งเสริมทักษะดิจิทัล, การพัฒนาเนื้อหาและผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน และการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่ง Google ได้พัฒนาโครงการริเริ่มเหล่านี้เพื่อให้มั่นใจว่าคนไทยทุกคนจะเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างเท่าเทียมและต่อยอดไปสู่โอกาสที่มีอยู่อย่างมหาศาลในยุคดิจิทัล
ชวนตั้ง สนง.ไทยศูนย์กลาง CLMV
ช่วงหนึ่ง นายสมคิด ได้ขึ้นกล่าวขอบคุณ Google ประเทศไทย บนเวทีด้วยว่า Google เป็นองค์กรที่เข้ามาคุยกับภาครัฐด้วยความตั้งใจเสนอความช่วยเหลือให้คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้ดีขึ้น ซึ่งต้องขอบคุณ Google ที่ทำตามสัญญาผ่าน Google for Thailand เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการช่วยผลักดันไทยแลนด์ 4.0 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีจนอยากเห็น Google มาช่วยประเทศไทย มาพัฒนาทางด้านนี้ทั้งการศึกษา สาธารณสุข การแนะนำแหล่งท่องเที่ยว การรักษาสิ่งแวดล้อม ไทยเปิดรับแนวร่วมจากมิตรประเทศทั้งหลาย ไม่ใช่แค่จีนหรือสหรัฐอเมริกา แต่ทุกๆ ประเทศที่มาเป็นเพื่อนของเรา ปีที่ผ่านมารัฐบาลลงทุนจำนวนมากในการทำอินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน แม้จะกระจายได้ทั่ว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเปลี่ยนให้หมู่บ้านไปสู่สิ่งที่ต้องการคือในแง่ของการศึกษา สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข ซึ่ง Google เข้ามาต่อยอดผ่านการทำโครงการ Google for Thailand
“ผมอยากให้ Google พิจารณาการลงทุนในไทย ให้มาตั้งสำนักงานภูมิภาค (Regional Headquater) ในประเทศไทย ไม่ใช่สิงคโปร์หรือเวียดนาม ซึ่งไทยถือเป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศ CLMV อันประกอบไปด้วย ลาว กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมา ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังรอคำตอบนี้อยู่” นายสมคิด ระบุ
ดึงลงทุน-ท่องเที่ยวจาก “กวางตุ้ง” เพิ่ม
ต่อมาที่สำนักงานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่าง ส.อ.ท.กับ คณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมณฑลกวางตุ้ง (China Council for the Promotion of International Trade Guangdong Committee: CCPIT) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและอำนวยความสะดวกทางธุรกิจระหว่างกัน โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม
โอกาสนี้ นายสมคิด เปิดเผยว่า ได้เจรจาขอให้ นายฟาง ลี่ ซวี่ ประธาน CCPIT ชักชวนนักท่องเที่ยวจีนจากมณฑลกวางตุ้งเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยให้ได้ถึง 10 ล้านคนในปี 2562 นี้ ซึ่งไทยพร้อมจะอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ รองรับ อาทิ เตรียมที่จะหารือกับสายการบินเอกชนไทยให้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้ถี่ขึ้นในการรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนมากขึ้น นอกจากนี้มณฑลกวางตุ้งมีศักยภาพทางนวัตกรรม มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีเขตเศรษฐกิจพิเศษถึง 3 แห่ง คือ เมืองเซินเจิ้น เมืองจูไห่ และเมืองซัวเถา มีบทบาทอย่างมากในกรอบความร่วมมือเขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจปากแม่น้ำจูเจียง (PRD) และยังเป็นศูนย์กลางของ งานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ Canton Fair อีกด้วยซึ่งพบว่ามีนักลงทุนที่มีศักยภาพทั้งอุตสาหกรรมเกษตร เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนยังไทยจึงจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดึงลงทุน
ขณะที่ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวเสริมว่า การเดินทางมาเยือนไทนของคณะ CCPIT ครั้งนี้ได้มีผู้ประกอบการรายใหญ่เดินทางมาศึกษาลู่ทางการลงทุนกว่า 20 ราย รวมทั้งจะลงไปดูพื้นที่จริงในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าจะเห็นตัวเลขการลงทุนจากมณฑลกวางตุ้งเพิ่มขึ้นอีกมาก
นายกฯปิ๊งจัดมหกรรมดนตรีโลก
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวไทย โดยภายหลังการประชุม นายกฯ กล่าวว่า ได้รับฟังจากภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ค้าปลีก และในเรื่องของเมืองหลัก เมืองรอง รวมถึงการใช้ประโยชน์จากดิจิทัล เข้ามาบริหารงาน นอกจากนั้นยังมีเรื่องของกฎหมายต่างๆ วิธีการปฏิบัติที่อาจจะล้าสมัย ที่จำเป็นต้องปรับแก้ในอนาคต โดยก่อนหน้านี้ได้มีการปรับแก้ไปหลายอย่างแล้ว ทางการประชาสัมพันธ์ในสิ่งที่ดีงามของประเทศที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก การสร้างบ้านเมืองให้น่าอยู่น่าเที่ยว ข้อสำคัญคือทุกคนต้องรู้จักเผื่อแผ่ แบ่งปัน ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ รายเล็ก จะช่วยเหลือกันอย่างไร หลายอย่างต้องขับเคลื่อนด้วยการประชุมขนาดใหญ่ อย่างที่สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม (Mice) ทำอยู่ เช่น การจัดกีฬา การจัดดนตรี
"ผมก็คิดมานานแล้ว เรื่องการจัดมหกรรมดนตรีจะทำได้ไหม เอานักดนตรีที่มีชื่อเสียงของโลก ซึ่งก็มีแนวทางถ้าจัดได้ ในสถานที่สำคัญสวยงามของประเทศไทย ก็จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวที่ชอบฟังเพลงเหล่านี้มาได้ไหม เหมือนเทศกาลดนตรี ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ก็จะมีแต่ของเก่าๆ แต่ก็ต้องมีการลงทุน ทุกคนต้องร่วมไปด้วยกันทั้งหมด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว