xs
xsm
sm
md
lg

เค้นสอบ12แนวร่วมBRN ปัดร่วมก่อเหตุถล่ม"ป้อมชรบ."

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยผลเค้นสอบ 12 แนวร่วม พบทั้งหมดอยู่ในขบวนการ“บีอาร์เอ็น”จริง แต่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุบุกถล่มยิงป้อมยาม ชรบ.ทางลุ่ม ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา ด้านหน่วยข่าวแจ้งเตือนรถกระบะถูกโจรกรรม หวั่นคนร้ายเตรียมนำประกอบคาร์บอมบ์

วานนี้ (10 พ.ย.) ศปก.สน. บชภ.9 ได้มีวิทยุด่วนให้เจ้าหน้าที่ทุก สภ.และชุดปฏิบัติการจุดตรวจจุดสกัดให้ตรวจสอบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีน้ำตาล ทะเบียน บฉ 4868 นราธิวาส ซึ่งจอดไว้ที่บ้านตันหยง ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ถูกคนร้ายโจรกรรมไปซึ่งอาจจะเป็นการกระทำของ “แนวร่วม”ขบวนการแบ่งแยกดินแดน เพื่อนำไปประกอบเ“คาร์บอมบ์”ก่อเหตุร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จึงให้ทุกหน่วยเร่งตรวจสอบติดตามรถยนต์คันดังกล่าวโดยด่วน รวมทั้งให้กองกำลังทุกหน่วยในพื้นที่ระวังป้องกันเหตุคาร์บอมบ์ ที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย

รายงานข่าวจากชุดสอบสวนผู้ต้องสงสัย ที่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ บุกเข้าค้นในบ้านเรือนและโรงเรียนสอนศาสนาหลายแห่งในพื้นที่ ต.ลำพะยา ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา และอีกหลายพื้นที่ใน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จำนวน 12 คน ซึ่งจากการสอบสวน พบว่าทั้งหมดเป็นแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน หรือ “บีอาร์เอ็น”จริง แต่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุบุกถล่มป้อมยาม ชรบ.ทางลุ่ม ต.ลำพะยา โดยตรง แค่มีส่วนรู้เห็น และให้รายละเอียดได้ว่าเป็นกลุ่มบีอาร์เอ็นกลุ่มไหน แต่ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดไม่ใช่กลุ่มที่เข้าร่วมปฏิบัติการโจมตี ชรบ.ที่เสียชีวิตครั้งนี้ และที่สำคัญมีผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และถูกเค้นสอบให้รับความจริง เพราะเจ้าหน้าที่ มีหลักฐานจากผ้าพันแผลเปื้อนเลือดที่ถังขยะหน้าบ้านนั้น กลายเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะผ้าพันแผลเปื้อนเลือดดังกล่าว เป็นของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ที่อยู่บ้านติดกัน

ส่วนในการตรวจสอบพยานวัตถุที่เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวม ทั้งจากในที่เกิดเหตุ และในเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีหลังการโจมตี พบว่าปลอกกระสุนปืนยิงเร็วที่ตกในที่เกิดเหตุ เป็นกระสุนที่มาจากหน่วยงานของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นหลักฐานที่เชื่อมโยงให้เห็นว่า ระเบิดแสวงเครื่องและกระสุนปืนที่คนร้าย ใช้ในการโจมตีเจ้าหน้าที่ และประชาชน เป็นกระสุนที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากนั้น เหตุการณ์โจมตีป้อมยามจุดตรวจ ชรบ. ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 15 ศพครั้งนี้ ผู้คนในพื้นที่ได้ให้ความสนใจกับจดหมายที่อ้างความรับผิดชอบในการโจมตีกองกำลังท้องถิ่นที่เป็นประชาชน ว่า เป็นการปฏิบัติการของขบวนการ "บีอาร์เอ็นโคออดิเนต" โดยในจดหมายได้แสดงความเสียใจกับการสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่ บีอาร์เอ็น อ้างว่า การต่อสู้ต้องดำเนินการต่อไป เพราะรัฐไทยไม่จริงใจในการแก้ปัญหาโดยอ้างว่าในขณะที่รัฐไทยพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการพูดคุยกับบีอาร์เอ็น แต่ในพื้นที่มีการสั่งการให้ฆ่าคนของบีอาร์เอ็น และยังอ้างถึงความชอบธรรมอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ บีอาร์เอ็น ได้กล่าวอ้างมาตลอดเวลา

สำหรับจดหมายหรือเอกสารแถลงการณ์ดังกล่าว มีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นของจริง หรือเป็นของปลอม เพราะที่ผ่านมาจดหมาย หรือแถลงการณ์ที่มาจาก บีอาร์เอ็น ต้องเป็นภาษารูมี และมีผู้แปลเป็นภาษาไทย แต่ครั้งนี้ยังไม่มีจดหมายที่เป็นภาษารูมี แต่เป็นภาษาไทยอย่างเดียว ซึ่งจากการตรวจสอบของหน่วยงานความมั่นคง เชื่อว่าเป็นจดหมายของบีอาร์เอ็นจริง แต่ออกมาจากฝ่ายวิชาการของขบวนการบีอาร์เอ็น ในพื้นที่ ซึ่งต้องการสื่อให้รับรู้ว่า เป็นการปฏิบัติการของบีอาร์เอ็น ที่เกิดจากความขัดแย้งกับรัฐไทย

ความจริงหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บีอาร์เอ็น เคยรับว่าเป็นการปฏิบัติการของตนเอง และเสียใจที่มีพลเรือนได้รับผลกระทบ เช่น การวางระเบิดห้างบิ๊กซี ที่จ.ปัตตานี และอีกหลายเหตุการณ์ เพียงแต่หน่วยงานความมั่นคงพยายามปกปิด ไม่ต้องการให้รับรู้ว่าการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของบีอาร์เอ็น เพราะไม่ต้องการให้เห็นว่า บีอาร์เอ็น มีศักยภาพในการก่อการร้าย ซึ่งที่ผ่านมาบีอาร์เอ็น ก็ได้ประโยชน์จากการปกปิดของหน่วยงานความมั่นคง เพราะทำให้ประชาชนสับสน เพราะไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร ในขณะที่แนวร่วมบีอาร์เอ็นในพื้นที่ ก็ถือโอกาสป้ายสีด้วยการใส่ร้ายว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐ

ในครั้งนี้ก็เช่นกัน หน่วยงานความมั่นคงได้พยายามตั้งข้อสังเกตเพื่อบอกกับประชาชนว่า จดหมาย หรือแถลงการณ์ของบีอาร์เอ็น เป็นการกระทำของมือที่สาม ที่แอบอ้างบีอาร์เอ็น แต่ก็ไม่มีรายละเอียดว่า การแอบอ้างบีอาร์เอ็น ของมือที่สาม มีวัตถุประสงค์อะไร และล่าสุดแกนนำของบีอาร์เอ็นในประเทศเพื่อนบ้านได้ยอมรับว่าจดหมาย หรือแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นของบีอาร์เอ็นจริง เป็นการแจ้งให้ทราบว่า บีอาร์เอ็นพร้อมในการปฏิบัติการด้วยความรุนแรง หากรัฐไทยยังไม่หยุดนโยบาย 2 หน้า

เจ้าหน้าที่การข่าวระดับสูงของหน่วยข่าวความมั่นคง เปิดเผยว่า การที่บีอาร์เอ็น ไม่ปฏิเสธในสิ่งที่เกิดขึ้นและออกมารับว่าเป็นผู้กระทำต่อ ชรบ. เป็นเรื่องที่ดี เพราะคนในพื้นที่จะได้เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา หน่วยงานความมั่นคงทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ จะปกปิดไม่ยอมรับว่าเหตุร้ายทั้งหมดเป็นฝีมือของบีอาร์เอ็น และการที่ บีอาร์เอ็น ออกมารับความจริง แสดงว่า บีอาร์เอ็นมีความพร้อมที่จะเปิดเผยตัวตน ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงต้องรับมือกับสถานการณ์ที่จะติดตามมา

ด้าน พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. กล่าวว่า ในมิติของฝ่ายพลเรือน ได้ลงพื้นที่เยี่ยมปลอบขวัญ แสดงความเสียใจ และให้กำลังใจทุกครอบครัวที่ได้รับความสูญเสียในครั้งนี้ เพื่อที่จะทำการเยียวยาแต่ละครอบครัว ซึ่งมีความเป็นอยู่ที่ไม่เหมือนกัน เราจะต้องช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียสละทุกวิถีทางให้เขามีอาชีพ มีรายได้ ซึ่งรัฐบาลได้สั่งการให้ดูแลครอบครัวเหล่านี้ให้ดีที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น