xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มต้านเหมืองทองยื่นเรื่องร้องนายกฯเรียกค่าเสียหายเอกชน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360 - เครือข่ายคนต้านเหมืองทองรอยต่อพิจิตร-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ รวมตัวเดินสายยื่นเรื่องฟัน “สุริยะ” ละเว้นเอาผิดกับเอกชน-เรียกค่าเสียหาย 1.4 แสนล้านบาท แต่กลับประเคนผลโยชน์ตอบแทน ชี้เคยเซ็นอาชญาบัตรวันเดียว 51 แปลงรวด-ชงข้อเสนอส่อเอื้อบริษัทเปิดเหมืองใหม่ซ้ำ

วานนี้ (6 พ.ย.) นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ และ นางอารมย์ คำจริง พร้อมเครือข่ายประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ (ปปท.) ได้เดินทางเข้ายื่นเรื่องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา รวมทั้งสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม, นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ตามมาตรา 151 และ 157

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากพบบริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) บริษัทคิงส์เกต ได้ขุดถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1301 และทางสาธารณประโยชน์ อันเป็นการทำเหมืองนอกเขตประทานบัตร ซึ่งไม่เคยได้รับอนุญาตให้ขุดถนน และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ได้สอบสวนแล้วพบการกระทำความผิดจริง-สรุปความเห็นสั่งฟ้องไปยังอัยการคดีพิเศษแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 รวมถึงพบการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535, เปลี่ยนแปลงแผนผังและโครงการทำเหมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.แร่ 2510 และการไม่จัดทำ EIA ตาม พ.ร.บ.สิ่งแลดล้อม 2535 ซึ่งเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายไทย และผิดเงื่อนไขท้ายประทานบัตร

จากประเด็นดังกล่าวนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม จะต้องดำเนินการตามกฎหมายและเรียกค่าเสียหายทุกกรณี จากบริษัทอัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) มูลค่า 140,000 ล้านบาท ปรากฏตามหนังสือกลุ่มประชาสัมพันธ์กรมปฏิรูปทรัพยากรแร่ทองคำฉบับวันที่ 24 ธันวาคม 2561

ต่อมานายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ได้ลงนามหนังสือฉบับวันที่ 4 มีนาคม 2562 แจ้งว่า กรณีดังกล่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ได้เป็นผู้ดำเนินการแล้ว ซึ่งไม่ตรงกับความจริงแต่อย่างใดทั้งสิ้น เนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ยังไม่ได้ดำเนินการในส่วนเรียกค่าเสียหายดังกล่าว

กระทั่ง 25 ก.ค. 62 และวันที่ 13 ส.ค. 62 ตัวแทน ปปท.และประชาชนได้ร่วมกันยื่นหนังสือต่อนายสุริยะ ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เรียกค่าเสียหายจากบริษัทอัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือบริษัท คิงส์เกต ด้วยการเพิกถอนประทานบัตร และติดตามเรียกค่าเสียหายมูลค่า 140,000 ล้านบาท แต่นายสุริยะ ไม่ได้เร่งดำเนินการ ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 62 นายสุริยะ และนายวิษณุ ได้ออกมาระบุทำนองว่า เรื่องเกี่ยวกับบริษัท คิงส์เกต อยู่ในขั้นตอนอนุญาโตตุลาการ ซึ่งมีข้อจำกัดทั้งสองฝ่ายจะต้องไม่เปิดเผยเรื่องการเจรจาหรือเรื่องค่าเสียหายต่างๆ ที่มีการเรียกร้องกันถือว่าเป็นความลับ

การให้สัมภาษณ์บางช่วง นายสุริยะ เข้าข่ายลักษณะการช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ให้บริษัทฯ ไม่ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของไทย พร้อมอ้างถ้ามีการเจรจาหาข้อยุติได้ทั้งสองฝ่ายก็จะเป็นประโยชน์ทำให้รัฐก็ ไม่ถูกฟ้องร้อง-โครงการก็เดินต่อไปได้

นอกจากนี้ ยังมีการเสนอต่อ ครม.ถึงทางออกเรื่องดังกล่าว 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.จ่ายเงินให้กับบริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) แล้วให้เลิกกิจการไป 2. ดำเนินการตามข้อเสนอของบริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะช่วยให้อาจไม่ต้องจ่ายเงิน 3. รอผลการตัดสินของอนุญาโตตุลาการแล้วปฏิบัติตาม และ 4. หาช่องจ่ายเงินค่าปรับบางส่วน โดยให้ชดเชยค่าเสียหายแล้วให้ดำเนินกิจการต่อ

กรณีดังกล่าวนี้ แสดงเห็นเห็นว่า นายสุริยะ ไม่ได้ดำเนินการเรียกค่าเสียหายจากบมจ.อัครารีซอร์สเซส มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท แต่กลับเสนอ 4 ทองออก ซึ่งทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหาย

ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ นายสุริยะ ยังเคยเป็นผู้ลงนามอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษไว้ให้กับบริษัทอัคราฯ วันเดียวถึง 51 แปลง พื้นที่มากกว่า 5 แสนไร่ โดยทับซ้อนลงบนที่ดินอยู่อาศัยทำกินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรณีนี้เคยยื่นเรื่องไว้ต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้สอบสวนในคดีเหมืองทองคำเนื่องจากอาจเป็นนโยบายทุจริตหรือไม่และยังอยู่ระหว่างสอบสวนมาจนถึงขณะนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น