xs
xsm
sm
md
lg

"เสรีพิศุทธ์ VSปารีณา"มวยถูกคู่ พปชร.แท็กทีมป่วนสกัดป่วน!!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

จะเรียกว่าเจอศึกหนักตีโต้เอาคืนกลับมาเป็นขบวนก็ว่าได้ สำหรับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร หลังจากก่อนหน้านี้เขาได้ใช้อำนาจในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ชุดดังกล่าว เรียก “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาชี้แจงในกรณีระบุว่ามีการถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วน และอาจส่งผลต่อการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 มิชอบ รวมไปถึงเรียก“บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาชี้แจง โดยบอกว่าจะขุดคุ้ยเกี่ยวกับเรื่องการครอบครองนาฬิกาหรูก่อนหน้านี้
ที่ผ่านมาก็มีเสียงวิจารณ์ตอบโต้กันไปมาระหว่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กับฝ่ายรัฐบาล และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่ามีอำนาจในการเชิญบุคคลดังกล่าวมาชี้แจงตามกฎหมาย พร้อมขู่ว่าหากไม่มาอาจต้องติดคุก ขณะที่มีการตอบโต้กลับไปในทำนองว่า เขาใช้อำนาจเกินหน้าที่ อีกทั้งเรื่องที่เรียกมาชี้แจงก็ไม่ได้เข้าข่ายตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการชุดนี้ หรือเห็นว่าเรื่องจบไปแล้วตั้งแต่ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่รับพิจารณาในเรื่องการถวายสัตย์ฯไม่ครบตามคำร้อง หรือหากพิจารณากันแบบชาวบ้านก็คือ การเรียกมาชี้แจงในเรื่องนี้ถือว่า“ไทม์มิ่ง”ไม่ได้ ไม่มีกระแส ไม่มีใครสนใจ ตรงกับข้ามกลับมองว่า“เล่นไม่เลิก”
อย่างไรก็ดี สำหรับท่าทีของ “บิ๊กตู่”และ “บิ๊กป้อม”ที่ผ่านมา ถือว่ายัง “ลู่ตามลม”ไม่มาแบบแข็งกร้าวตอบโต้ แต่ใช้วิธีแบ่งรับแบ่งสู้ ประวิงเวลาไปตามสถานการณ์ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยบอกว่า“หากต้องไปก็ไป”แต่ตอนนี้ก็ต้องรอความชัดเจนก่อน อะไรประมาณนั้น และที่ผ่านมาทางเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายดิสทัต โหตระกิตย์ ที่เคยเป็นเลขาธิการกฤษฎีกาเก่า เคยทำหน้าที่สอบถามความชัดเจนไปยังคณะกรรมาธิการฯ ว่าต้องการให้ชี้แจงในประเด็นไหนกันแน่ ขณะที่ “บิ๊กป้อม”ก็ยังเด้งเชือก ส่งหนังสือเลื่อนชี้แจงไปก่อน
จนกระทั่งได้เห็นการเคลื่อนไหวที่น่าจับตาเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือ ได้เห็นการลาออกจากคณะกรรมาธิการชุดนี้พร้อมกันถึงสองคน ของส.ส.พรรคพลังประชารัฐ คือ นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา และนายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลฯ พร้อมกับให้ข่าวโจมตีการทำงาน ในฐานะประธานกรรมาธิการของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อย่างรุนแรง ในทำนองไม่ฟังใคร และไม่เข้าใจบทบาทของการทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการ จนสร้างความอึดอัดไม่อาจทำงานร่วมกันได้อีกต่อไป
** และที่เรียกเสียงฮือฮาก็คือมีการเปลี่ยนตัวบุคคลเข้าไปทำหน้าที่แทนสองคน คือ "นายสิระ เจนจาคะ" ส.ส.กรุงเทพฯ และ "น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์" ส.ส.ราชบุรี แค่คนแรกก็ต้อง "ซี๊ดปาก" แล้ว เมื่อได้เห็นชื่อ“ปารีณา”ก็ต้องบอกว่า ชื่อนี้ “รับประกันซ่อมฟรี”ไม่ผิดหวังแน่นอน และก็ตามคาด เมื่อเปิดฉากเธอก็ซัดทันทีว่าจะ “สั่งสอนคนบ้าอำนาจ”แม้จะไม่ระบุชื่อว่าเป็นใคร แต่หากให้คาดเดาก็คงได้คำตอบไม่นัก ขณะที่นายสิระ ก็เรียกร้องให้รีบไปตรวจสุขภาพจิต
จากนั้น น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ที่เคยมีวาทะ“อีช่อ”ลือลั่นสนั่นเมืองมาแล้ว ยังบอกอีกว่า เมื่อมีการเสนอชื่อตัวเองในที่ประชุมสภาฯ ให้เข้าไปทำหน้าที่กรรมาธิการป.ป.ช. แล้ว ก็เตรียมที่เสนอให้มีการตรวจสอบการจัดซื้อรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ของตำรวจในยุคที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส นั่งรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในยุคนั้นด้วย โดยบอกว่าเป็นการจัดซื้อที่มีเงื่อนงำ แพงเกินจริง และไม่มีประสิทธิภาพ ก็ถือว่าเป็นการ“ย้อนเกล็ด”ได้อย่างเจ็บแสบไม่เบา
ขณะเดียวกัน อีกมุมหนึ่ง นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ก็ได้ไปยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้วินิจฉัยว่าการเรียก นายกฯ และรองนายกฯ ในกรณีดังกล่าวของประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สามารถทำได้หรือไม่ เรียกว่าเอากันทุกทาง
แต่ความหมายก็คือ ในทางการเมืองถือว่าเป็นการ “เอาคืน”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส กันแบบ“ย้อนศร”และที่สำคัญการทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการชุดนี้ของเขา จะต้องถูกพันแข้งพันขา ไม่สะดวก ที่สำคัญตัวประธานเองอาจจะต้อง“ตะบะแตก” เมื่อต้องเจอกับลีลายั่วเย้า ยั่วอารมณ์โกรธ ของปารีณา ไกรคุปต์ คนนี้เข้าไป ดังนั้นจะเรียกว่าเป็น “มวยถูกคู่”ก็ไม่ผิดนักที่พรรคพลังประชารัฐ ส่งเข้ามาแก้เกม ในแบบที่ว่า “ใช้การป่วนเพื่อสกัดการป่วน”อะไรแบบนั้น
**งานนี้ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าการทำงานของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ จะออกรสแบบไหน และใครกันแน่จะเป็นฝ่ายถูกตรวจสอบ แต่เชื่อว่าคงสนุกกันไม่เบา !!
กำลังโหลดความคิดเห็น