"ปิยบุตร" ทวีตข้อความถามแฟนคลับ เชื่อ "ธนาธร-ปิยบุตร-อนาคตใหม่" โดนแน่ เพราะผิดจริง หรือเป็นเพราะผู้มีอำนาจมองว่าอันตรายต่อเขา "ตุ๊ดตู่" เชื่อเก็บฉากแน่ ด้านอดีตผู้สมัคร ส.ส.โคราช อนค. เผยสัปดาห์นี้มีสมาชิกพรรคลาออกอีกล็อตใหญ่ เย้ย "ธนาธร" อ้างมีสมาชิกพรรค 6 หมื่น แต่อีก 2 เดือนจะเหลือสักกี่คน เพราะส่วนใหญ่ เป็นสมาชิกรายปี จะไม่ต่ออายุ ซัดในพรรคต้องฟังแค่ 2 คน ไม่ตรงกับอุดมการณ์ที่อ้าง
วานนี้ (3พ.ย.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ทวีตข้อความใน ทวิตเตอร์ Piyabutr Sangkanokkulระบุว่า
"ผมอยากลองถามให้สังคมฉุกคิดกันดูว่า คุณเชื่อว่า ธนาธรโดนแน่ ปิยบุตรโดนแน่ # อนาคตใหม่ โดนแน่ คุณเชื่อแบบนั้น เพราะเราทำผิดจริงๆหรือคุณคิดว่าเราต้องโดน เพียงเพราะผู้มีอำนาจมองว่าพวกนี้เป็นอันตรายต่อเขา ที่ตัดสินไปแล้วว่าโดนแน่ ตัดสินจากเหตุผลชุดไหนกันแน่"
ทั้งนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. เคยกล่าวถึงนายธนาธร ในรายการลมหายใจ พีซทีวีเวทีทัศน์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า แนวโน้มการเมืองในเดือน พ.ย.นี้ คาดการณ์ผ่านช่วงชีวิตต่อสู้ในหลายสิบปี เชื่อว่านอกจากเกิดเรื่องใหญ่ เกี่ยวกับกระบวนการศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยคดีโอนหุ้นสื่อฯ ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในวันที่ 20 พ.ย.แล้ว ยังจะมีอีกหลายเรื่องประเดประดังกันเข้ามา เชื่อมโยงไม่จบสิ้นอีก ซึ่งจากการดูกระดานการเมืองนี้ คิดเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากนายธนาธร จะพ้นสภาพจากการเป็นส.ส. ดังที่ตนเคยโดน ในมาตราเดียวกัน แต่คนละวงเล็บ พ้นสภาพจากส.ส.แน่ แต่จะถูกตัดสิทธิทางการเมืองกี่ปีนั้น อยู่ที่การวินิจฉัยของศาลฯ แม้ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ยังไม่มีเรื่องเกี่ยวข้องกับการยุบพรรค แต่หลังจากนั้นก็คงไม่รอด เรื่องแบบนี้ เมื่อโดนครั้งหนึ่ง ก็มักจะตามมาเป็นรวงผึ้ง
"ผมทำการเมืองมาตั้งแต่เด็ก ในหลายสิบปีมานั้น ผ่านทั้งการเคลื่อนไหวบนถนน และเวทีสภาผู้แทนราษฎร จึงมีความเข้าใจว่า เมื่อขึ้นต้นเหตุการณ์อย่างไร ย่อมจบอย่างไร และปลายทางจะเป็นอย่างไร ในช่วงการชุมนุมทางการเมืองนั้น ผมบอกพรรคพวกเสมอ การตัดสินใจเลือกชีวิต เลือกอนาคตให้เป็นเสรีภาพ ใครจะอยู่ใครจะไป เพราะปลาย ทางมันจบแล้ว" นายจตุพร กล่าว
ด้านนายวรพจน์ บุ่นจันทึก อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 13 จ.นครราชสีมา พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งได้ร่วมกับสมาชิกพรรค 120 คน ไปยื่นขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้ จะมีสมาชิกพรรคไปยื่นลาออกอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมรายชื่อกันอยู่
นายวรพจน์ กล่าวว่า ทุกคนเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพราะอุดมการณ์ และที่ผ่านมาทางหัวหน้าพรรคได้แถลงว่า มีสมาชิกอยู่ประมาณ 60,000 คน แต่อยากให้พรรคมองไปข้างหน้าอีก 2 เดือน เพราะสมาชิกส่วนใหญ่สมัครเป็นรายปี คนที่ไม่ต่ออายุ จะมีอีกจำนวนมาก อยากให้พรรครอดูว่า ภายในสิ้นปี 2562 นี้จะเหลือสมาชิกกี่คน
นายวรพจน์ ยังกล่าวถึง การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่พรรคอนาคตใหม่ จะส่งผู้สมัครลงแข่งขันโดยในการคัดเลือก ผู้สมัครทุกคนจะต้องไปแสดงวิสัยทัศน์ประกอบการคัดเลือก แต่สุดท้ายพรรคก็เลือกคนของตนเองไปสมัคร ซึ่งเป็นการสร้างวาทกรรมให้ประชาชนรับรู้ว่า พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่เปิด แต่จริงๆแล้ว ไม่ใช่ เพราะในพรรค จะฟังแค่ 2 คนเท่านั้น ซึ่งเรามองว่ามันไม่ตรงกับอุดมการณ์ พวกเรา 120 คน จึงเดินออกจากพรรค
"ใครจะว่า 120 คนเผาบ้าน เผาพรรค เราไม่ได้เผาแต่เดินออกด้วยอุดมการณ์ ถึงแม้ว่าทางพรรคใหญ่บางพรรคได้ทาบทามมา แต่พวกเราไม่ไป และจะไม่กลับไปอยู่พรรคอนาคตใหม่ แต่ยังอยู่ฝั่งประชาธิปไตย" นายวรพจน์ กล่าว
วานนี้ (3พ.ย.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ทวีตข้อความใน ทวิตเตอร์ Piyabutr Sangkanokkulระบุว่า
"ผมอยากลองถามให้สังคมฉุกคิดกันดูว่า คุณเชื่อว่า ธนาธรโดนแน่ ปิยบุตรโดนแน่ # อนาคตใหม่ โดนแน่ คุณเชื่อแบบนั้น เพราะเราทำผิดจริงๆหรือคุณคิดว่าเราต้องโดน เพียงเพราะผู้มีอำนาจมองว่าพวกนี้เป็นอันตรายต่อเขา ที่ตัดสินไปแล้วว่าโดนแน่ ตัดสินจากเหตุผลชุดไหนกันแน่"
ทั้งนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. เคยกล่าวถึงนายธนาธร ในรายการลมหายใจ พีซทีวีเวทีทัศน์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า แนวโน้มการเมืองในเดือน พ.ย.นี้ คาดการณ์ผ่านช่วงชีวิตต่อสู้ในหลายสิบปี เชื่อว่านอกจากเกิดเรื่องใหญ่ เกี่ยวกับกระบวนการศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยคดีโอนหุ้นสื่อฯ ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในวันที่ 20 พ.ย.แล้ว ยังจะมีอีกหลายเรื่องประเดประดังกันเข้ามา เชื่อมโยงไม่จบสิ้นอีก ซึ่งจากการดูกระดานการเมืองนี้ คิดเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากนายธนาธร จะพ้นสภาพจากการเป็นส.ส. ดังที่ตนเคยโดน ในมาตราเดียวกัน แต่คนละวงเล็บ พ้นสภาพจากส.ส.แน่ แต่จะถูกตัดสิทธิทางการเมืองกี่ปีนั้น อยู่ที่การวินิจฉัยของศาลฯ แม้ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ยังไม่มีเรื่องเกี่ยวข้องกับการยุบพรรค แต่หลังจากนั้นก็คงไม่รอด เรื่องแบบนี้ เมื่อโดนครั้งหนึ่ง ก็มักจะตามมาเป็นรวงผึ้ง
"ผมทำการเมืองมาตั้งแต่เด็ก ในหลายสิบปีมานั้น ผ่านทั้งการเคลื่อนไหวบนถนน และเวทีสภาผู้แทนราษฎร จึงมีความเข้าใจว่า เมื่อขึ้นต้นเหตุการณ์อย่างไร ย่อมจบอย่างไร และปลายทางจะเป็นอย่างไร ในช่วงการชุมนุมทางการเมืองนั้น ผมบอกพรรคพวกเสมอ การตัดสินใจเลือกชีวิต เลือกอนาคตให้เป็นเสรีภาพ ใครจะอยู่ใครจะไป เพราะปลาย ทางมันจบแล้ว" นายจตุพร กล่าว
ด้านนายวรพจน์ บุ่นจันทึก อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 13 จ.นครราชสีมา พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งได้ร่วมกับสมาชิกพรรค 120 คน ไปยื่นขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้ จะมีสมาชิกพรรคไปยื่นลาออกอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมรายชื่อกันอยู่
นายวรพจน์ กล่าวว่า ทุกคนเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพราะอุดมการณ์ และที่ผ่านมาทางหัวหน้าพรรคได้แถลงว่า มีสมาชิกอยู่ประมาณ 60,000 คน แต่อยากให้พรรคมองไปข้างหน้าอีก 2 เดือน เพราะสมาชิกส่วนใหญ่สมัครเป็นรายปี คนที่ไม่ต่ออายุ จะมีอีกจำนวนมาก อยากให้พรรครอดูว่า ภายในสิ้นปี 2562 นี้จะเหลือสมาชิกกี่คน
นายวรพจน์ ยังกล่าวถึง การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่พรรคอนาคตใหม่ จะส่งผู้สมัครลงแข่งขันโดยในการคัดเลือก ผู้สมัครทุกคนจะต้องไปแสดงวิสัยทัศน์ประกอบการคัดเลือก แต่สุดท้ายพรรคก็เลือกคนของตนเองไปสมัคร ซึ่งเป็นการสร้างวาทกรรมให้ประชาชนรับรู้ว่า พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่เปิด แต่จริงๆแล้ว ไม่ใช่ เพราะในพรรค จะฟังแค่ 2 คนเท่านั้น ซึ่งเรามองว่ามันไม่ตรงกับอุดมการณ์ พวกเรา 120 คน จึงเดินออกจากพรรค
"ใครจะว่า 120 คนเผาบ้าน เผาพรรค เราไม่ได้เผาแต่เดินออกด้วยอุดมการณ์ ถึงแม้ว่าทางพรรคใหญ่บางพรรคได้ทาบทามมา แต่พวกเราไม่ไป และจะไม่กลับไปอยู่พรรคอนาคตใหม่ แต่ยังอยู่ฝั่งประชาธิปไตย" นายวรพจน์ กล่าว