มาเฟียกทม.เขตประเวศ

กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่งส่งหนังสือไปถึงนายวุฒิชัย บุญสิทธิ์ ผอ.เขตประเวศ เป็นฉบับที่ 3 เพื่อทวงถามความคืบหน้าการแก้ปัญหา ข้อร้องเรียนการจอดรถยนต์บนบาทวิถีซอยเฉลิมพระเกียรติ 30 และร้องเรียนให้ตรวจสอบการละเลยปฏิบัติหน้าที่พนักงานฝ่ายเทศกิจ เขตประเวศ มาเห็นข่าวอีกที ผอ.เขตประเวศถูกสั่งย้ายเสียแล้ว

เบื้องหลังการถูกย้าย เกี่ยวโยงกับเรื่องที่ร้องเรียนเขตประเวศไว้เสียด้วย เพราะสาเหตุการถูกย้าย เกิดจากผอ.เขตประเวศ กำลังจะลงโทษเจ้าหน้าที่เขตประเวศที่ปล่อยปละละเลยการปฏิบัติหน้าที่ จนประชาชนผู้ร้องเรียนปัญหาต่างๆ ได้รับความเดือดร้อน

เรื่องที่ร้องเรียนเขตประเวศไว้ เป็นกรณีการจอดรถยนต์บนบาทวิถีของกลุ่มคนที่มักง่าย เห็นแก่ตัว เอาเปรียบสังคม ไม่เคารพกฎหมาย และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สัญจรและการจราจร

รวมทั้งยังมีเรื่องร้องเรียนการนำรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จอดขายข้าวโพดปิ้ง บนผิวจราจรบนถนนเฉลิมพระเกียรติ บริเวณหน้าตลาดราชพฤกษ์ ในชั่วโมงเร่งด่วน ทำให้การจราจรติดขัด

การร้องเรียนดำเนินไปตามขั้นตอน โดยเริ่มร้องเรียนผ่านศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์กทม. 1555 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 ร้องนับสิบครั้ง จนศูนย์ 1555 แทบจะไหม้ แต่ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จ เมื่อทวงถาม มักได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ 1555 ว่า เขตประเวศแจ้งว่า อยู่ระหว่างดำเนินการ

เมื่อร้องผ่านศูนย์ไม่ได้ผล จึงทำหนังสือร้องเรียนไปยังฝ่ายเทศกิจโดยตรง พร้อมกับถ่ายภาพรถยนต์และสถานที่เกิดเหตุเพื่อเป็นหลักฐาน และเฝ้าทวงถามการแก้ปัญหาอยู่หลายครั้ง และเดินทางสอบถามความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจที่ได้รับมอบหมายให้แก้ไขปัญหาโดยตรง แต่ปัญหากลับไม่ได้รับการแก้ไข

จนต้องทำหนังสือทวงถามการแก้ไขปัญหาเป็นครั้งที่ 2 พร้อมร้องเรียนให้สอบสวนการทำงานของเจ้าหน้าที่เทศกิจที่รับผิดชอบ เพราะพฤติกรรมเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ผลของการร้องเรียนรอบที่ 2 ได้หนังสือชี้แจงที่ไร้สาระจากเขตประเวศมา 1 ฉบับ ขณะที่ปัญหาข้อร้องเรียนยังไม่ได้รับการแก้ไขเหมือนเดิม

ประมาณต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จึงทำหนังสือเร่งรัดการแก้ปัญหาฉบับที่ 3 และเวลาล่วงเลยมาประมาณ 3 สัปดาห์ แต่ปัญหาข้อร้องเรียนก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข และคิดว่า ข้อร้องเรียนปัญหาการจอดรถบนบาทวิถี คงไม่ได้รับการตอบสนองจากเขตประเวศแล้ว

ระยะเวลาเกือบ 1 ปี ตั้งแต่ร้องเรียนผ่านศูนย์ 1555 และทำหนังสือร้องเรียนถึงเขตประเวศโดยตรงทั้ง 3 ฉบับ ไม่เคยได้รับการติดต่อกลับจากเขตประเวศแต่อย่างใด แม้จะใส่ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับไว้ก็ตาม มีเพียงหนังสือชี้แจงกลับมาเพียงฉบับเดียว

การร้องเรียนผ่านศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ 1555 ของ กทม.พิสูจน์แล้วว่า ไม่สามารถดับทุกข์ของชาว กทม.ได้ ศูนย์ 1555 จึงกลายเป็นศูนย์สร้างภาพของ กทม.เท่านั้น ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องร้องทุกข์ได้จริง

ปัญหาความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยของ กทม.ส่วนหนึ่งเกิดจากเจ้าหน้าที่ กทม.นี่แหละ เพราะปล่อยปละละเลยในการแก้ปัญหา แม้ประชาชนจะทำหน้าที่พลเมืองดี ช่วยเป็นหูเป็นตาแทน กทม.ช่วยแจ้งเบาะแสการกระทำผิด แต่เจ้าหน้าที่ กทม.กลับเพิกเฉย

ผอ.เขตประเวศ ที่เพิ่งถูกพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. สั่งย้ายไปเป็น ผอ.เขตคลองสามวา ความจริงเป็นคดีใหญ่มาก เพราะพยายามกวดขันการปฏิบัติหน้าที่ของหัวหน้าฝ่ายโยธา เขตประเวศ ซึ่งปล่อยปละละเลยการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนของประชาชน จน ผอ.เขตต้องลงมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

และหลังจากเตรียมลงโทษหัวหน้าฝ่ายโยธา ปรากฏว่า มีคนถูกส่งมาติดตามความเคลื่อนไหวผอ.เขตประเวศ ในลักษณะหมายปองร้าย ก่อนที่ผอ.เขตจะแจ้งตำรวจจับกุมตัว พร้อมอาวุธปืนลูกซอง โดยการสอบสวนพบผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมเป็นพนักงาน กทม.ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลว่า เกี่ยวข้องกับปัญหาการลงโทษหัวหน้าฝ่ายโยธาหรือไม่

ปัญหาระหว่างผอ.เขตประเวศกับหัวหน้าฝ่ายโยธาเขตประเวศ พล.ต.อ.อัศวินได้เรียกคู่ขัดแย้งพูดคุยปรับความเข้าใจ ก่อนที่จะสรุปการแก้ปัญหาง่ายๆ โดยสั่งย้ายทั้งคู่อยู่ห่างจากกัน ทั้งที่ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง

เพราะถ้าหัวหน้าฝ่ายโยธา ปล่อยปละละเลยการปฏิบัติหน้าที่ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ร้องเรียน กทม.ต้องสอบสวนความผิด และลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด

นอกจากการจับผู้ต้องสงสัยที่มีพฤติกรรมปองร้ายผอ.เขตประเวศ ถ้าเกี่ยวพันกับปัญหาความขัดแย้งกับหัวหน้าฝ่ายโยธา แสดงว่า ภายในสำนักงานเขตประเวศ มีข้าราชการที่มีพฤติกรรมเข้าข่าย “มาฟีย” พร้อมใช้อำนาจเถื่อนกับใครก็ได้ที่ขวางทาง แม้จะเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงก็ตาม

เขตประเวศเคยมีข่าวใหญ่ คดีป้าทุบรถ หรือคดีนางสาวรัตนฉัตร แสงหยกตระการ ที่ร่วมกันใช้ขวานจามรถที่จอดกีดขวางทางเข้าออกหน้าบ้าน บริเวณหน้าสวนหลวง ร. 9 เขตประเวศ

เบื้องหลังคดีป้าทุบรถ ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเพราะความคับแค้นจากการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานเขตประเวศ เพราะร้องเรียนการนำสิ่งของมาจำหน่ายกีดขวางหน้าบ้านหลายครั้ง แต่ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข จนร้องศาลปกครองกลาง

ปัญหาการจอดรถยนต์บนบาทวิถี กทม.เคยรณรงค์ป่าวประกาศให้ประชาชนแจ้งเบาะแสการกระทำผิด และมีรางวัลการแจ้งเบาะแสนั้น กลายเป็นเรื่อง “แหกตา” ชาวบ้านไปเสียแล้ว

เพราะแจ้งเรื่องร้องเรียนไปที่ฝ่ายเทศกิจ เขตประเวศเกือบจะครบ 1 ปีแล้ว ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข จนไม่รู้ว่า วันๆ เจ้าหน้าที่เทศกิจ เขตประเวศ เอาเวลาไปไล่รีดไถพ่อค้าแม่ค้าผู้ยากจน เหมือนเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจบางเขตหรือไม่