ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -“พลังดูด”ภายใต้การขับเคลื่อนและเดินเกมของ “แก๊งสามมิตร”สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สมศักดิ์ เทพสุทิน-สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นการเคลื่อนไหวที่ “ดุดัน”
ต่างจากคราวสร้างพรรคอะไหล่ทหาร เมื่อครั้ง “เพื่อแผ่นดิน”ที่แม้รวบรวมระดมพลมาได้ แต่ไม่แข็งแกร่งพอจะอัพชั้นเทียบ “มวยรุ่นใหญ่” อย่าง “เพื่อไทย” และ “ประชาธิปัตย์” ที่แข็งโป๊กในพื้นที่
“พลังประชารัฐ”เที่ยวนี้ เหมือนถอดบทเรียนความล้มเหลวในอดีตของพรรคอะไหล่ทหาร อะไรล้มเหลวไม่เดินตาม แต่อะไรที่ยังขาด จัดการเติมให้หมด โดยมี “ไทยรักไทย”ของทักษิณ ชินวัตร ยุครุ่งเรือง เป็นโมเดล
เอาเงินล่อ เอาคดีจ่อคอหอย เพื่อดูดให้เข้ามาร่วมแก๊ง แล้วไม่ได้พูดลอยๆ เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ แต่เปิดตัว “สุริยะ”หัวจ่าย ตั้งแต่สมัยไทยรักไทย มาให้อดีต ส.ส.ได้เห็นว่า คนจริง จ่ายจริง ไม่มีอั้น
ขณะที่คดีในองค์กรอิสระไม่ต้องพูดถึง เกือบทุกองค์กรตอนนี้ “ท็อปบูต”ส่งคนของตัวแทนเข้าไปประจำการได้เกือบจะทั้งหมด เรียกว่า อำนาจอยู่ในการคอนโทรลแทบจะหมดแล้ว
แล้วไม่ได้สักแต่เน้นปริมาณ ดูดนักการเมืองเข้าแก๊งอย่างเดียว แต่เที่ยวนี้ “สามมิตร”ที่รับจ๊อบตระเวนดูด ล่อแต่พวกเกรดเอ มีฐานเสียงแน่นด้วยลำแข้งตัวเอง ไม่ใช่พึ่งยี่ห้อพรรคเพื่อไทย เห็นได้ตั้งแต่ที่การรวบ “บ้านใหญ่”จ.นครปฐมของ “ตระกูลสะสมทรัพย์’
หรือแม้แต่ “แก๊งสนสามใบ”ที่ จ.เลย ของ “ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข”อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยุครัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ “แก๊งสามมิตร”นั่งเครื่องไปเปิดตัวสมาชิกด้วยตัวเอง แล้วยังไม่นับรวมพวกเกรดเอ จังหวัดเล็ก ที่เรียบร้อยโรงเรียนแป๊ะ เป็นสิบๆ ราย ก่อนหน้าอีกเป็นโขยง
ล่าสุดอีกหนึ่งตู้มที่เมืองดอกบัว “อุบลราชธานี”พื้นที่ที่มีความหลากหลายทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นจังหวัดใหญ่ที่ไม่มีใคร หรือพรรคใดยึดครอง นักการเมืองแต่ละคน “แข็ง”ด้วยลำแข้งตัวเอง
อย่าง “สุพล ฟองงาม”อดีตเลขาธิการพรรรคไทยรักไทย และอดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นักการเมืองสายเก๋า รุ่นลายคราม ที่เคยเป็นทัพหน้าให้ นปช. เมื่อครั้งม็อบไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตกลงปลงใจ เปิดตัวทางอ้อมก่อนที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะไปประชุมครม.สัญจร กันที่นั่น
ที่ว่า เปิดตัวทางอ้อม ไม่ใช่เพราะ “สุพล”ออกมาคอนเฟิร์มร่วมก๊วน “พลังประชารัฐ”แต่มาจากท่าทีหลายอย่างที่สอดคล้องกันว่า เปลี่ยนยูนิฟอร์ม ที่ร่วมมือกับ “แก๊งสามมิตร” แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันว่า ในฐานะเจ้าบ้านจะพาอดีต ส.ส.ในแก๊ง ออกไปต้อนรับขับสู่ “บิ๊กตู่”ด้วยตัวเอง
การไม่ออกมาปฏิเสธ หรือโวยวายข่าว “โดดดูด”ที่เหมือนเป็นการยอมรับ เรื่อยไปถึงการสุมหัวกันของแก๊งอดีต ส.ส.อุบลราชธานี นำโดยเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สาย “เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เมื่อวันก่อน ที่มีมติกันว่า ห้ามใครไปเสนอหน้าต้อนรับศัตรู ซึ่งไร้เงาของ “สุพล” รวมถึงเพื่อนในแก๊งที่ก็ไม่ไปปรากฏตัว ตั้งแต่ สุทธิชัย จรูญเนตร อดีต ส.ส.อุบลราชธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย , อดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย , อดุลย์ นิลเปรม อดีต ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคไทยรักไทย, โกวิทย์ ธรรมมานุชิต ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี, ณรงค์ศักดิ์ โกศัลวัฒน์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
เชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ สจ.เขตตระการพืชผล บุตรชาย นายอดิศักดิ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย , สุชาติ ตันติวณิชชานนท์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน, ตวงทิพย์ จินตะเวช ลูกสาว ตุ่น จินตะเวช อดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา และ ธนัญชัย โควสุรัตน์ พี่ชาย นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทย และญาติวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
ลิสต์รายชื่อข้างต้น ที่ไม่ปรากฏเงาวันนั้น น่าจะแบเบอร์ว่า สวมยูนิฟอร์ม “พลังประชารัฐ”แน่!
สำหรับ “สุพล”หัวหน้าแก๊ง อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรในพรรคเพื่อไทยมาก แต่จัดเป็นนักการเมืองชั้นพรีเมียม ที่แม้แต่ “ทักษิณ”ยังเสียดาย ไม่ว่าเป็นฝีมือ และกระเป๋า ไม่เช่นนั้นไม่ไว้ใจให้นั่ง ทั้งเลขาธิการไทยรักไทย และเพื่อไทย ที่เป็นเหมือนกับแม่บ้านพรรค
นอกจากนี้ ยังเคยทะลุไปถึงเก้าอี้ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.มหาดไทย ในยุคที่ “ทักษิณ”ยังเรืองอำนาจ เป็นนักการเมืองรุ่นใหญ่ที่อาศัยทำพื้นที่ได้ ขณะเดียวกัน ก็เป็นม้าพยศ ที่ใครก็อยากควบ อยากสยบ เหมือนเมื่อครั้งตอนไทยรักไทย “สุพล”ตอนอยู่แก๊งวังน้ำเย็นของ “ป๋าเหนาะ” เสนาะ เทียนทอง เคยนินทาเจ้านายมาแล้วว่า ผมเป็นนักการเมือง ไม่ใช่ลูกจ้างบริษัท !
เป็นนักการเมืองที่มีฐานเสียงในอุบลราชธานีแข็งแกร่ง การันตีคะแนนให้กับ “พลังประชารัฐ”ได้แน่ๆ ไม่ใช่พวกแถว บี แถว ซี ที่ต้องลุ้นตุ่มๆ ต่อมๆ
การตัดสินใจทิ้งพรรคเพื่อไทย ย้ายขั้วกับอยู่กับท็อปบูต ในฐานะนักการเมืองรุ่นเก๋า น่าจะเห็นทิศทางแล้วว่า ควรจะทำตัวเป็นเห็บกระโดดหนีที่เก่า ที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ มีแต่ข่าวเคาะกะลาให้หมาดีใจ ว่าท่อน้ำเลี้ยงจะเปิด แต่จนแล้วจนรอด ก็เป็นแค่ข่าวเชิงจิตวิทยา ด้วยเพราะอ่านเกมนายเก่า ไม่ชนะ ยากที่จะจ่าย
ขณะที่ของใหม่ “สามมิตร”มีการันตี ยี่ห้อ “สุริยะ”จ่ายหนัก จ่ายจริง ไม่ต้องรอถึงเลือกตั้งคราวหน้า แค่ตกลงปลงใจย้ายข้างมาอยู่ ได้เลยทั้งงบทำพื้นที่ ทั้งงบโครงการต่างๆ ที่จะลงไป “ของชัวร์”ไม่ต้องมัวรอว่า เมื่อไหร่จะจ่าย ตามพิสัยนักการเมืองที่อดอยากปากแห้งมานาน ย่อมเลือกสิ่งที่แตะต้องได้มากกว่าคำพูดลอยๆ
ยืนยันหนักแน่น ตามคิวที่ “บิ๊กตู่”ยกคณะลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ดูดแล้วไม่ทิ้งขว้าง แต่เอางบประมาณไปลงตามโครงการต่างๆ เพื่อช่วยซัพพอร์ต ทำคะแนนกันอีกแรง เป็นอีกอีเวนต์เปิดตัวแนวร่วม ไปพร้อมๆ กับการทำพื้นที่
เรียกว่า วิน -วิน “สุพล”ก็ได้หน้า ได้งบ “บิ๊กตู่”ก็หวังใช้คะแนนเสียงตรงนั้นมาเป็นอีกหนึ่งเสียงในการต่อท่ออำนาจ
แล้วยังเป็นจิตวิทยา “อุปทานหมู่”ส่งไปถึงพวกที่ยังลังเล ว่า จะย้ายขั้วดีหรือไม่ดี ข่าวบิ๊กนักการเมืองคนนั้น คนนี้ ถูก“ดูด”แล้ว บ่อยๆ ถี่ๆ นานวันยิ่งเยอะ ยิ่งบิ๊กเนม มันทำให้พวกที่ยังชั่งใจ เริ่มออกอาการหวั่นๆ ควรเก็บเสื้อผ้าย้ายไปด้วยอีกคน ดีหรือไม่
เพราะใครก็ไปร่วม ขณะที่ “เพื่อไทย”มีแต่ข่าวเลือดไหล สมองไหล ไม่มีทีท่าจะว่าจะหาทางหยุดเลือด นอกจากมุกเดิมๆ ใครไปจากมุ้งไปเตรียมตัวแพ้ได้เลยเท่านั้น !
ขณะที่ท็อปบูตเดินเกม ไม่แคร์ ไม่สนคนนินทา หมาดูถูก ดูดเสร็จ เงินไป ตัวไป ทำให้รู้ “จับต้องได้”