xs
xsm
sm
md
lg

เกาหลีเหนือโดนสหรัฐฯ ขู่หนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์


ผู้นำสหรัฐฯ ได้เผยไต๋ออกมาแล้ว ด้วยเสียงขู่ดังๆ ว่าถ้าเกาหลีเหนือไม่ยอมเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ยังดื้อรั้นไม่ยอมเจรจาเรื่องปลดอาวุธนิวเคลียร์ ชะตากรรมของประเทศจะไม่ต่างจากลิเบีย และผู้นำคิม จองอึน คงไม่รอดจากเงื้อมมือพิฆาตของสหรัฐฯ แน่

ว่ากันอย่างนี้แหละ ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็พูดเตือนแกมขู่ว่าถ้าเกาหลีเหนือแสดงท่าทีไม่เป็นที่น่าพอใจ ตัวเองจะเดินออกจากห้องประชุมการเจรจา จากนั้นเกาหลีเหนือต้องเผชิญแรงกดดันเพิ่มจากมาตรการคว่ำบาตรต่อเนื่องประเทศใดที่ยังค้าขายกับเกาหลีเหนือ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ก็จะโดนด้วย!

นี่คือชาติมหาอำนาจที่ทำตัวเป็นตำรวจโลกพร้อมจะจัดการกับประเทศไหนก็ได้ที่ด้อยกว่า ไม่ใส่ใจกฎบัตรนานาชาติ หรือองค์การสหประชาชาติซึ่งสหรัฐฯ คุมได้ แม้จะมีสมาชิกมากกว่า 155 ประเทศ กรณีเกาหลีเหนือนั้น ทรัมป์เป็นผู้ขีดเส้นให้เดิน

“สหรัฐฯ จะไม่ยอมให้เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งสามารถคุกคามความมั่นคงของสหรัฐฯ และประเทศในบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ใครจะมีอาวุธนิวเคลียร์จากนี้ไปไม่ได้ แต่ตัวเองและชาติมหาอำนาจอื่นๆ มีได้ เอาอย่างนั้นเลย

คำขู่ของทรัมป์เกิดขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือแสดงท่าทีไม่พอใจที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ซ้อมรบร่วมกัน แสดงแสนยานุภาพซึ่งเกาหลีเหนือถือว่าเป็นการคุกคาม หยาบคาย ไร้มารยาท ทั้งๆ ที่ได้ตกลงกันแล้วว่าจะเข้าสู่การเจรจาวันที่ 12 เดือนหน้า

กำหนดไว้ด้วยซ้ำว่าจะพบกันที่สิงคโปร์ สถานที่ประชุมก็กำลังถูกจัดอย่างเร่งรีบเพื่อให้ทันงาน แต่เมื่อสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ซ้อมรบ 2 สัปดาห์ เกาหลีเหนือมองว่าเป็นการพลิกท่าทีแสดงความเป็นปฏิปักษ์ ทั้งๆ ที่ได้กอดรัดอี๋อ๋อกับผู้นำเกาหลีใต้ไปแล้ว

ในการพบปะกันที่ชายแดน ทั้ง 2 เกาหลีประกาศยุติสงครามซึ่งยืดเยื้อกว่า 65 ปี เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการทดสอบขีปนาวุธ จะระเบิดแหล่งทดสอบทิ้ง พร้อมให้ผู้สื่อข่าวนานาชาติเข้าตรวจสอบ ปรับเวลาให้ตรงกับเกาหลีใต้ ยอมทำเพื่อสันติภาพ

เมื่อเกาหลีเหนือไม่พอใจ สหรัฐฯ ก็คาดเดาต่างๆ นานาว่าเกาหลีเหนือจะหาเรื่องไม่เจรจา ทั้งๆ ที่ตัวเองไปทำเสียเรื่อง เสียบรรยากาศเสียก่อน โดยไร้เหตุผล ดังนั้น จึงมีเสียงสำทับจากทรัมป์ และที่ปรึกษาด้านความมั่นคง จอห์น โบลตัน

ทั้งคู่จัดว่าเป็นสายเหยี่ยว พร้อมจะใช้กำลังจัดการกับเกาหลีเหนือ ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง ล่าสุดรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ก็มาแนวสายเหยี่ยวด้วย เตือนผู้นำเกาหลีเหนือว่าจะประสบชะตากรรมเดียวกับลิเบีย ซึ่งเกาหลีเหนือเชื่อว่าจะเกิดด้วย

กรณีลิเบียนั้น อดีตผู้นำ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ยินยอมยกเลิกโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ หลังจากการเกลี้ยกล่อมเชิงกดดันโดยสหรัฐฯ เมื่อกัดดาฟีตกลง อีกไม่นานหลังจากนั้นก็เกิดกบฏหนุนโดยสหรัฐฯ ทำสงครามกลางเมือง ล้มรัฐบาลกัดดาฟี

กัดดาฟีโดนกลุ่มกบฏรุกฆาต ด้วยกำลังอาวุธจากสหรัฐฯ รัฐบาลล่ม ตัวเองโดนจับได้ ถูกพวกกบฏฆ่าอย่างทารุณ บ้านเมืองล่มสลาย สงครามกลางเมืองระหว่างกลุ่มต่างๆ ยังมีต่อไป กลุ่มก่อการร้ายทั้งไอซิส และอัลกออิดะห์ใช้เป็นที่กบดาน

จากความย่อยยับของลิเบีย อิรัก อัฟกานิสถาน และซีเรีย โดยฝีมือของสหรัฐฯ ย่อมทำให้ผู้นำเกาหลีเหนือเห็นภาพชัดว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้ามีปัญหากับสหรัฐฯ แบบหาทางออกไม่ได้ แต่มีกรณีต่างกันคือเกาหลีเหนือมีเพื่อนหนุน คือจีนและรัสเซีย

ทั้ง 3 ประเทศร่วมหัวอกอันเดียวกันคือ โดนสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรจนลำบาก แต่จีนยังหาข้อตกลงผ่อนปรนเงื่อนไขแรงบีบคั้นจากสหรัฐฯ ได้เพราะยังมีพลังต่อรองมาก ส่วนรัสเซียไม่ยอมอ่อนข้อให้เพราะถือว่ามีแสนยานุภาพไม่ต่างกันมาก

เมื่อโดนถามว่าการเอ่ยถึงลิเบียเท่ากับเป็นการข่มขู่เกาหลีเหนือใช่หรือไม่ ไมค์ เพนซ์ บอกว่า “นั่นเป็นการพูดตามสภาพความจริง” แต่ไม่อธิบายว่ามีเงื่อนไขอะไร

เมื่อผู้สื่อข่าวถามเพนซ์ อีกว่าเกาหลีเหนือจะโดนอย่างลิเบียจริงหรือ ก็ได้รับคำตอบว่า “อยู่ในวิสัยว่าจะเป็นเช่นนั้น” ดังนั้นเกาหลีเหนือจึงดูว่าสหรัฐฯ จะเอาจริงแค่ไหนและตัวเองต้องประเมินเช่นกันว่าผลสุดท้ายจะพึ่งจีนและรัสเซียได้เพียงใด

ถ้าทรัมป์จะทำกับเกาหลีเหนือ ก็ไม่น่าจะง่ายนัก อย่างน้อยเกาหลีใต้ซึ่งจะได้รับผลกระทบโดยตรงคงไม่ยอม และเกาหลีเหนือก็โดนขนาบโดยจีนและเกาหลีใต้ซึ่งไม่ต้องการให้คาบสมุทรเกาหลีอยู่ในภาวะสงคราม ญี่ปุ่นก็ไม่ต้องการเช่นกัน

เกาหลีเหนือมองว่าการอ้างรูปแบบลิเบียเป็นความเคลื่อนไหวที่ชั่วร้ายของฝ่ายสหรัฐฯ โฆษกทำเนียบขาว ซาราห์ แซนเดอร์ส บอกว่าเธอเชื่อมั่น 100 เปอร์เซ็นต์ว่าทรัมป์มีขีดความสามารถในการเจรจาสูง และมียุทธศาสตร์การเจรจาชั้นเยี่ยม

การประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์และคิม จองอึน จะเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ แต่ก่อนถึงวันนั้นทรัมป์และคณะเลือกที่จะใช้คำพูดเชิงกดดันและบีบคั้นให้เกาหลีเหนือรับรู้ว่าการปลดอาวุธนิวเคลียร์เป็นประเด็นหลัก

ด้วยเหตุนี้เอง จึงได้มีการรณรงค์ด้วยคำพูดแบบเปรยและคำขู่ เพื่อที่จะไม่ให้เกาหลีเหนือตั้งแง่มาก และทรัมป์ก็บอกว่าถ้าไม่ได้ดังใจตัวเอง ก็พร้อมจะล้มโต๊ะเจรจา เกาหลีเหนือจะต้องกำหนดท่าทีว่าจะเข้าไปเจรจาแบบไก่รองบ่อนหรือไม่

ผู้นำเกาหลีใต้ มุน แจอิน กำลังเยือนสหรัฐฯ คุยกับทรัมป์ เพื่อกำหนดท่าทีร่วมกัน และสะสางข้อสงสัยว่าคิม จองอึน พร้อมจะปลดอาวุธนิวเคลียร์จริง ตามที่ได้ตกลงช่วงเจรจาระหว่างผู้นำของทั้งสองเกาหลีหรือไม่ หรือเกาหลีใต้คิดเอาเอง

จากนี้ไปประเด็นที่น่าเฝ้ามองคือการประชุมสุดยอดจะเกิดขึ้นหรือไม่!


กำลังโหลดความคิดเห็น