งานเข้า! โสมแดงขู่ยกเลิกซัมมิต “ทรัมป์” อ้างรับไม่ได้ถูกบีบให้ปลดนุก

เอเอฟพี - เกาหลีเหนือออกมาขู่วันนี้ (16 พ.ค.) จะยกเลิกการประชุมซัมมิตระหว่างผู้นำคิม จองอึน กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ หากวอชิงตันยังไม่หยุดกดดันให้เปียงยางต้องละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์

สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนืออ้างถ้อยแถลงจาก คิม กเย-กวาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศคนที่ 1 (first vice foreign minister) ซึ่งระบุว่า หากรัฐบาลทรัมป์ “ยังขืนบีบให้เราจนตรอก และเรียกร้องฝ่ายเดียวให้เราละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์ เราก็ไม่สนใจที่จะเจรจาอีกต่อไป และคงต้องกลับมาทบทวนอีกครั้งว่าจะยอมจัดประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีกับสหรัฐอเมริกาหรือไม่”

สหรัฐฯ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์แบบ ตรวจสอบได้ และไม่สามารถหวนกลับไปได้อีก แต่จนถึงขณะนี้โสมแดงก็ยังไม่เคยประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะยินยอมผ่อนปรนได้มากแค่ไหน

ระหว่างการประชุมซัมมิตครั้งแรกกับประธานาธิบดีมุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ผู้นำคิมได้ยืนยันเจตนารมณ์ที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่านี่เป็นแค่คำพูดสวยหรูในทางการทูต และขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละฝ่าย

“เราได้แสดงความตั้งใจจริงที่จะทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์ และได้ประกาศย้ำหลายครั้งว่า เงื่อนไขเบื้องต้นคือสหรัฐฯ ต้องยกเลิกนโยบายเป็นปรปักษ์ต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี และหยุดขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีเรา” ผู้ช่วยรัฐมนตรี คิม กล่าว

รัฐบาลเปียงยางในอดีตเคยยื่นเงื่อนไขให้สหรัฐฯ ถอนทหารกว่า 20,000 นายที่อยู่ประจำการเพื่อปกป้องเกาหลีใต้ออกไปทั้งหมด และเลิกใช้ระบบคุ้มกันนิวเคลียร์ปกป้องโซล

ผู้ช่วยรัฐมนตรี คิม ยังกล่าวประณาม จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งแนะให้ ทรัมป์ เอา “ลิเบียโมเดล” มาใช้ในการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ

“นี่คือความพยายามอันชั่วช้าที่สุดที่จะยัดเยียดชะตากรรมของลิเบียและอิรักให้เกาหลีเหนือ” คิม กล่าว “ผมไม่อาจระงับความโกรธต่อสิ่งที่สหรัฐฯ ทำ และสงสัยว่าสหรัฐฯ ต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือผ่านการพูดคุยและเจรจาจริงหรือไม่”

เกาหลีเหนืออ้างมานานแล้วว่าจำเป็นต้องมีอาวุธนิวเคลียร์เอาไว้ป้องกันตนเองจากการรุกรานของสหรัฐฯ และได้เห็นบทเรียนของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำเผด็จการลิเบีย ที่ยอมยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ จนสุดท้ายต้องถูกฆ่าตายอย่างน่าอเนจอนาถในการลุกฮือที่มีนาโตทิ้งบอมบ์สนับสนุน

ผู้ช่วยรัฐมนตรี คิม ยังปฏิเสธข้อเสนอของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ ซึ่งสัญญาว่าวอชิงตันจะมอบความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจเพื่อแลกกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์

“เราไม่เคยคาดหวังการสนับสนุนใดๆ จากสหรัฐฯ ในการเสริมสร้างเศรษฐกิจของเราเอง และจะไม่ทำข้อตกลงเช่นนั้นในอนาคตด้วย”