รอยเตอร์ - เกาหลีเหนือแถลงประณามการซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ว่าเป็นพฤติกรรม “ยั่วยุ” และขอยกเลิกแผนเจรจาระดับสูงกับโซลอย่างกะทันหันในวันนี้ (16 พ.ค.) กลายเป็นจุดเปลี่ยนของบรรยากาศปรองดองซึ่งทำให้กำหนดการประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กับผู้นำคิม จองอึน ตกอยู่ในความไม่แน่นอนอีกครั้ง
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือใช้ถ้อยคำเผ็ดร้อนวิจารณ์ปฏิบัติการซ้อมโจมตีทางอากาศ “แม็กซ์ ธันเดอร์” ซึ่งอ้างว่ามีฝูงบินขับไล่ชนิดหลบหลีกเรดาร์และเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ของสหรัฐฯ เข้าร่วมด้วย
การประชุมซัมมิตที่สิงคโปร์ในวันที่ 12 มิ.ย.จะถือเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในตำแหน่ง กับผู้นำเกาหลีเหนือ และหากงานนี้ถูกยกเลิกก็จะทำให้ผลงานด้านการทูตชิ้นโบแดงของรัฐบาล ทรัมป์ ต้องพังไม่เป็นท่า
ทรัมป์ นั้นมีความหวังว่าการพบปะกับ คิม คราวนี้คงได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงกังขาว่าทั้งสองฝ่ายจะลดความแตกต่างอย่างไร และเปียงยางมีความตั้งใจจริงแค่ไหนที่จะละทิ้งคลังแสงนิวเคลียร์ซึ่งได้รับการพัฒนาก้าวหน้าไปมากแล้ว
รายงานของเคซีเอ็นเอระบุว่า การซ้อมรบทางอากาศถือเป็น “พฤติกรรมยั่วยุ” ซึ่งสวนทางกับความสัมพันธ์ที่อบอุ่นขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้
“การซ้อมรบซึ่งพุ่งเป้ามาที่เรา และกำลังเกิดขึ้นทั่วเกาหลีใต้ ถือเป็นการท้าทายปฏิญญาปันมุนจอม (Punmunjom Declaration) และเป็นพฤติกรรมยั่วยุทางทหารอย่างจงใจที่ขัดแย้งกับพัฒนาการทางการเมืองเชิงบวกบนคาบสมุทรเกาหลี” เคซีเอ็นเอระบุ โดยอ้างถึงคำแถลงร่วมระหว่างสองเกาหลีในการประชุมซัมมิตเมื่อวันที่ 27 เม.ย.
“สหรัฐอเมริกาควรต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับอนาคตของการประชุมซัมมิตระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ หลังมีการยั่วยุทางทหารร่วมกับฝ่ายเกาหลีใต้เช่นนี้”
ฮีทเธอร์ เนาเอิร์ท โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า “ผู้นำคิม จองอึน เคยพูดก่อนหน้านี้ว่า เขาเข้าใจความจำเป็นและวัตถุประสงค์ที่สหรัฐฯ และสาธารณรัฐเกาหลีต้องเปิดการซ้อมรบร่วมกัน”
“เรายังไม่ได้รับแจ้งจากรัฐบาล (เกาหลีเหนือ) หรือรัฐบาลเกาหลีใต้ว่าจะต้องยุติการซ้อมรบ หรือจะไม่มีการประชุมระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ กับ คิม จองอึน เกิดขึ้นในเดือนหน้า”
ด้านโฆษกหญิงทำเนียบขาว ซาราห์ แซนเดอร์ส ระบุว่า สหรัฐฯ จะพิจารณาคำแถลงของเกาหลีเหนือ และ “ประสานงานกับชาติพันธมิตรอย่างใกล้ชิดต่อไป”
ชุง อึยยอง หัวหน้าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ เคยกล่าวไว้เมื่อต้นเดือน มี.ค. หลังจากได้พบผู้นำ คิม ที่เปียงยางว่า ผู้นำโสมแดงเข้าใจว่าการซ้อมรบ “ตามปกติ” ระหว่างโซลและวอชิงตันยังคงต้องดำเนินต่อไปท่ามกลางสายสัมพันธ์สองเกาหลีที่ดีขึ้น
หลายฝ่ายมองว่านี่คือสัญญาณประนีประนอมครั้งสำคัญจากฝ่ายเกาหลีเหนือ แม้ว่าเปียงยางจะยังไม่เคยเพิกถอนข้อเรียกร้องให้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ยุติการซ้อมรบก็ตาม
สำหรับท่าทีแข็งกร้าวล่าสุดของ คิม น่าจะเป็นแผนลองใจ ทรัมป์ ว่าจะรอมชอมกับโสมแดงบ้างหรือไม่ก่อนถึงวันประชุมซัมมิต ซึ่งจะนำมาก่อนด้วยการพบปะระหว่าง ทรัมป์ กับประธานาธิบดีมุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้ในสัปดาห์หน้า
ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือในสหรัฐฯ คนหนึ่งให้ความเห็นว่า คิม อาจต้องการหยั่งเชิง ทรัมป์ ว่าจะยกเลิกแผนประชุมซัมมิตซึ่งทำให้เขาถูกอวยว่าสมควรได้ “รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ” ง่ายๆ หรือไม่
เคซีเอ็นเอรายงานว่า เกาหลีเหนือได้ขอยกเลิกการหารือระดับสูงกับเกาหลีใต้ ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้ (16) เพื่อกำหนดแนวทางบังคับใช้ปฏิญญาปันมุนจอม รวมถึงคำมั่นสัญญาที่ว่าทั้งสองฝ่ายจะยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการด้วยการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์แบบ
“สหรัฐฯ ควรสร้างบรรยากาศแห่งการเคารพและเชื่อมั่นซึ่งกันและกันก่อนเจรจา ไม่ใช่หันไปเล่นละครตลกโง่เขลา (foolish farce) ที่อาจทำลายแนวโน้มดีๆ ที่สร้างขึ้นด้วยความยากลำบาก”
ล่าสุด รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ออกมาแสดงความ “เสียใจ” ที่เปียงยางขอเลื่อนการหารือระดับสูงออกไป
“สิ่งที่เกาหลีเหนือทำไม่สอดคล้องกับสปิริตและวัตถุประสงค์ขั้นพื้นฐานของปฏิญญาปันมุนจอมที่ผู้นำเกาหลีใต้และเหนือได้ตกลงกันในวันที่ 27 เม.ย.” แบ็ก แต-ฮยุน โฆษกกระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้ ระบุวันนี้ (16)
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า ปฏิบัติการซ้อมรบ “แม็กซ์ ธันเดอร์” ระหว่างวันที่ 14-25 พ.ค. ถือเป็นการซ้อมรบตามวาระปกติ และมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันตนเอง โดยจะจัดขึ้นที่ฐานทัพอากาศกวางจู และมีขอบเขตการฝึกซ้อมเท่ากันกับปีก่อนๆ
ข้อมูลจากเว็บไซต์กองทัพอากาศสหรัฐฯ ระบุว่า ปฏิบัติการ “แม็กซ์ ธันเดอร์” ในปีที่แล้วมีทหารอเมริกันและเกาหลีใต้เข้าร่วม 1,500 นาย และใช้เครื่องบินทหารหลายรุ่น รวมถึงฝูงบิน F-16