รัสเซียทูเดย์ - เผยสหรัฐฯ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือเคลื่อนย้ายหัวรบนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีปบางส่วนออกนอกประเทศภายในครึ่งปี แลกกับการปลดพ้นจากบัญชีดำสนับสนุนก่อการร้าย สื่อมวลชนญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการเจรจาเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (17 พ.ค.) ก่อนหน้าที่ผู้นำของทั้งสองชาติมีกำหนดประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์ช่วงกลางเดือนมิถุนายน
หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน ของญี่ปุ่น รายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการเจรจา ได้เล่าฉากหลังของการหารือระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ ว่าฝ่ายวอชิงตันได้แจ้งกับฝ่ายเปียงยาง ว่าพวกเขาคาดหมายว่าโสมแดงจะกำจัดคลังแสงนิวเคลียร์บางส่วนภายใน 6 เดือน
อาซาฮี ชินบุน อ้างด้วยว่าดูเหมือนข้อเรียกร้องดังกล่าวเคยถูกนำเสนอโดย ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อครั้งที่เขาเดินทางไปพบปะกับ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม โดยข้อแลกเปลี่ยนก็คือ อเมริกาอาจปลดเปียงยางพ้นจากบัญชีดำรัฐที่สนับสนุนก่อการร้าย
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เพิ่งใส่ชื่อเกาหลีเหนือกลับเข้าไปยังบัญชีดำดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลอเมริกากำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมเล่นงานเปียงยาง
ข่าวคราวเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ มีขึ้น 1 วัน หลังจากเกาหลีเหนือ ยกเลิกการประชุมระดับสูงระหว่างสองชาติเกาหลีอย่างปัจจุบันทันด่วน เพื่อประท้วงการซ้อมรบร่วมระหว่างทหารสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ ทั้งนี้เปียงยางยังเตือนด้วยว่าพวกเขาอาจดำเนินการแบบเดียวกันกับการประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งอเมริกา และคิม จองอึน ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่สิงคโปร์ ในวันที่ 12 มิถุนายน
เปียงยางแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่ากลยุทธ์การเจรจาต่อรองของวอชิงตันนั้นไม่อาจยอมรับได้ และบอกว่าพวกเขาไม่สนใจการเจรจาที่คิดแต่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ฝ่ายเดียว โดยไม่ได้ให้คำรับประกันว่าเกาหลีเหนือจะไม่ถูกปล่อยทิ้งไว้ในสภาพที่ไร้หนทางป้องกันตนเองในกรณีที่โดนรุกราน
จุดยืนที่ไม่ลงรอยดังกล่าวกลายเป็นการถอยหลังครั้งใหญ่ในกระบวนการคืนความปรองดองในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งถูกวางพื้นฐานเอาไว้ระหว่างการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างคิม จองอึน กับมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือเมื่อเดือนที่แล้ว
การเจรจาสันติภาพระหว่าง มุนกับคิม ได้รับการยกย่องจากเหล่าผู้นำโลกทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงทรัมป์ อย่างไรก็ตาม มันไม่อาจยับยั้งสหรัฐฯ จากการซ้อมรบทางทหารร่วมกับพันธมิตรของพวกเขาในภูมิภาค
ทั้งนี้ การซ้อมรบ Max Thunder 18 ซึ่งมีระยะเวลา 2 สัปดาห์ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อวันศุกร์ (11 พ.ค.) ที่แล้ว โดยมีเครื่องบินมากกว่า 100 ลำเข้ร่วม ขณะที่เกาหลีเหนือมองว่าการซ้อมรบดังกล่าวเป็นการยั่วยุและแสดงความก้าวร้าว